- ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงหลัง Fed เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 13-14 มิ.ย. ซึ่งระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ ขณะที่ทางฝั่งจีนและยุโรปยังมีแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาซบเซาและต่ำกว่าตลาดคาดต่อเนื่อง
-
- Russia-Ukraine ไม่มีพัฒนาการเชิงบวก ด้านราคาถ่านหินในยุโรปเพิ่มขึ้น 1.6% ราคาก๊าซธรรมชาติลดลง 4.1% ส่วนต่างดอกเบี้ยของกลุ่ม IG ทั่วโลกปรับตัวลดลง 1bps ส่วนตราสาร HY ปรับเพิ่มขึ้น 1bps ขณะที่ตลาดหุ้นจีนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม Reopening ในจีนยังค่อนข้างผันผวน โดยล่าสุดปรับลดลง 1.6% จากภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงต่อเนื่องและนักลงทุนยังเน้นไปที่ความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมที่ออกมาค่อนข้างช้า ทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้องปรับตัวลดลง กลุ่มเสื้อผ้าลดลงแรง 4.6%
-
- จากการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐในเดือน มิ.ย. นั้นพบว่าท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐจะยังดำเนินนโยบายการเงินแบบตึงตัวต่อไปแม้ว่าจะมองเห็นความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่สภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วง 2H23 ก็ตาม ใจความสำคัญของการประชุมได้แก่ 1) ย้ำท่าทีการขึ้นดอกเบี้ย 2) คณะกรรมการส่วนใหญ่เห็นให้คงดอกเบี้ยใน มิ.ย. และบางคนมีความเห็นให้ขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งเป็นการตอกย้ำ Hawkish pause 3) มองเห็นความเสี่ยงเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง 4) มีการคาดการณ์ว่าจะเกิดสภาวะเศรษฐกิจถดถอยแบบไม่รุนแรงในช่วง 5) มีการถกเถียงในประเด็นการออก T-bill อาจจะกระทบกับดอกเบี้ยในตลาดการเงิน
-
- ดังนั้นด้วยภาพในรูปแบบนี้ตลาดก็ปรับเปลี่ยนความคาดหวังโดยมองว่าโอกาสในการลดดอกเบี้ยใน 2H23 นั้นเหลือน้อยมากแล้วและการขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ก.ค. อยู่ที่ 80-85% จาก 60-65% ในเดือนก่อนหน้า จากสถิติจะพบว่าในช่วงที่ธนาคารกลางสหรัฐเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนั้นเมื่อตลาดผ่านจุดต่ำสุดแล้วจะไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่แต่จะไม่ทำจุดสูงสุดใหม่เช่นกัน เราจึงมองว่าตลาดยังมีความเสี่ยงให้อยู่ในแนวตั้งรับในหุ้นเชิงรับอย่าง WMT, PG, KO, MCD, PEP
-
- การโจมตีทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นก่อให้เกิดความเสี่ยงที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของอินเดีย รวมไปถึงท่าเรือในญี่ปุ่นที่จะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานบางอุตฯเช่นกัน ขณะที่การโจมตีทางไซเบอร์เพิ่มขึ้นหลังหลายบริษัททั้งในอินเดียและญี่ปุ่นเปลี่ยนการดำเนินงานแบบเอกสารกระดาษและหันมาเริ่มใช้งานระบบให้เป็นดิจิทัลขึ้น อย่างไรก็ดีด้วยภาพนี้อาจทำให้บริษัทอาจละเลยการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ จึงทำให้เกิดช่องโหว่ในการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์
-
- ด้วยภาพนี้ทำให้เรามองว่าอุปสงค์ของแพลตฟอร์ม Cybersecurity ที่สามารถป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์จะเพิ่มขึ้นตามอาชญากรรมที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเราชอบ PANW ที่เป็นผู้นำตลาดและคาดได้รับประโยชน์จากภาพนี้
|