Keyword
Global Morning Routine

INVX Global Morning Routine - 7 ก.ย. 2566

11 Nov 21 6:11 PM
logo-08b190918c-8137-433f-bad5-3244fe1a02ea-20240911160416

บทสรุป

  • ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงหลังมีแรงกดดันจากภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงทั่วโลก ด้านคำสั่งซื้อสินค้าใหม่ในยุโรปปรับตัวลงมากกว่าคาด ขณะที่สหรัฐฯถึงแม้จะเผยตัวเลขเศรษฐกิจแกร่ง แต่ตลาดกลับกังวลต่อแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED หลังตัวเลขเศรษฐกิจออกมาแกร่ง ประกอบกับการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันที่อาจทำให้เงินเฟ้อปรับตัวขึ้น
  •  
  • กระแสเงินในวันที่ 4 ก.ย. 2023 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ค่อนข้างผันผวน โดยล่าสุดมีเงินไหลเข้า โดยเฉพาะตราสารหนี้คุณภาพดีและพันธบัตรรัฐบาล ทั้งนี้มองว่าเป็นการคลายความกังวลต่อท่าทีของ FED 2) กลุ่มเชิงรับ Healthcare มีแรงซื้อสวนทางอย่างกลุ่ม Utilities แต่ปริมาณเงินไม่สูงมากนัก มองเป็นการเล่นตามประเด็นในรายกลุ่ม 3) กระแสเงินในกลุ่มเทคโนโลยีผันผวน โดยล่าสุดเป็นแรงขายหลังราคาปรับเพิ่มขึ้นแรง เช่นเดียวกับหุ้นธีม Growth 4) มีแรงซื้อเก็งกำไรในตลาดหุ้นจีนตามการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีน ทำให้มีแรงซื้อในราคาสินค้าโภคภัณฑ์ด้วย 5) มีแรงขายในหุ้นขนาดเล็กจากผลกระทบของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงแต่ภาพรวมกระแสเงินค่อนข้างผันผวน
  •  
  • Russia-Ukraine ไม่มีพัฒนาการเชิงบวก ด้านราคาถ่านหินในยุโรปลดลง 3.9% ราคาก๊าซธรรมชาติลดลง 11.6% ส่วนต่างดอกเบี้ยของกลุ่ม IG ทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น 1bps ส่วนตราสาร HY ปรับลดลง 2bps ด้านตลาดหุ้นจีนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม Reopening ในจีนยังค่อนข้างผันผวน โดยล่าสุดปรับตัวลดลง 0.8% แม้ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง แต่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าส่งผลกับกำลังซื้อของจีนในระยะสั้น ทุกกลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวลดลง โดยกลุ่มร้านอาหารและเสื้อผ้าปรับตัวลดลง 1.7%-1.8%
  •  
  • ประธานของ Richemont ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์สินค้าหรูหรา เช่น Cartier IWC เผยอัตราเงินเฟ้อที่สูงส่งผลให้ราคาสินค้าแพงขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งมีส่วนกระตุ้นให้ผู้บริโภคชาวยุโรปที่มีฐานะดีหันมาซื้ออีกครั้ง สวนทางกับผู้บริโภคทั่วไปในยุโรปที่ส่วนมากให้น้ำหนักกับการใช้จ่ายเพื่อซื้อของจำเป็นพื้นฐานสูงกว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้เผยความต้องการในสหรัฐฯ และจีนเริ่มลดลง จากภาพนี้สะท้อนได้ว่าในกลุ่มตลาดหลักนั้นค่อนข้างมีปัญหา ซึ่งสัดส่วนของ Richemont ในตลาดจีนมีมากสุดราว 25% ขณะที่ยุโรปและสหรัฐฯอยู่ที่ราว 22% และ 19% ตามลำดับ ซึ่งทำให้เรามองว่างบในช่วง 3Q23 ของกลุ่มสินค้าหรูหราจะได้รับผลกระทบจากภาพนี้แน่นอน เราจึงแนะหลีกเลี่ยงในระยะสั้นก่อน
  •  
  • Apple กำลังประสบปัญหาสต็อกสินค้าตกต่ำที่สุดในรอบหนึ่งเดือน นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าพนักงานจีนบางส่วนถูกสั่งห้ามใช้อุปกรณ์แบรนด์ต่างประเทศในที่ทำงาน เรามองว่าประเด็นนี้ไม่ใช่ประเด็นใหม่ซึ่งในปี 2022 เคยมีมาก่อนแล้วซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งในความพยายามของจีนในการลดการแข่งขันจากแบรนด์ต่างประเทศเพื่อให้สินค้าภายในประเทศได้รับประโยชน์ เรามองประเด็นนี้อาจกดดัน AAPL ในระยะสั้น ซึ่งอาจจะไปอาศัยการฟื้นตัวในช่วงอาทิตย์หน้าที่จะมีการเผยสินค้าใหม่ แต่อย่างไรก็ดีเรามองว่าอาจช่วยหนุนราคาหุ้นได้ไม่มากเท่ากับช่วงที่ผลประกอบการออกมาดีกว่าคาดหรือแกร่งซึ่งในช่วงนั้น AAPL จะตอบสนองค่อนข้างแรง
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม  Global morning routine_230907_T
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5