- ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นหลังประธาน Fed เผยเตรียมจบรอบการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ ด้านตลาดหุ้นจีนยังคงได้รับ Sentiment บวกจากความคาดหวังของตลาดที่มองว่าการควบคุมกลุ่มเทคฯในจีนจะหมดไปจากการที่ทางการสั่งปรับ Ant Financial Group นอกจากนี้ยังมีภาพการสนับสนุนกลุ่มอสังฯเพิ่มเติม
-
- กระแสเงินในวันที่ 7 ก.ค. 2023 1) ตลาดเริ่มกลับมาซื้อตราสารหนี้มากขึ้นแม้ว่าท่าทีของธนาคารกลางจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง แต่เน้นเป็นการเก็งกำไรในตราสารหนี้ High Yield ส่วนพันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ระยะยาวยังมีเงินไหลเข้าต่อเนื่อง 2) มีแรงขายกำไรในหุ้นธีม Growth และกลุ่มเทคโนโลยีหลังไม่มีประเด็นใหม่ 3) มีแรงซื้อในตลาดหุ้นจีนและตลาด EM จากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน ส่วนตลาดญี่ปุ่นมีเงินไหลเข้าทั้งนี้เป็นผลจากค่าเงินเยนอ่อนค่าเป็นสำคัญ 4) มีแรงขายในโลหะมีค่าทั้งนี้มองว่าเป็นผลจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าและแนวโน้มดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทำให้ความน่าสนใจของโลหะมีค่าลดลง 5) มีแรงเก็งกำไรในกลุ่มพลังงานหลังจากซาอุดิอาระเบียและรัสเซียจะปรับลดกำลังการผลิตลง
-
- Russia-Ukraine ไม่มีพัฒนาการเชิงบวก ด้านราคาถ่านหินในยุโรปลดลง 8.1% ราคาก๊าซธรรมชาติลดลง 4.9% ส่วนต่างดอกเบี้ยของกลุ่ม IG ทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น 2bps ส่วนตราสาร HY ปรับเพิ่มขึ้น 9bps ขณะที่ตลาดหุ้นจีนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม Reopening ในจีนยังค่อนข้างผันผวน โดยล่าสุดปรับเพิ่มขึ้น 1.7% จากภาพบวกของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนและผ่อนคลายความตึงเครียดในกลุ่มเทคโนโลยี ทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้องปรับตัวเพิ่มขึ้น กลุ่มโรงภาพยนตร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.5% กลุ่มท่องเที่ยว ร้านอาหารและคาสิโนปรับเพิ่มขึ้น 1.5%-2.3%
-
- จากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐและทั่วโลกใน 2Q23 ยังเป็นภาพสะท้อนของแนวโน้มผลประกอบการว่ายังอ่อนแอ โดยสิ่งที่เห็นจากบทสำรวจนักลงทุนของ Bloomberg พบว่าผลประกอบการใน 2Q23 อาจจะไม่ใช่จุดต่ำสุดแต่จะเป็นในช่วง 3Q23 หรือไกลกว่านั้น ขณะที่เรามองว่ามี 5 ประเด็นสำคัญที่ต้องจับตามองใน 2Q23 ประกอบไปด้วย 1) อัตราการทำกำไร 2) สินค้าคงเหลือ 3) กลุ่มธนาคารอาจจะมีการตั้งสำรองและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการล้มของธนาคารเล็กมาก 4) การใช้จ่ายของผู้บริโภคที่มี CPB และ GIS ปรับประมาณการลง 5) ผลของ Artificial Intelligence เราจึงมองว่ากลุ่มเชิงรับมีแนวโน้มที่ปลอดภัยกับผลประกอบการมากกว่า WMT, PG, KO, MCD, PEP และรอซื้อกลุ่มเทคโนโลยีหลังผลประกอบการอย่าง TSMC, INTC, AMD
-
- ทางการจีนกำหนดให้สถาบันการเงินผ่อนปรนเงื่อนไขสำหรับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ และสนับสนุนให้มีการเจรจาเพื่อยืดอายุสินเชื่อคงค้าง โดยมีเป้าหมายคือเพื่อให้แน่ใจว่ามีการส่งมอบบ้านที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยจะได้รับการขยายเวลาชำระคืนออกไปหนึ่งปี ซึ่งก่อนหน้านี้เงินกูจะครบกำหนดในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2023 แต่เรามองเป็นเรื่องยากที่จะเพิ่มความเชื่อมั่นของผู้ซื้อบ้าน ทั้งนี้ประเด็นนี้ช่วยแค่ยืดขยายเวลาในการจัดหาเงินในการชำระหนี้เพิ่มเท่านั้น ซึ่งในทางบวกอาจทำให้บริษัทหาเงินมาชำระหนี้ได้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ดีปัญหาหลักที่แท้จริงคือความต้องการในตลาดอสังฯยังคงอ่อนแอและน้อยเกินไป ทำให้เรามองว่ามาตรการนี้อาจไม่เพียงพอและอาจต้องมีมาตรการเพิ่มเติม
-
- รัฐบาลจีนเตรียมประกาศค่าปรับ Ant Group บริษัทฟินเทคใหญ่ของจีนในเครือ Alibaba อย่างน้อย 8 พันล้านหยวน นอกจากนี้ยังมีการออกค่าปรับให้กับ Tencent, Postal Savings Bank of China และ Ping An Bank หลังพบปัญหาในช่วงการตรวจสอบของทางการจีนก่อนหน้านี้ แต่เรามองว่าในปัจจุบันตลาดยังคงกำลังเล่นบนความคาดหวังที่ว่าทางการจะผ่อนคลายมาตรการการควบคุมดังกล่าว อย่างไรก็ดีจากการออกกฎควบคุมเนื้อหา Cyberbullying ล่าสุดก็สะท้อนได้ว่าในตอนนี้ภาพใหญ่ของนโยบายยังคงควบคุมอยู่สะท้อน แต่อาจไม่ได้เคร่งเหมือนแต่ก่อน ซึ่งปัจจัยนี้ก็ยังคงกดดันการทำกำไรหรือภาพของบริษัทอยู่เช่นเคย หรือถึงแม้หากตัดประเด็นการควบคุมออก ในตอนนี้เราก็มองว่าปัจจัยพื้นฐานยังคงไม่ดี ทั้งเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาดและกำไรที่เติบโตได้ไม่เท่าแต่ก่อน โดยสรุปก็คือภาพมันไม่ได้มีอะไรแย่ไปมากกว่านี้ สำหรับใครที่เก็งกำไรแนะระมัดระวัง พร้อมดูปัจจัยพื้นฐานควบคู่ไปด้วย
|
