บทสรุป |
ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นตัวเลขเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ชะลอตัวลงและออกมาต่ำกว่าคาดสะท้อนได้ว่านโยบายการเงินเริ่มบรรลุเป้าหมายของ Fed รวมถึงช่วยหนุนการคาดการณ์ที่ว่า Fed จะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เป็นไปในทิศทางเดียวกับสหราชอาณาจักรที่เผยตัวเลขเงินเฟ้อลดลงในเดือนต.ค. ขณะที่ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงปรับตัวขึ้นโดดเด่นหลังภาพรวมงบของบริษัทจดทะเบียนที่ดีกว่าคาดและตัวเลขเศรษฐกิจฟื้นตัว ทั้งนี้ยังได้รับ Sentiment บวกจากภาพความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯที่ลดลงเช่นเดียวกัน กระแสเงินในวันที่ 14 พ.ย. 2023 1) ตราสารหนี้มีเงินไหลเข้าหลังจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐออกมาต่ำกว่าที่คาดทำให้ตลาดมองว่าธนาคารกลางสหรัฐจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยแล้ว 2) มีแรงซื้อในกลุ่มการเงินและกลุ่มหุ้นขนาดเล็กมองว่าเป็นแรงเก็งกำไรไปพร้อมกับตลาดและเศรษฐกิจของสหรัฐและจีนที่ไม่ได้แย่อย่างที่ตลาดกังวล 3) มีแรงซื้อกลับในกลุ่มกลุ่มเทคโนโลยีจากแนวโน้มการฟื้นตัว 4) มีแรงขายในโลหะมีค่าเล็กน้อยหลังไม่มีความรุนแรงเพิ่มเติมในตะวันออกกลาง 5) มีแรงซื้อในกลุ่ม Healthcare หลังราคาหุ้นปรับตัวลดลงแรง 6) ตลาดเอเชียและตลาดยุโรปยังเผชิญแรงขายต่อเนื่องจากแนวโน้มผลปนะกอบการที่ต่ำกว่าที่คาด Russia-Ukraine ไม่มีพัฒนาการเชิงบวก ด้านราคาถ่านหินในยุโรปปรับตัวลดลง 1.1% ราคาก๊าซธรรมชาติลดลง 1.7% ส่วนต่างดอกเบี้ยของกลุ่ม IG ทั่วโลกปรับตัวลดลง 5bps ส่วนตราสาร HY ปรับลดลง 9bps ขณะที่ตลาดหุ้นจีนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม Reopening ในจีนภาพรวมปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.5% จากภาพตลาดที่ดีขึ้นและความคาดหวังเชิงบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ในระยะสั้นราคาหุ้นค่อนข้างผันผวน กลุ่มคาสิโนและกลุ่มเสื้อผ้าปรับตัวเพิ่มขึ้นได้โดดเด่น ตัวเลขค้าปลีกในสหรัฐเดือน ต.ค. ปรับตัวลดลง 0.1% MoM น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ (หรือแข็งแรงกว่าที่ตลาดคาดที่ -0.3% MoM) และมีการปรับเพิ่มตัวเลขสองเดือนย้อนหลังเพิ่มขึ้น บ่งชี้ว่าการบริโภคในสหรัฐเริ่มมีการฟื้นตัวแต่ค่อนข้างอ่อนแอและฟื้นตัวช้าทั้งนี้ได้รับผลกระทบจากการใช้จ่ายที่ชะลอตัวลงและผลกระทบจากเงินเฟ้อและดอกเบี้ยที่สูง ผลประกอบการของ Palo Alto Network ออกมาดีกว่าที่คาด โดยรายได้เพิ่มขึ้น 20% YoY และกำไรก็สูงกว่าที่คาดการณ์ ทั้งนี้บริษัทมีการเปลี่ยนกลยุทธ์จาก Hardware ไปเน้น Software มากขึ้นเพื่อจับตลาดที่มีการเติบโตสูงอย่าง AI และ Cloud ทำให้ Next Gen Security ARR ปรับตัวเพิ่มขึ้น 53% YoY ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนจีนออกมาดีกว่าคาดช่วยหนุนการเพิ่มขึ้นของตลาด โดย JD.com มีกำไรเติบโต 33%YoY ขณะที่ EBITDA โต 12%YoY หลังมีแรงหนุนจากการใช้จ่ายส่งเสริมการขายที่ช่วยหนุนให้ธุรกรรมออนไลน์ยังคงเติบโตได้ ด้าน Tencent เผยงบ 3Q23 ดีกว่าคาดหนุนจากการทำกำไรที่ดีขึ้นโดยกำไรโต 39%YoY และอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นสู่ 50% ด้านรายได้โต 10%YoY หนุนจากรายได้ธุรกิจ Ads +20%YoY และรายได้กลุ่ม Fintech +16%YoY ขณะที่รายได้ในธุรกิจเกมโตเพียง 7%YoY (ธุรกิจเกมมีสัดส่วนกว่า 52% ของรายได้รวม) หลังยอดขายเกมในประเทศและต่างประเทศโตต่ำกว่าคาด |
