Keyword
Global Morning Routine

INVX Global Morning Routine - 18 ก.ค. 2566

18 Jul 23 11:00 AM
logo-081bc330ec-fda5-4ec4-8ca9-7e68c8453a20-20240911231845

บทสรุป

  • ตลาดหุ้นทั่วโลกทรงตัว ด้าน GS ปรับลดโอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในอีก 12 เดือนข้างหน้าเหลือเพียง 20%  ซึ่งลดลงจากคาดการณ์ก่อนว่ามีโอกาส 25% ด้านตัวเลขเศรษฐกิจจีนภาพรวมยังคงซบเซาและค่อนข้างผิดไปจากที่ตลาดคาด แต่เริ่มเห็นการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากเดือนก่อน
  •  
  • กระแสเงินในวันที่ 14 ก.ค. 2023 1) ตลาดซื้อตราสารหนี้มากขึ้นซึ่งประเมินว่าการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐจะเป็นครั้งสุดท้าย โดยเป็นเงินไหลเข้าตราสารหนี้คุณภาพดีและพันธบัตรรัฐบาล รวมถึงตราสารหนี้ระยะยาว แต่ขาย High Yield 2) มีแรงซื้อในกลุ่มเทคโนโลยีแต่ปริมาณเงินไม่สูงมากนัก กระแสเงินค่อนข้างผันผวนบ่งชี้ว่ากระแสเงินมีลักษณะเก็งกำไร 3) มีแรงขายในกลุ่มพลังงานทั้งนี้มองว่าเป็นความกังวลในภาพของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวต่อเนื่อง เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่ม Value 4) กลุ่ม Healthcare มีแรงซื้อมองว่าเป็นประเด็นเฉพาะตัว ในขณะที่ Staples และ Utilities มีเงินไหลออก 5) หุ้นธีม Growth และ Financial มีแรงขายจากความกังวลต่อการเติบโตท่ามกลางภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงและกังวลกับการใช้จ่ายของผู้บริโภค
  •  
  • Russia-Ukraine ไม่มีพัฒนาการเชิงบวก ด้านราคาถ่านหินในยุโรปลดลง 0.3% ราคาก๊าซธรรมชาติลดลง 2.3% ส่วนต่างดอกเบี้ยของกลุ่ม IG ทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น 1bps ส่วนตราสาร HY ปรับเพิ่มขึ้น ด้านตลาดหุ้นจีนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม Reopening ในจีนยังค่อนข้างผันผวน โดยล่าสุดปรับลดลง 0.2% จากความกังวลเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ โดยกลุ่มร้านอาหารได้รับแรงกดดันค่อนข้างมาก
  •  
  • เมื่อเปรียบเทียบตัวเลขเศรษฐกิจของจีนและสหรัฐสำหรับ 2Q23 และแนวโน้มของ 2H23 นั้นเราจะพบว่าตัวเลขเศษฐกิจของจีนค่อนข้างอ่อนแอ โดยการบริโภคและการฟื้นตัวของภาคบริการยังฟื้นตัวแต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ และการฟื้นตัวในช่วง 2H23 นั้นค่อนข้างเปราะบางหากการบริโภคฟื้นตัวช้า การส่งออกไม่เติบโตและอสังหาริมทรัพย์อ่อนแอ จะทำให้การฟื้นตัวใน 2H23 ของจีนค่อนข้างเปราะบาง ท่ามกลางตัวเลขการว่างงานของคนรุ่นใหม่ในจีนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องมากกว่า 20%
  •  
  • ผลประกอบการของ Richemont ออกมาดีกว่าคาด โดยรายได้เพิ่มขึ้น 19%YoY ด้านรายได้ในยุโรปและเอเชียเพิ่มขึ้นดีกว่าคาดเช่นกัน แต่รายได้ในสหรัฐฯออกมาผิดคาดและหดตัวลง -2%YoY ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงกว่า -10.4% และฉุดให้ Peers อย่าง LVMH HERMES KERING ปรับตัวลงราว 1-4.2% เรามองว่าถึงแม้งบจะออกมาดีกว่าคาดแต่ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงหลักๆเป็นผลมาจากภาพอุปสงค์ในตลาดหลักที่ยังคงซบเซา และแนวโน้มการใช้จ่ายในตลาดหลักที่ยังคงอ่อนแอซึ่งอาจทำให้เรามองว่าการฟื้นตัวของกลุ่มสินค้าหรูหรายังคงมีแรงกดดันและมีความเป็นไปได้ที่จะช้ากว่าที่ตลาดคาดไว้หลังในช่วงก่อนหน้าคาดว่าการเปิดเมืองของจีนจะช่วยหนุนให้การเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
  •  
  • ในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ ดัชนี Nasdaq-100 จะมีการปรับความสมดุลพิเศษเป็นครั้งที่สองเพื่อลดความเสี่ยงด้านการกระจุกตัวลง ขณะที่น้ำหนักของหุ้นที่ใหญ่ที่สุด 7 ตัวในกลุ่ม “Manificent Seven” เช่น Microsoft (MSFT), Nvidia (NVDA) จะถูกปรับลดลง 12pp ขณะที่น้ำหนักดัชนีของ AVGO จะเพิ่มขึ้นมากที่สุด ด้วยภาพนี้เรามองว่าอาจหลีกเลี่ยงกลุ่มเทคฯไปก่อนในระยะสั้นหลังถูกปรับน้ำหนักลง ขณะที่เรามองว่าหุ้นที่ถูกปรับน้ำหนักขึ้นอย่าง ADBE COST PEP มีพื้นฐานที่ค่อนข้างดีอยู่แล้ว ประกอบกับได้ประโยชน์จากการถูกปรับน้ำหนักขึ้น แนะเก็งกำไรในระยะสั้นได้
PDF  คลิกอ่านเพิ่มเติม  Global morning routine_230718_T
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5