INVX Global Morning Routine - 19 มิ.ย. 2566

บทสรุปสำหรับสัปดาห์  (12 - 16 มิ.ย.)

• ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.7% จากการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ โดยล่าสุดมีมติคงดอกเบี้ยและการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางจีนในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง พร้อมกับค่าเงินเยนที่อ่อนค่าและการประกาศออกรถยนต์ EV ใหม่ของโตโยต้าทำให้ตลาดญี่ปุ่นปรับขึ้นได้ดี ส่วนตลาดยุโรปได้รับแรงกดดันจากราคาก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น
•  
• ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดเงินนั้นมีกระแสเงินไหลออกครั้งแรกในรอบ 8 สัปดาห์ เริ่มบ่งชี้ได้ว่านักลงทุนเริ่มกลับไปในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ตาม Sentiment ที่บวกมากขึ้นแม้ว่าเศรษฐกิจยังไม่ดี ด้านกระแสเงินในตลาดหุ้นเป็นเงินไหลเข้า ซึ่งสูงสุดตั้งแต่เดือน ต.ค. 2022 โดยมีเงินไหลออกจากตลาดหุ้นสหรัฐและญี่ปุ่นเป็นสำคัญ ในขณะที่ตลาดหุ้นอื่นอย่างจีนและตลาดไต้หวันมีเงินไหลเข้า
•  
• ในสัปดาห์นี้ติดตาม 1) Fed Chair Powell Testimony ที่ปธ. Fed จะพูดเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและการดำเนินนโยบายการเงินในรอบครึ่งปีต่อหน้าสภาคองเกรส 2) ตัวเลขราคาบ้านของสหรัฐฯ เช่น Housing Start และ Existing Home Sales ประกอบกับ Building Permit Prel 3) ทิศทางการปรับดอกเบี้ยนโยบายของ BOE ประกอบกับตัวเลขเงินเฟ้อ PPI และยอดค้าปลีกของอังกฤษ 4) ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของยูโรโซน 5) ผลประกอบการของ FedEx Accenture FactSheet Beyond Air Steelcase KB Home ขณะที่วันนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดทำการเนื่องในวันประกาศอิสรภาพ Juneteenth
•  
• ภาพรวม – ในภาพรวมตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม Sentiment ของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ได้รับแรงหนุนจากประเด็น AI ส่วนกลุ่มอื่นได้รับผลบวกจากการหยุดขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจทั่วโลกที่ค่อนข้างอ่อนแอ และเริ่มเห็นความเสี่ยงจาก El Nino ที่จะส่งผลกับเงินเฟ้อในช่วง 2H23
•  
• กลยุทธ์ – สัปดาห์นี้ (19-23 มิ.ย.) มองว่าตลาดรับรู้ประเด็นบวกมาระดับหนึ่งแล้ว ท่าทีของประธาน FED อาจจะทำให้ตลาดผันผวนในทิศทางลบมากขึ้น เช่นเดียวกับท่าทีของ รมว.ต่างประเทศสหรัฐที่ไปเยือนจีน มองว่าไม่น่าจะมีประเด็นใหม่หรือคลี่คลายได้ในระยะสั้น รวมถึงตัวเลข ศก ในอสังหาริมทรัพย์และตัวเลขการผลิตและบริการของยูโรโซนยังอ่อนแอ
•  
• หุ้นแนะนำ – เราเน้นไปที่หุ้นที่คาดว่าจะได้โมเมนตัมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน รวมถึงได้ภาพของการฟื้นตัวของกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ทางอ้อมอย่าง Haier Smart Home และ Xiaomi