![test_blog_details_img](/ResourcePackages/scbs/assets/dist/images/blog-details/smile-face.png)
เนื้อหาโดยรวม
บทสรุป |
ตลาดหุ้นทั่วโลกทรงตัวในช่วงวานนี้ โดยตลาดสหรัฐฯปิดทำการในช่วงวานนี้เนื่องในวัน Presidents' Day และจะกลับมาเปิดทำการอีกครั้งในวันนี้ ขณะที่ตลาดจีนปรับตัวลงถึงแม้จะมีภาพความคาดหวังต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่อย่างไรก็มีข้อมูลสะท้อนว่า FDI ในประเทศลดลงอย่างมาก กระแสเงินในวันที่ 16 ก.พ. 2024 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ผันผวน มีแรงซื้อในพันธบัตรรัฐบาล ในขณะที่ตราสารหนี้คุณภาพดีและ High Yield มีกระแสเงินไหลออก ทั้งนี้มองว่าตลาดอยู่ในช่วงปรับความคาดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐจะลดดอกเบี้ยช้ากว่าที่ตลาดคาด 2) มีแรงซื้ออย่างต่อเนื่องในตลาดหุ้น EM และตลาดหุ้นจีน (จีนแรงซื้อน้อยลง) จากกองทุนจีนมีการซื้อ ETF ตามมาตรการสนับสนุนตลาด รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ดีขึ้น 3) มีแรงซื้อในตลาดหุ้นญี่ปุ่นมองเป็นท่าทีของ BOJ ที่ต้องการให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าที่มีความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยเป็นตัวเร่ง 4) กระแสเงินในกลุ่มเทคโนโลยีผันผวน มองว่าตลาดรอผลประกอบการของ Nvidia 5) มีแรงซื้อกลับในหุ้นกลุ่ม Value มีแรงซื้อเก็งกำไรหลังจากปรับตัวลงแรง 6) กลุ่ม Consumer Staples มีแรงขายทั้งนี้เพราะผลประกอบการออกมาพบว่าราคาที่เพิ่มขึ้นเริ่มส่งผลกับปริมาณขายที่ลดลง รวมถึง Consumer Discretionary ตามภาพของยอดค้าปลีกที่ชะลอตัวลง จีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ชั้นดี (LPR) อายุ 5 ปี ลง 25bps สู่ระดับ 3.95% เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะมีการปรับลด 10 bp และคงอัตราดอกเบี้ย LPR อายุ 1 ปีไว้ที่ 3.45% นี่อาจเป็นการแสดงความมุ่งมั่นของจีนที่จะสนับสนุนและพยายายมฟื้นภาคอสังหาริมทรัพย์ต่อไป เนื่องจาก LPR ห้าปีเป็นเกณฑ์มาตรฐานสําหรับอัตราการจํานอง ข้อมูลในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวจีนมีการฟื้นตัวที่ดีในภาพรวม โดยรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกับจำนวนนักท่องเที่ยว ทั้งนี้ข้อมูลอื่นๆเช่น ยอดค้าปลีกอีคอมเมิซ, พัสดุที่ส่ง และบริการท้องถิ่นเติบโตดีทั้งหมด อย่างไรก็ดีการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อนักท่องเที่ยวลดลง ภาพนี้เรามองได้ว่า 1) นักเดินทางอาจลดค่าใช้จ่าย 2) กลุ่มผู้มีรายได้น้อยกลับมาเดินทางอีกครั้งสะท้อนการฟื้นตัวเป็นวงกว้าง |
ท่าน สามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก Global morning routine_240220_T (1) |