INVX Global Morning Routine - 20 ก.ย. 2566

บทสรุป

• ตลาดหุ้นทั่วโลก ปรับตัวลดลงจากความเสี่ยงด้านการผิดนัดชำระหนี้ของจีน ตัวเลขในตลาดบ้านชะลอตัวลงและราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นทำให้ตลาดกังวลกับท่าทีของ FED
•  
• กระแสเงินในวันที่ 18 ก.ย. 2023 กระแสเงินในภาพรวมค่อนข้างผันผวนและไม่มีเทรนด์ที่ชัดเจน 1) กระแสเงินในตราสารหนี้มีเงินไหลเข้า โดยเฉพาะตราสารหนี้คุณภาพดีและตราสารหนี้ระยะสั้น 2) มีแรงเก็งกำไรในหุ้นขนาดเล็กและตลาด EM ในระยะสั้นหลังจากที่มีแรงขายออกไปก่อนหน้านี้ 3) มีแรงซื้อในกลุ่มการเงินจากภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและพลังงานที่ราคาพลังงานปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ปริมาณเงินไม่สูงมากนัก 4) มีแรงซื้อในตลาดหุ้นจีนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว แต่กระแสเงินชะลอตัวลง 5) กระแสเงินในรายกลุ่มอุตสาหกรรมค่อนข้างจำกัด 6) มีแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นธีม Growth มองว่าจากแนวโน้ม Yield ที่ปรับเพิ่มขึ้นในระยะสั้นและไม่มีข่าวบวกใหม่
•  
• เรื่องราวของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งไม่ได้รับผลกระทบจากตลาดแรงงาน กำลังซื้อและเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง เป็นสิ่งที่ทำให้คณะกรรมการ FOMC ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนท่าที โดยในการประชุมเดือน ก.ย. มีสิ่งที่ต้องจับตาได้แก่ 1) FOMC มีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มประมาณการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐในปี 2023 ขึ้นและปรับลดอัตราการว่างงานและเงินเฟ้อลง ส่วนการปรับในปี 2024 นั้นเป็นทิศทางเดียวกันแต่ปริมาณเล็กน้อย 2) มองว่าราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ FOMC ยังมีท่าทีตึงตัวต่อนโยบายการเงิน 3) มองว่าผลของดอกเบี้ยที่สูงจะเริ่มเห็นผลกระทบมากขึ้นแต่ยังไม่มีความจำเป็นในการลดดอกเบี้ยในระยะสั้นเพราะความเสี่ยงการเกิด Recession ลดลง และหากว่าเงินเฟ้อลดลงตามที่ FED คาดจะทำให้มีการปรับลดดอกเบี้ยได้ ซึ่งมองว่าจะเป็นช่วง 2Q24-3Q24
  
•  
• BlackRock มีการปรับลดคำแนะนำในตลาดจีนจาก Overweight ลงมาเป็น Neutral จากความกังวลเรื่องความเสี่ยงในเชิงอสังหาริมทรัพย์และมีผลกระทบจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จำกัด นอกจากนั้น BlackRock มีการปรับลดคำแนะนำของ Emerging Market จาก Overweight ลงมาเป็น Neutral ทั้งนี้เป็นผลมาจากจีนเป็นหลัก ส่วนตลาดญี่ปุ่นมีการปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในญี่ปุ่น เรายังเลือกในธีม Reopening และ AI อย่าง Yum China, Alibaba, AIA, China Mobile และ Baidu
•  
• 1) Amazon มีการจ้างพนังงานเพิ่ม 25,000 คน ในส่วนของ Logistics ซึ่งเป็นภาพที่สะท้อนกำลังซื้อที่ยังดีในช่วงการจับจ่ายในช่วงวันหยุดยาวใน 4Q23 ซึ่งจากแนวโน้มการเติบโตของยอดขาย e-Commerce เพิ่มขึ้น 9.3% ในปี 2023 มากกว่าค่าเฉลี่ยการใช้จ่ายโดยรวม 2) Amazon มีการวางแผนที่จะเปิดตัวธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้องกับ Healthcare 3) Amazon สามารถได้ส่วนแบ่งค่าโฆษณาจาก Google และ Meta ซึ่ง เรามองว่า Amazon เป็นหุ้นที่น่าสนใจและมีพัฒนาการที่ดีในหลายเรื่อง เช่นค่าโฆษณาและต้นทุน ส่งผลดีกับการเติบโตในระยะยาว รวมถึงการทำธุรกิจใหม่ที่มีการเติบโตสูง