บทสรุป
ตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.3% ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการในช่วงงคืนวันพฤหัสฯ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) และจะกลับมาเปิดอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 25 พ.ย. 22
กระแสเงินกลับมาในตราสารหนี้มากขึ้นทั้ง Investment Grade และพันธบัตรรัฐบาลมองว่าช่วงนี้ค่อนข้างผันผวนแต่ก็พอจะสะท้อนภาพความกังวลต่อภาพรวมของสินทรัพย์เสี่ยงได้ มีแรงซื้อในตลาด EM และตลาดหุ้นจีนมากขึ้นหลังนักลงทุนเริ่มเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นในจีนทั้งเรื่องการเปิดเมืองแม้ว่าจะมีความเสี่ยงจากการ Lockdown เพิ่มเติมในระยะสั้น ด้านหุ้นกลุ่มเชิงรับอย่าง Healthcare และ Consumer Staples มีเงินไหลเข้าต่อเนื่อง ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินและสินค้าอุตสาหกรรมมีเงินไหลออกยังเป็นภาพที่สะท้อนความไม่ชัดเจนของเศรษฐกิจในภาพรวม ส่วนกลุ่มพลังงาน สินค้าโภคภัณฑ์และหุ้นขนาดเล็กมีเทรนด์ไม่ชัดเจน
กระแสเงินไหลเข้าในตราสารหนี้ค่อนข้างมาก โดยลูกค้าของ Bank of America Corp. มีแรงซื้อในตราสารหนี้และขายในตลาดหุ้นท่ามกลางความหวาดกลัวว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ด้านข้อมูลของ EPFR Global ในทางตรงกันข้าม ลูกค้าส่วนบุคคลของธนาคารได้ออกจากกองทุนตราสารทุนเป็นเวลาเก้าสัปดาห์ติดต่อกัน นอกจากนั้นเห็นการไหลออกของกองทุนหุ้นยุโรปเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 41 ติดต่อกัน หุ้นขนาดใหญ่ การเติบโต และหุ้นขนาดเล็กของสหรัฐฯ มีการเพิ่มสถานะ
Russia-Ukraine ไม่มีพัฒนาการเชิงบวก ส่วนราคาถ่านหินในยุโรปปรับลดลง 3.3% และราคาก๊าซในยุโรปปรับลดลง 6% ด้าน Credit Spread ของ IG ปรับตัวลดลง 2.2bps และ HY ปรับลดลง 5.4bps จำนวนผู้ป่วยใหม่ในจีนและฮ่องกงยังอยู่ในระดับสูงและมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น มาที่เกือบ 3 หมื่นรายต่อวัน ซึ่งอาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะมีการ Lockdown มากขึ้นแต่ไม่รุนแรงเท่าก่อนหน้านี้ และการขึ้นของจำนวนผู้ป่วยจีนก็ขึ้นตามการผ่อนคลายมาตรการซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลมากเกินไป
จากข้อมูลของธนาคารกลางสหรัฐพบว่าอัตราการออกของสหรัฐลดลงต่ำกว่าเทรนด์ระยะยาว ซึ่งเป็นผลมาจากการกระตุ้นของรัฐบาลที่น้อยลงและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นซึ่งได้รับแรงกดดันจากเงินเฟ้อและภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นแต่อย่างไรก็ดีหากมองในฝั่งของเงินออมคงเหลือนั้นยังมีเหลืออยู่ในระดับที่สูงซึ่งน่าจะเพียงพอในการพยุงการใช้จ่ายของทางฝั่งสหรัฐได้ในระดับหนึ่ง นอกจากนั้นเรามองว่าการลดลงของเงินออมในคราวนี้นั้นมาจากการจ่ายภาระดอกเบี้ยซึ่งมองว่าน่าจะส่งผลกับเงินเฟ้อค่อนข้างจำกัดไม่เหมือนกับการลดลงเพื่อเป็นการนำเอามาบริโภค ซึ่งeดูเหมือนกลุ่มคนที่มีรายได้น้อยนั้นเป็นกลุ่มเปราะบางในรอบนี้และต้องมีสิ่งสนับสนุนในกรณีที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงแรง
Morningstar เผยการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลวันหยุดของปีนี้ทรงตัว โดยหากดูในรายงานตัวเลขผู้บริโภคที่ใช้จ่ายออนไลน์ในช่วง 1 พ.ย. - 21 พ.ย.ของ Adobe นั้นเพิ่มขึ้นเพียง 0.1%YoY อยู่ที่ราว $64.6bn อย่างไรก็ดี Morningstar คาดว่าการบริโภคจะเพิ่มขึ้นในช่วงช่วงวันหยุดยาวสิ้นปี โดยเรามองว่าบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากภาพนี้คือ Amazon (AMZN), eBay (EBAY), Groupon (GROPN), PayPal (PYPL), Visa (V)