บทสรุปสำหรับสัปดาห์ (16-20 ธ.ค.)
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวในกรอบ แต่เป็นการตอบสนองรายตลาด โดยนักลงทุนกังวลกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐและแนวโน้มกำไรที่ชะลอตัวลง ในขณะที่แนวโน้มของจีนและยุโรปอยู่ในทิศทางฟื้นตัวขึ้นจากการเปิดประเทศและราคาพลังงานที่ลดลงตามลำดับ ขณะที่ราคาพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการเปิดประเทศของจีนที่ทำให้อุปสงค์ดีกว่าที่คาด
ในสัปดาห์นี้ติดตาม 1) Debt ceiling standoff ความเสี่ยงด้านการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐ 2) ตัวเลข GDP ไตรมาส 4Q22 ที่ตลาดคาดจะขยายตัว 2.6% 3)ตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของยุโรปที่คาดว่าจะสูงขึ้น 4) อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นที่คาดยังคงเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 31 ปี 5) การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารกลางแคนาดา 6) ผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของกลุ่มเทคฯใหญ่ที่มีแนวโน้มชะลอตัวอย่าง MSFT, Tesla , Intel ส่วนบ.อื่นที่เผยงบได้แก่ Abbott Laboratories, ASML, Sherwin-Williams, LVMH, AT&T American Airlines, General Electric, Intel, Intuitive Surgical, Johnson&Johnson, Kimberly-Clark etc
ภาพรวม – ตลาดในสัปดาห์ที่ผ่านมาตอบสนองกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและความคาดหมายต่อการลอดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ นอกจากนั้นตลาดให้ความสำคัญกับแนวโน้มผลประกอบการที่ชะลอตัวลงต่อเนื่องทั้งใน 4Q22-1Q23
กลยุทธ์ – สัปดาห์นี้ (16-21 ม.ค.) มองว่าตลาดจะมีความผันผวนในทิศทางลบมากขึ้นทั้งนี้มองว่าผลประกอบการของสหรัฐมีแนวโน้มออกมาไม่ดีมากนัก โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี แต่ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะช่วยลดผลกระทบ Sentiment เชิงลบจากปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคได้ โดยสัปดาห์นี้เรายังเน้นเก็งกำไรในหุ้นผลประกอบการดีใน 4Q22-1Q23
หุ้นแนะนำ – เน้นหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการดีและราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่ากลุ่ม โดยเราเลือก Visa และ Southwest Airline ซึ่งจะประกาศผลประกอบการและให้แนวโน้มใน 2023 ในสัปดาห์นี้