- ตลาดหุ้นทั่วโลกทรงตัว ด้านสหรัฐฯมีแรงกดดันจากกลุ่มธนาคารหลังจาก S&P ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารขนาดกลาง-เล็กลง 1 ขั้น ขณะที่จีนเริ่มกลับมาฟื้นตัวหนุนจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ดีกว่าคาดและอยู่ในทิศทางการฟื้นตัว
-
- กระแสเงินในวันที่ 18 ส.ค. 2023 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ค่อนข้างผันผวน โดยล่าสุดมีเงินไหลเข้า โดยเป็นเงินไหลเข้าในพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ระยะยาว แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 2) แรงขายในรายกลุ่มอุตสาหกรรมลดน้อยลง แต่กลุ่มที่อิงเศรษฐกิจอย่างกลุ่มการเงิน สินค้าอุตสาหกรรมและ Materials ยังมีแรงขาย 3) กระแสเงินในกลุ่มเทคโนโลยีผันผวน กังวลเรื่อง Yield ที่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับหุ้นธีม Growth 4) มีแรงซื้อใน EM แม้ว่ามีปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ในจีนและค่าเงินดอลลาร์เริ่มแข็งค่ามากขึ้น ส่วนตลาดหุ้นจีนยังมีแรงขายอย่างต่อเนื่องจากความเสี่ยงภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น 5) กลุ่มพลังงานมีแรงซื้อหลังจากราคาพลังงานเริ่มฟื้นตัวแต่กระแสเงินเริ่มชะลอตัวลง
-
- Russia-Ukraine ไม่มีพัฒนาการเชิงบวก ด้านราคาถ่านหินในยุโรปเพิ่มขึ้น 1.9% ราคาก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น 5.8% ส่วนต่างดอกเบี้ยของกลุ่ม IG ทั่วโลกปรับตัวลดลง 1bps ส่วนตราสาร HY ปรับลดลง 3bps ขณะที่ตลาดหุ้นจีนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม Reopening ในจีนยังค่อนข้างผันผวน โดยล่าสุดปรับเพิ่มขึ้น 1% มองว่าเป็นการฟื้นตัวหลังราคาปรับตัวลดลงเกือบ 5% ในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับปัญหาของเศรษฐกิจจีนที่เพิ่มขึ้น โดยกลุ่มคาสิโนและโรงภาพยนตร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.5%-4%
-
- ขณะที่ในช่วงคืนนี้เตรียมติดตามผลประกอบการของ Nvidia โดยเรามองว่าสิ่งที่ตลาดคาดหวังต่องบ 2Q23 คือ 1) รายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญโดยคาดโตกว่า 65% หนุนจาก Data center ที่ความต้องการ AI แกร่ง 2) รายได้จากทุกกลุ่มธุรกิจฟื้นตัวดี โดยเฉพาะในหน่วยชิป GPU ที่คาดหวังสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน ด้าน SNOW ถึงแม้จะมีแรงกดดันจาก IT spending และ cloud workload optimization แต่ตลาดค่อนข้างคาดหวังต่องบของกลุ่มที่มีรายได้จาก AI อย่างเช่นทั้งสองบ. มากทำให้คาดการณ์งบที่ออกมาค่อนข้างเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ แต่อย่างไรก็ดีหากงบออกมาต่ำกว่าคาดในส่วนใดส่วนหนึ่งอาจมีผลทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงฉุดตลาดลงได้
-
- ภาวะโลกร้อนเริ่มส่งผลกระทบมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเกิดขึ้นของสภาวะ El Nino ที่ทำให้อุณหภูมิผิวน้ำเพิ่มขึ้นและเกิดภาวะแห้งแล้ง เราเห็นภัยแล้งและไฟป่าที่เกิดขึ้นในสหรัฐ ออสเตรเลียและกรีซน่าจะเป็นตัวสะท้อนได้ดี ซึ่งเรามองว่าความเสี่ยงของ El Nino นั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและจะกระทบกับเงินเฟ้อในระยะถัดไปหลังจากที่ราคาอาหารและต้นทุนของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น ท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เปราะบาง เราจึงเน้นหุ้นเชิงรับต่อเนื่อง Walmart, China Mobile, Unilever, Coca Cola, P&G
-
- ผลประกอบการของ Macy และ Dick’s sporting goods ออกมาผสม แต่การให้แนวโน้มนั้นต่ำกว่าที่คาด รวมไปถึงมีกังวลกับการเติบโตใน 2H23 กำไรของ Macy ใน 2Q23 ออกมาดีกว่าที่คาดแต่ชะลอตัวลง YoY ชัดเจน ด้าน Dick’s sporting goods ออกมาแย่ในทุกมิติและต่ำกว่าที่คาดตั้งแต่ยอดขาย ด้วยภาพของ Macy และ Dick’s sporting goods ทำให้ Suppliers อย่าง Nike และ Under Armour ได้รับผลกระทบ ซึ่งสอดคล้องกับบริษัทอย่าง Target, Capri, LVMH, Adidas ที่ให้ภาพของการชะลอตัวลงก่อนหน้านี้ เราค่อนข้างกังวลกับกำลังซื้อของสหรัฐยังแนะนำให้หลีกเลี่ยง Consumer Discretionary และหุ้นที่มีสัดส่วนรายได้เยอะจากจีน
|
