INVX Global Morning Routine - 28 เม.ย. 2566

บทสรุป

ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นแม้ตัวเลข GDP สหรัฐฯจะออกมาต่ำกว่าคาด ขณะที่ตลาดตอบสนองทิศทางบวกต่อผลประกอบการที่ออกมาดีกว่าคาดทั้งในสหรัฐฯและฮ่องกง

• กระแสเงินในวันที่ 26 เม.ย. 2023 1) เริ่มเห็นแรงขายในตราสารหนี้ โดยเป็นการขายในตราสารหนี้ระยะสั้นและตราสารหนี้คุณภาพดี ทั้งนี้นักลงทุนกลับมากังวลบนการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐในต้นเดือน พ.ค. 2) มีแรงซื้อในตลาดหุ้น EM ทั้งนี้มองว่าเป็นเรื่องของภาพเศรษฐกิจที่ดีกว่าและค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง 3) มีแรงซื้อในโลหะมีค่าทั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องและลดความเสี่ยงจากประเด็น Debt Ceiling ของสหรัฐ 4) หุ้นจีนกลับมามีเงินไหลเข้าจากผลประกอบการที่ดีกว่าที่คาดในกลุ่ม Reopening 5) หุ้นกลุ่มที่อิงกับเศรษฐกิจโลกอย่างกลุ่มพลังงาน กลุ่ม Materials และกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมมีการปรับตัวลดลงตามภาพของเศรษฐกิจโลกที่มีความเสี่ยงสภาวะถดถอยเพิ่มขึ้น 6) มีแรงซื้อในกลุ่มเทคโนโลยีหลังจากผลประกอบการออกมาดีกว่าที่คาด
•  
• Russia-Ukraine ไม่มีพัฒนาการเชิงบวก ด้านราคาถ่านหินในยุโรปปรับเพิ่มขึ้น 0.9% ราคาก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น 1.1% ส่วน Credit Spread ของ IG ทั่วโลกลดลง 2bps ขณะที่ภาพรวมยังคงผันผวน กลุ่ม Reopening ในจีนปรับตัวลดลง 0.1% หลังไม่มีข่าวใหม่ นักลงทุนกังวลกับท่าทีของรัฐบาลจีนที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจน้อยลงและข่าวที่คนจีนบางส่วนยังไม่กล้าออกนอกประเทศ กลุ่มที่มีการฟื้นได้ดีเป็นกลุ่มเดินทางทางอากาศและกลุ่มร้านอาหารที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5%-1%
•  
• Amazon เผยผลประกอบการ 1Q23 โดยรายได้และกำไรดีกว่าคาดและพลิกกลับมาทำกำไรหนุนจากการลดต้นทุนทำให้ค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน นอกนั้นยังมีแรงหนุนจากรายได้จาก AWS cloud เพิ่มขึ้น ภาพรวมงบ AMZN ยังไม่ได้ถือว่าเติบโตแกร่ง แต่ก็ไม่ได้แย่เท่าตลาดคาดการณ์ ทั้งนี้เรามองเห็นพัฒนาการณ์ของบริษัทที่ทำได้ดีในส่วนของนโยบายลดต้นทุน ประกอบกับมีมุมมองบวกต่อภาพการเปลี่ยนจุดโฟกัสธุรกิจไปยังกลุ่มคลาวด์ที่ภาพแนวโน้มเติบโต ประกอบกับมีกำไรและมาร์จิ้นที่ดีกว่าธุรกิจหลักในช่วงก่อนอย่างอีคอมเมิซที่การเติบโตในช่วงที่ผ่านมายังคงมีแรงกดดันจากการแข่งขันที่สูง ทำให้เราแนะรอจังหวะการลงทุน โดยอาจรอจังหวะซื้อในช่วงเดือน 7 หลัง Debt ceiling ประกอบกับให้ผ่านช่วง 2Q23 ที่ธุรกิจยังมีแรงกดดัน
•  
• ถึงแม้การเติบโตของผลประกอบการ BYD เทียบรายปีใน 1Q23 จะออกมาดูแกร่ง แต่หากเทียบรายไตรมาสก็สะท้อนได้ว่าการเติบโตของบริษัทอยู่ในทิศทางชะลอตัวลงหลังความต้องการในอุตฯซบเซา ซึ่งเรามองว่าประเด็นนี้จะยังคงกดดันในระยะถัดไป ประกอบกับ สงครามราคาในอุตฯที่รุนแรงต่อเนื่อง ทำให้บริษัทมีการปรับลดราคาลง ด้วยภาพนี้ทำให้การขยายตัวของมาร์จิ้นยังคงมีแรงกดดันอยู่ ด้วยภาพเช่นนี้ทำให้เรายังคงแนะหลีกเลี่ยงกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าไปก่อนในระยะนี้
•  
• ผลประกอบการของทั้ง Caterpillar และ Honeywell ออกมาดีกว่าที่คาดทั้งในเชิงการเติบโตของรายได้และกำไร ทั้งนี้เป็นผลจากฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเมืองมากขึ้น หากเรามองในรายละเอียดของการเติบโตของ Honeywell นั้นจะพบว่าการเติบโตส่วนใหญ่มาจาก 1) ระบบของเครื่องบินที่มีการส่งมอบเครื่องบินเพิ่มขึ้น 2) ธุรกิจโรงกลั่นมีกิจกรรมและการลงทุนมากขึ้นทำให้มีรายเจากส่วนนี้มากขึ้น ซึ่งช่วยลดผลกระทบจาก ธุรกิจ E-commerce ที่ชะลอตัวลงและมีรายได้ลดลง ดังนั้นจึงดูเหมือนว่าทั้งสองตัวนี้ Honeywell จะดีกว่า Caterpillar และยังต้องหลีกเลี่ยงธุรกิจ E-commerce ต่อไป
•  
• ภาพรวมของผลประกอบการของ Capital One Financials นั้นอ่อนแอตามคาดตามลักษณะของธนาคารเล็กที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาสภาพคล่อง โดยกำไรลดลง 60% YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ เงินฝากออกมาดีกว่าที่คาด ทำให้คลายความกังวลจากส่วนนี้ไปได้เยอะ แต่อย่างไรก็ดีธนาคารให้แนวโน้มของเศรษฐกิจสหรัฐไม่ดี โดยมองว่าอัตราการว่างงานจะเพิ่มสูงขึ้นฟนอกจากนั้นมีการตั้งสำรองสำหรับบัตรเครดิตเพิ่มขึ้นเป็น 4.1% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเท่าตัว ดังนั้นจากภาพของ Capital One Financials นั้นบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นทั้งการใช้จ่ายในประเทศ รวมถึงความเสี่ยงของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้เรากังวลกับสภาวะเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มขึ้นและการบริโภคจะเริ่มชะลอตัวลงใน 2H23