Keyword
Global Morning Routine

INVX Global Morning Routine - 29 พ.ค. 2566

29 May 23 11:28 AM
logo-0844de9f5d-8897-4ffc-a265-7218da774a11-20240911234438

บทสรุปสำหรับสัปดาห์  (22 - 26 พ.ค.)

  • ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง 0.5% โดยตลาดได้รับแรงกดดันจาก 1) ท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐที่จะยังดำเนินนโยบายการเงินตึงตัว 2) ตัวเลขเศรษฐกิจยุโรปชะลอตัวลงต่อเนื่อง 3) การระบาดของ COVID-19 ในจีน ในขณะที่ตลาดสหรัฐได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการกลุ่มเทคโนโลยี ส่วนตลาดญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นจากค่าเงินเยนอ่อนค่าและกระแสเงินไหลเข้าต่อเนื่อง
  • ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดเงินนั้น มีเงินไหลเข้าใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งภาพรวมยังเห็นความกลัวและกังวลของนักลงทุนต่อภาพปัจจัยความเสี่ยงภายนอก ส่วนกระแสเงินในตลาดหุ้นเป็นเงินไหลออก โดยเฉพาะในตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปเป็นสำคัญ ขณะที่ในส่วนตลาดญี่ปุ่นเริ่มเห็นแรงขายทำกำไรหลังจากตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้านกลุ่มที่มีเงินไหลเข้ามากได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยีมีเงินไหลเข้าห้าสัปดาห์ติดต่อกันจากความคาดหวังการฟื้นตัวใน 2H23 ส่วนกลุ่มที่มีเงินไหลออกมากที่สุดเป็นกลุ่มพลังงาน กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัวลง
  •  
  • ในสัปดาห์นี้ติดตาม 1) การเจรจาเพดานหนี้ของทางการสหรัฐฯ ที่ในขั้นตอนถัดไปจะเป็นการส่งเรื่องต่อให้สภาคองเกรสพิจารณา ก่อนจะส่งต่อให้ปธน.ไบเดนลงนามบังคับใช้เป็นกฏหมาย 2) ตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐฯที่ตลาดมองซบเซาลงและตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐฯที่ตลาดมองฟื้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน 3) การประชุมนโยบายการเงินของกนง.ไทย และตัวเลขการค้าไทย 4) ตัวเลขภาคการผลิตจีนของ NBS และ Caixin เดือน พ.ค. ที่ตลาดมองฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนเล็กน้อย 5) ตัวเลขการผลิตของยุโรปและตัวเลขการบริโภคที่ตลาดคาดว่าหดตัว 6) ตัวเลขเศรษฐกิจทางฝั่งเอเชีย เพิ่มเติม เช่น ตัวเลขภาคการผลิตและค้าปลีกของฮ่องกงและเวียดนาม 7) ผลประกอบการ Broadcom, Crowdstrike, Dell Technologies, Dollar General, HP, Lululemon Athletica, National Bank of Canada, Salesforce, Veeva Systems, Vmware, Bilibili
  •  
  • ภาพรวม  ในภาพรวมตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ผลประกอบการออกมาดีกว่าที่คาด ในขณะที่กลุ่มอื่นปรับตัวลดลงสะท้อนภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง, การเจรจาขยายเพดานหนี้ที่ยังไม่มีข้อสรุป, การระบาด COVID-19 ในจีน ท่ามกลางท่าทีของ FED ที่ยังไม่ผ่อนคลายนโยบายการเงิน ยังเป็นภาพที่กดดันตลาดอยู่ในระยะสั้น ซึ่งหากผ่านเพดานหนี้ไปได้ ตลาดก็จะยังเผชิญกับความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยและชะลอตัวต่อเนื่อง
  •  
  • กลยุทธ์ – สัปดาห์นี้ (29 พ.ค.-2 มิ.ย.) ทางการสหรัฐฯสามารถเจรจา Debt Ceiling กันสำเร็จ ทำให้เรามองว่าตลาดจะสนองเชิงบวกและปรับตัวขึ้นได้ ซึ่งจะทำให้ความเสี่ยงระยะสั้นจากผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ คลี่คลายลงและหายไป ซึ่งในส่วนของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เราประเมินว่าจะปรับขึ้น 2% ในทิศทางเดียวกับตลาดเอเชียที่จะปรับตัวขึ้นได้ ขณะที่เรามองกลุ่มที่จะได้รับ Sentiment บวกนำกลุ่มอื่น ได้แก่ 1) กลุ่ม Bank จากภาพเศรษฐกิจที่ดูดีขึ้น 2) กลุ่ม เทคฯ จากภาพ Yield ที่ลดลง ส่วนในระยะถัดไปเชื่อว่าตลาดจะโฟกัสกับประเด็นการขึ้นดอกเบี้ย ทิศทางผลประกอบการใน 2Q23 และสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในสหรัฐฯ ต่อ
  •  
  • หุ้นแนะนำ – เราเน้นไปที่หุ้นที่คาดว่าจะได้โมเมนตัมจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ที่มีผลประกอบการดีและหุ้นจะปรับตัวขึ้นหลังการเจรจาเพดานหนี้ผ่านไปได้ด้วยดี เราเลือก Crowdstrike และ Salesforce
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม  Global morning routine_230529_T
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5