บทสรุป |
ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นหลังได้รับ Sentiment เชิงบวกจากหนึ่งในสมาชิกคณะผู้ว่าการ Fed ที่มีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ Fed ในขณะนี้อยู่ในระดับที่เข้มงวดมากพอแล้ว พร้อมส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า นอกจากนี้ยังมีแรงหนุนจากภาพความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 102.0 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 99.1 ในเดือนต.ค. กระแสเงินในวันที่ 27 พ.ย. 2023 1) กระแสเงินในตราสารมีความผันผวน กระแสเงินเริ่มชะลอตัวลงหลังตลาดไม่มีปัจจัยใหม่ แต่ยังเห็นมีกระแสเงินซื้อหุ้นกู้เอกชนอย่างต่อเนื่อง 2) มีแรงซื้อในกลุ่มเทคโนโลยีต่อเนื่องบนภาพการฟื้นตัว แต่เริ่มมีแรงขายในกลุ่ม Growth 3) มีแรงขายในตลาดญี่ปุ่นจากแนวโน้มค่าเงินเยนที่อาจจะแข็งค่าตามท่าทีของ BOJ ที่จะใช้นโยบายการเงินตึงตัวมากขึ้นในปี 2024 4) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้นจีนมีแรงซื้อในระดับหนึ่งทั้งนี้มองว่าเป็นมาตรการเข้าช่วยเหลือด้านเงินทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีน 5) กลุ่มพลังงาน กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมและหุ้นขนาดเล็กมีแรงขาย มองว่าเป็นผลสืบเนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง Russia-Ukraine ไม่มีพัฒนาการเชิงบวก เห็นความขัดแย้งในฝั่งของรัสเซียเพิ่มขึ้น ด้านราคาถ่านหินในยุโรปปรับตัวลดลง 3% ราคาก๊าซธรรมชาติลดลง 1.5% ส่วนต่างดอกเบี้ยของกลุ่ม IG ทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น 1bps ส่วนตราสาร HY ปรับเพิ่มขึ้น 5bps ส่วน CDS ทั้ง IG และ HY ปรับลดลง 1.1% และ 0.8% ตามลำดับ ขณะที่ตลาดหุ้นจีนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม Reopening ในจีนภาพรวมปรับตัวลดลง 1.1% ทั้งนี้มองว่าตลาดได้รับแงรกดดันจากการแพร่ระบาดของโรคปอดบวมในจีนเป็นสำคัญ แต่ความเสี่ยงที่จะเป็นเหมือน COVID-19 ยังมีอยู่ในระดับที่จำกัด กลุ่มซอฟต์แวร์องค์กรเผยผลประกอบการดีกว่าคาด พร้อมปรับเพิ่มคาดการณ์ โดย Intuit มีรายได้เพิ่มขึ้น 15%YoY ด้านกำไรดีกว่าคาดอยู่ที่ $1.66 ด้าน Workday รายได้โต 17%YoY หนุนจากรายได้ Subscription +18%YoY ด้าน Backlog +31%YoY และ cRPO ในรอบ 12 เดือนเติบโต 22% ดีกว่าคาด (20%) ซึ่งเรามองว่าสิ่งที่ทำให้ซอฟต์แวร์ได้ภาพการเติบโตดีต่อเนื่องจาก AI ทำให้บริษัทมีประสิทธิภาพการใช้งานดีขึ้น ประกอบกับทั้งสองบริษัทเป็นซอฟต์แวร์ที่ภายในองค์กรยังคงมีความต้องการใช้ ด้วยภาพนี้จึงทำให้ช่วยลดผลกระทบจากการใช้จ่ายด้าน IT ที่ลดลงได้ ตัวเลขผลประกอบการของกลุ่ม Platform ในจีนอย่าง Meituan และ Pinduoduo ออกมาดีกว่าที่คาด แต่สิ่งที่ต้องกังวลมีอยู่สองเรื่อง 1) การบริโภคที่ฟื้นตัวช้าในจีน ส่งผลให้มีการแข่งขันเพื่อชิงส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้น และ 2) ค่าใช้จ่ายด้านการตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นในการทำโปรโมชั่น ทำให้หลายบริษัทมีแผนในการขยายการลงทุนในต่างประเทศ เรามองว่าการเติบโตในเชิงของรายได้ใน 4Q23 ไม่ใช่ปัญหาเพราะฐานต่ำจากปี 2022 แต่ในปี 2024 การเติบโตของรายได้จะลดลงแต่การแข่งขันที่สูงทำให้เราค่อนข้างกังวลกับ Margin ของกลุ่มนี้เป็นสำคัญ ซึ่งอาจจะเป็นที่มาที่ทำให้หุ้นในกลุ่ม e-commerce ไม่ฟื้นตัวตามผลประกอบการมากนัก |
| ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก Global morning routine_231129_T |
