INVX Global Morning Routine - 30 พ.ค. 2566

บทสรุป

• ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1% ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐ, อังกฤษ และหลายประเทศในยุโรปปิดทำการในวันจันทร์ ด้านตลาดหุ้นฮ่องกงและจีนปรับตัวลงหลังหลังตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนที่ช้ากว่าคาด บดบังประเด็นบวกจากการเจรจาเพดานหนี้ของทางการสหรัฐฯที่สามารถบรรลุข้อตกลงสำเร็จ
•  
• กระแสเงินในวันที่ 26 พ.ค. 2023 1) กระแสเงินไหลเข้าตราสารหนี้ เริ่มเห็นสัญญาณการยอมรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเมื่อมีพัฒนาการเชิงบวกจากการเจรจาหนี้สิน โดยเป็นการซื้อตราสาร High Yield และขายตราสารหนี้คุณภาพดี 2) มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะจากธีม Semiconductor ในขณะที่ตลาดจีนเริ่มมีแรงซื้อกลับหลังราคาปรับตัวลดลงแรงต่อเนื่อง 3) เริ่มเห็นแรงเก็งกำไรในหุ้นตลาด EM มากขึ้นแต่เทรนด์ยังไม่ชัดเจน เช่นเดียวกับการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์ 4) เริ่มเห็นแรงขายทำกำไรในตลาดหุ้นญี่ปุ่นหลังจากที่ดัชนีปรับขึ้นอย่างโดดเด่นก่อนหน้านี้ 6) มีแรงขายในเกลุ่มเชิงวัฎจักรเช่นการเงินและพลังงาน รวมถึงกลุ่มเชิงรับ ทั้งนี้มองว่าเป็นไปตามภาพของสัญญาณเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีมากนัก
•  
• Russia-Ukraine ไม่มีพัฒนาการเชิงบวก ด้านราคาถ่านหินในยุโรปลดลง 1.8% ราคาก๊าซธรรมชาติลดลง 4.3% ขณะที่ Credit Spread ของ IG ทั่วโลกลดลง 2bps ส่วน HY ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4bps นอกนั้นกลุ่ม Reopening ในจีนปรับตัวลดลง 0.6% หลังตลาดยังกังวลกับสถานการณ์ระบาด COVID-19 แต่อย่างไรก็ดีกลุ่มท่องเที่ยวและคาสิโนเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่อง ในขณะที่ร้านอาหารและโรงภาพยนตร์ปรับตัวลดลงแรง 2-3% ซึ่งอาจจะเป็นความกังวลว่าคนจะมัดระวังในการทำกิจกรรมภายนอกมากขึ้น
•  
• แม้ว่าผลประกอบการของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของจีนจะออกมาดีและมีสัญญาณการฟื้นตัวแต่อย่างไรก็ดีภาพของการแข่งขันและ
• สงครามราคายังกดดัน Upside ของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจีนในระยะสั้นหลังจากล่าสุด Meituan ประกาศจับมือกับ WeChat’s
• Payment และร่วมมือกับ Tencent ด้านการตลาด ซึ่งจะทำให้การแข่งขันในธุรกิจนี้เพิ่มขึ้นและกังวลต่อแนวโน้มมาร์จิ้น นอกนี้ JD.com ประกาศปรับลดราคา Cloud computing ต่อเนื่องจาก Alibaba ทำให้การแข่งขันในธุรกิจนี้ยังมองไม่เห็นการกลับมาทำกำไรได้ในระยะสั้น ดังนั้นการฟื้นตัวของกลุ่มเทคโนโลยีจีนจะเป็นไปอย่างช้าๆ และอาจจะได้รับแรงกดดันด้าน Valuation จนกว่าตลาดจะเห็นการฟื้นตัวของกำไรที่ชัดเจน เราแนะนำไปมองหุ้นธีมที่ใช้ประโยชน์จาก AI อย่าง Baidu ที่มีอุปสงค์ชัดเจนกว่า
•  
• 367 บริษัทในดัชนี Stoxx600 (คิดเป็น 78% ของบริษัททั้งหมดในดัชนี) เผยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 23 เป็นที่เรียบร้อย โดยรายได้ทุกกลุ่มดีกว่าตลาดคาด เว้นแต่กลุ่ม Materials และ Communication Service ที่เป็นไปตามคาด ส่วนกลุ่ม Real Estate และ Energy ผิดไปจากตลาดคาด อย่างไรก็ดีหากตัดความหวังตลาดออก รายได้ที่ออกมายังคงอยู่ในทิศทางชะลอตัวลง โดยเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 4%YoY และหดตัว -5%QoQ ด้านกำไรฟื้นตัวได้และเพิ่มขึ้น 19%YoY และ 36%QoQ ตามลำดับ ส่วนกลุ่มที่ Outperform Sector ได้แก่ กลุ่ม Financials และ Consumer Staples ด้านกลุ่ม Underperform Sector ได้แก่ กลุ่ม Real Estates และกลุ่ม Materi