INVX Quarterly Gold 4Q23 – ประเมินทิศทางราคาทองคำใน 4Q23 มีแนวโน้มแกว่งตัว ทดสอบ 1950 ดอลลาร์

บทวิเคราะห์การลงทุน

สินทรัพย์อื่นๆ

02 ต.ค. 2566;

248

แชร์บทความนี้

เนื้อหาโดยรวม

ประเมินทิศทางราคาทองคำใน 4Q23 มีแนวโน้มแกว่งตัว ทดสอบ 1950 ดอลลาร์

แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อยังทรงตัว ไม่ปรับลงอย่างมีนัย (0) : เราคาดการณ์กรอบอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ใน 4Q23 จะอยู่ในช่วง 3.0-3.1% จากประมาณการที่เราทำไว้เมื่อ 3Q23 ที่อยู่ในกรอบ 2.8-3.2% ทำให้ทองคำยังมีความสำคัญในฐานะสินทรัพย์ปกป้องเงินเฟ้ออยู่
แนวโน้มอัตราดอกเบี้ย Fed จะอยู่ในระดับสูงจนถึงสิ้นปี (-) : เราคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะคงอัตราดอกเบี้ยในกรอบ 5.25-5.50% ใน 4Q23 จากที่เราเคยมองว่า Fed จะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน พ.ย. ทำให้ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่เคลื่อนไหวสวนทางกับอัตราดอกเบี้ยมีกรอบการขึ้นที่จำกัด
แนวโน้มเงินดอลลาร์สหรัฐฯ คาดจะพลิกกลับมาอ่อนค่า (+) : เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นในช่วง 3Q23 จากตัวเลขเศรษฐกิจที่ขยายตัวดีในช่วงต้นของ 3Q23 โดยเฉพาะตัวเลขตลาดแรงงาน (ใน 2 เดือนหลัง) ที่ยังดี รวมถึงยอดค้าปลีกและดัชนี ISM ภาคการผลิตที่ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม เรามองว่าทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐใน 4Q23 มีแนวโน้มชะลอแรงขึ้นใน 4Q23 และจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2024 ทำให้เงินดอลลาร์มีแนวโน้มพลิกกลับมาอ่อนค่าได้
แนวโน้มธนาคารกลางถือครองทองคำเพิ่มขึ้น (+) : สภาทองคำโลกระบุธนาคารกลางหลายแห่งได้สำรองทองคำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะธนาคารกลางจีน (PBoC) ได้เพิ่มการถือครองทองคำติดต่อกัน 10 เดือน ส่งผลให้ปริมาณสำรองทั้งหมด ณ เดือน ก.ย. อยู่ที่ 2,165 ตัน เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงออกจากดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ยังมีการยกเลิกการจำกัดการนำเข้าทองคำสำหรับธนาคารพาณิชย์บางรายชั่วคราว รวมทั้งการเข้าสู่ช่วงเทศการปลายปีหนุนอุปสงค์ ส่งผลให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้น
แนวโน้มของ ETFs ทองคำ อาจยังไม่กลับมามีสถานะซื้อสุทธิใน 4Q23 (-) : โดยกองทุน ETFs ในอเมริกาเหนือ มีสถานะขายสุทธิ ETFs ทองคำใน 3Q23 60.5 ตัน (4.8 พันล้านดอลลาร์) นอกจากนี้กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ลดการถือครองทองสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 4 ปี เป็นสัญญาณบ่งชี้อุปสงค์ที่ซบเซาของนักลงทุน อาจส่งผลให้กองทุน ETFs ยังไม่กลับมาซื้อสุทธิใน 4Q23
ปัจจัยความเสี่ยง : 1) อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐชะลอลง 2) เงินดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง 3) Fed ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน พ.ย. หรือ ส่งสัญญาณคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนานกว่าที่คาด