เนื้อหาโดยรวม
-
การลงทุนในหุ้นโลก หนึ่งตัวเลือกสำคัญของการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ และมักถูกนำมาใช้จัดสรรเป็นส่วนการลงทุนแกนพอร์ต (Core Portfolio) ซึ่งลงทุนเป็นระยะเวลายาว ช่วยลดความผันผวนให้แก่พอร์ตภาพรวม ขณะที่สร้างโอกาสรับผลตอบแทนสม่ำเสมอจากหุ้นทั่วโลก ขณะที่การลงทุนในกองทุนหุ้นโลกมีตัวเลือกมากมาย แต่ควรเลือกองทุนหุ้นโลกที่ดี มีการคัดหุ้นคุณภาพ เพราะจะช่วยทำให้นักลงทุนสามารถถือครองได้อย่างสบายใจในระยะยาว
ลงทุนหุ้นโลก ดีอย่างไร?
การลงทุนในหุ้นโลก เป็นหนึ่งตัวเลือกสำคัญของการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ที่ไม่ต้องการลงทุนในรายประเทศเอง นิยมใช้กองทุนหุ้นโลกเป็นเครื่องมือในการลงทุน เพื่อสร้างโอกาสผลตอบแทนในระยะยาว ในบทความนี้เราจะชี้ให้เห็นถึงข้อดีของการลงทุนในหุ้นโลก และกองทุนหุ้นโลกที่น่าสนใจอย่างกองทุน KKP GNP
ประโยชน์ของการลงทุนในหุ้นทั่วโลก
1. ช่วยกระจายความเสี่ยง
การกระจายความเสี่ยงพอร์ตการลงทุนด้วยการลงทุนในหลายๆ ประเทศ นอกเหนือไปจากการลงทุนในตราสารทุนในประเทศตนเอง ช่วยทำให้ความผันผวนของพอร์ตลดลง และลดความเสี่ยงของการลงทุนกระจุกตัว แม้ว่าการลงทุนในประเทศจะทำให้เรารู้สึกสบายใจ เพราะคุ้นเคยดีกับหุ้นในประเทศของเรา แต่หุ้นทั่วโลกนั้นมีตัวเลือกการลงทุนที่กว้างขวางกว่า โดยการกระจายความเสี่ยงมีความสำคัญ คือ
ช่วยลดความผันผวน: ความผันผวนของพอร์ตการลงทุนจะลดลงหากมีการจัดสรรเงินลงทุนไปยังสินทรัพย์หลากหลายประเภท เช่น อาจมีกระจายลงทุนหุ้นต่างประเทศระหว่าง 35% ถึง 55% โดยการกระจายไปยังประเทศ อุตสาหกรรม หรือภาคส่วนต่างๆ ที่สามารถลดผลกระทบจากปัจจัยทางเศรษฐกิจหรือตลาดในท้องถิ่นได้
ค่าสหสัมพันธ์ไม่ไปทางเดียวกันอย่างสมบูรณ์: อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ คือ หากเรามีการลงทุนในหุ้นประเทศเดียวกัน ย่อมมีความเสี่ยงเชิงเศรษฐกิจมหภาค หรือความเสี่ยงจากตลาดแบบเดียวกัน แต่การขยายขอบเขตการลงทุนไปในต่างประเทศ จะช่วยลดค่าสหสัมพันธ์ หรือความเสี่ยงร่วมกันลดลงให้แก่พอร์ตการลงทุนได้ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ประเทศกำลังเผชิญปัญหา
2. โอกาสการลงทุนในต่างประเทศที่มีมากกว่า
เหตุผลสำคัญที่ทำไมนักลงทุนจึงไม่ควรยึดติดกับตลาดในประเทศเพียงอย่างเดียว ก็เพราะการลงทุนในต่างประเทศนั้นมีสินทรัพย์ให้เลือกลงทุนมากมาย และมีหลากหลายธุรกิจ ดังนั้น การลงทุนในประเทศเพียงอย่างเดียว อาจปิดกั้นโอกาสในการเข้าลงทุนในบางธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูงไป
จากสถิติในอดีตบ่งชี้ว่าการลงทุนในหุ้นทั่วโลกมีโอกาสรับผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งในบางช่วงเวลาที่ตลาดภายในประเทศซบเซา การลงทุนในตลาดต่างประเทศก็มีโอกาสที่จะนำการเติบโตมาสู่พอร์ตการลงทุนของคุณได้มากกว่า เช่น ธุรกิจ AI, ธุรกิจ Software ในต่างประเทศ เป็นต้น
ลงทุนหุ้นโลก ด้วยกองทุน KKP GNP
กองทุน KKP GNP และกองทุน KKP GNP-H ลงทุนในกองทุนหลักที่มีชื่อว่า Capital Group New Perspective Fund ซึ่งเป็นกองทุนที่ตอบโจทย์สำหรับการลงทุนในระยะยาวเพื่อการสร้างผลตอบแทนที่เอาชนะดัชนีหุ้นโลกอย่างสม่ำเสมอ มีวิธีการคัดเลือกหุ้นรายตัวคุณภาพสูงอย่างเข้มข้นโดยทีมผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 11 คน และเป็นอิสระต่อกัน จึงทำให้พอร์ตการลงทุนมีการกระจายตัวได้เป็นอย่างดี และภายในพอร์ตนั้นเต็มไปด้วยหุ้นคุณภาพสูงกว่า 250 ตัว ระยะเวลาการถือครองหุ้นส่วนใหญ่ในพอร์ตยังมากกว่า 3 ปีขึ้นไป
โครงสร้างการบริหารพอร์ตการลงทุนกองทุนหลัก KKP GNP
- 80% ทีมผู้จัดการกองทุน โดยทีมบริหารกองทุนมีจำนวนทั้งหมด 11 คน ทำหน้าที่ในการดูแลพอร์ตการลงทุนย่อยของตนเอง ซึ่งมีสไตล์การลงทุนและประสบการณ์ที่แตกต่างกัน โดยให้อิสระแก่ผู้จัดการกองทุนแต่ละคนในการคัดเลือกหุ้นที่ลงทุนเป็นพอร์ตการลงทุนของตนเอง มีการกระจายความเสี่ยงที่ดี ไม่กระจุกตัวในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากเกินไป มองหาบริษัทที่มีโอกาสในการสร้างการเปลี่ยนแปลง และมองหาโอกาสในการลงทุนระยะยาว ซึ่งในส่วนนี้จะมีผู้จัดการกองทุนหลัก 2 ท่านที่คอยดูแลภาพรวมทั้งหมดของพอร์ตการลงทุนหลักอีกขั้นตอนหนึ่งเพื่อควบคุมเรื่องความเสี่ยงและให้เป็นไปตามกรอบของการบริหารพอร์ตการลงทุนทั้งหมด
- 20% ทีมนักวิเคราะห์ โดยทีมนักวิเคราะห์จะทำหน้าที่ในการคัดเลือกหุ้นที่อยู่ในพอร์ตการลงทุน แบ่งส่วนตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน และมี Highest Conviction Idea บนแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมที่แต่ละคนวิเคราะห์อยู่ พร้อมทั้งนักวิเคราะห์พอร์ตการลงทุนนี้จะมีการพัฒนาประวัติและผลการดำเนินงานของพอร์ตการลงทุนในระยะยาว และเรียนรู้เก็บเกี่ยวประสบการณ์เพื่อที่จะเป็นผู้จัดการกองทุนรุ่นใหม่ในอนาคต
ลักษณะพอร์ตการลงทุนของกองทุนหลัก มีการกระจายตัวที่ดี ยืดหยุ่น และสมดุล โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม
- กลุ่ม Secular Growth: กลุ่มที่แฟรนไชน์มีคุณภาพและมีความทนทนทานและเติบโตสูง มีกำไรและกระแสเงินสดรวมถึงงบการเงินที่แข็งแกร่ง พร้อมทั้งมีความสามารถในการขยายตลาด และมีระดับ Valuation ที่เหมาะสมในระยะกลางถึงยาว
- กลุ่ม Inflation Mitigation: กลุ่มที่มีกำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่งและสม่ำเสมอ แบรนด์มีมูลค่าสูง มีความชัดเจนในด้านจุดเด่นของบริษัท และมีอำนาจในการเพิ่มราคาขึ้นสินค้าในช่วงที่เงินเฟ้อสูง
กลุ่ม Stable Foundations: กลุ่มที่มีโมเดลธุรกิจแบบ Subscription มีเพื่อสร้างกระแสเงินสดแบบ Networks เป็นที่รู้จักแบบประจักษ์และมีการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่ง
กลุ่ม Economically Sensitive Growth: กลุ่มที่โฟกัสในบริษัทที่มีคุณภาพสูง และได้รับประโยชน์เชิงโครงสร้างรวมถึงวัฏจักรเศรษฐกิจ- หุ้น 5 ตัวแรกที่พอร์ตการลงทุนถืออยู่ (ข้อมูล ณ 29 ก.พ. 2024)
- Microsoft (3.9%) บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์และบริการเทคโนโลยีต่างๆ
Meta Platforms (3.5%) บริษัทด้านเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดีย เน้นการพัฒนาและให้บริการโซเชียลมีเดียชั้นนำทั่วโลก และยังทำธุรกิจที่เกี่ยวกับความเป็นจริงเสมือน (Virtual Reality) อีกด้วย
Novo Nordisk (2.9%) บริษัทยาที่มีชื่อเสียงระดับโลก เชี่ยวชาญในการพัฒนาและผลิตยาเพื่อรักษาโรคเบาหวานและภาวะเกี่ยวกับฮอร์โมน
Broadcom (2.5%) บริษัทผู้ผลิตชิปและโซลูชันทางเทคโนโลยี มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ให้บริการทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจโดยมีผลิตที่หลากหลาย
TSMC (2.3%) บริษัทผู้ผลิตชิประดับโลก มีความโดดเด่นด้านชิปเซมิคอนดักเตอร์ที่มีความล้ำสมัยและในนวัตกรรมการผลิตขั้นสูง และมีความยืดหยุ่นโดยสามารถปรับขนาดชิปได้ตามความต้องการของลูกค้า
สรุปจุดเด่นของกองทุนและกองทุนหลัก Capital Group New Perspective Fund
ที่มา : Capital Group as of Dec 2023, KKPAM as of Jan 2024, Top Holdings as of 29 Feb 2024
เขียนโดย : INVX Wealth Products & Strategy