Keyword
บทวิเคราะห์รายอุตสาหกรรม

ธนาคาร – สินเชื่อขยายตัวต่ำในเดือนพ.ค

22 Jun 23 11:46 AM
THUMNAIL-(8)-20240911232602
BANK

สินเชื่อของกลุ่มธนาคารขยายตัวต่ำในเดือนพ.ค. ที่ 0.2% MoM และ 0.6% YoY ส่งผลทำให้สินเชื่อขยายตัวเพียง 0.2% QTD ใน 2Q66 และ -0.3% ใน 5M66 เราเล็งเห็นความเสี่ยง downside ต่อประมาณการการเติบโตของสินเชื่อปี 2566 ของเราที่ 4% อย่างไรก็ตาม ประมาณการ NIM ปี 2566 ของเรามีแนวโน้ม upside เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจจะปรับขึ้นอีกใน 2H66 เราคาดว่ากำไร 2Q66 ของกลุ่มธนาคารจะเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ และกำไรจะเติบโตปานกลางในปี 2566 เรายังคงเลือก BBL และ KTB เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มธนาคาร

สินเชื่อขยายตัวต่ำในเดือนพ.ค. บ่งชี้ถึงความเสี่ยง downside สินเชื่อของกลุ่มธนาคารขยายตัว 0.2% MoM ในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับทรงตัว MoM ในเดือนเม.ย. และมี.ค. การเติบโตของสินเชื่อในเดือนพ.ค. ได้แรงหนุนหลักจากสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อรายย่อย (สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อรถยนต์ และสินเชื่อส่วนบุคคล) โดยในเดือนพ.ค. SCB และ BBL เป็นธนาคารที่มีสินเชื่อขยายตัวสูงสุดที่ 1% MoM และ 0.8% MoM ตามลำดับ มีเพียง BAY และ KBANK ที่สินเชื่อหดตัวในเดือนพ.ค. ขณะที่เมื่อเทียบ YoY สินเชื่อขยายตัวต่ำที่ 0.6% การเติบโตของสินเชื่อ QTD ใน 2Q66 อยู่ที่ระดับต่ำเพียง 0.2% สินเชื่อหดตัวลง 0.3% ใน 5M66 ต่ำกว่าประมาณการปี 2566 ของเราที่ 4% ค่อนข้างมาก แม้เราคาดว่าการเติบโตของสินเชื่อจะฟื้นตัว HoH ใน 2H66 แต่เราเล็งเห็นความเสี่ยง downside ต่อประมาณการการเติบโตของสินเชื่อปี 2566 ของเราที่ 4%

NIM มีแนวโน้ม upside ประมาณการ NIM ที่เราคาดการณ์ไว้สำหรับธนาคารขนาดใหญ่ (BBL KTB KBANK และ SCB) มีแนวโน้ม upside เพราะอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจจะปรับขึ้นอีกสู่ 2.5% ใน 2H66 สูงกว่าสมมติฐานของเราที่ 2% SCB EIC คาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปสู่ระดับสูงสุดที่ 2.5% ใน 3Q66 เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และอัตราเงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมายแล้ว คณะกรรมการนโยบายการเงินระบุว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายควรปรับขึ้นเข้าสู่ระดับที่เหมาะสมกับการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพในระยะยาวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยพร้อมที่จะปรับขนาดและเงื่อนเวลาของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หากแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อไทยเปลี่ยนไปจากที่ประเมินไว้

แนวโน้มกำไร 2Q66 และปี 2566 ใน 2Q66 เราคาดการณ์ในเบื้องต้นว่ากำไรจะเพิ่มขึ้น YoY (NIM ดีขึ้น) แต่จะลดลง QoQ (กำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยวิธี FVTPL ลดลง) ทั้งนี้เมื่อเทียบ QoQ เราคาดว่าสินเชื่อจะฟื้นตัวตามฤดูกาล NIM จะขยายตัวเพิ่มขึ้น credit cost จะอยู่ในระดับทรงตัว non-NII จะอ่อนแอลงเพราะกำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยวิธี FVTPL ลดลงและรายได้ค่าธรรมเนียมทรงตัว และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้จะอยู่ในระดับทรงตัว เราคาดว่า BBL จะรายงานกำไร 2Q66 เติบโตแข็งแกร่งที่สุดทั้ง YoY และ QoQ สำหรับปี 2566 เราคาดว่ากำไรกลุ่มธนาคารจะเติบโต 13% โดยคาดว่าสินเชื่อจะเติบโต 4% NIM จะขยายตัว 23 bps (หลักๆ เกิดขึ้นที่ธนาคารขนาดใหญ่) credit cost จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 6 bps non-NII จะอยู่ในระดับทรงตัว (รายได้ค่าธรรมเนียมทรงตัว) และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้จะลดลงเล็กน้อย

ยังคงเลือก BBL และ KTB เป็นหุ้นเด่น เรายังคงเลือก BBL และ KTB เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มธนาคาร เพราะ 1) มีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น 2) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำกว่าธนาคารอื่นๆ และ 3) valuation น่าสนใจ

PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม  BANK230622_T
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5