สินเชื่อของกลุ่มธนาคารหดตัวติดต่อกัน 2 เดือน สะท้อนถึงนโยบายปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น ความต้องการสินเชื่อค่อนข้างน้อย และการชำระคืนสินเชื่อสูง เราเล็งเห็นความเสี่ยงขาลงต่อประมาณการการเติบโตของสินเชื่อในปี 2567 ของเราที่ 3% เราคาดว่ากำไรปี 2567 ของกลุ่มธนาคารจะเติบโต 5% และกำไร 2Q67 จะลดลงเล็กน้อย QoQ แต่จะอยู่ในระดับทรงตัว YoY เรายังคงเลือก BBL และ KTB เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มธนาคาร เนื่องจาก valuation น่าสนใจที่สุดและความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำที่สุด สินเชื่อหดตัว สินเชื่อของกลุ่มธนาคารหดตัว 0.3% MoM ในเดือนพ.ค. หลังจากหดตัว 0.3% MoM ในเดือนเม.ย. ทั้งนี้ ณ เดือนพ.ค. สินเชื่อหดตัว 0.7% QTD, 0.4% YTD และ 0.1% YoY ธนาคารส่วนใหญ่พบว่าสินเชื่อหดตัวติดต่อกัน 2 เดือน สะท้อนถึงนโยบายปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น ความต้องการสินเชื่อค่อนข้างน้อย และการชำระคืนสินเชื่อสูง ในเดือนพ.ค. KTB เป็นธนาคารที่สินเชื่อหดตัวมากสุดที่ 1.2% MoM (สะท้อนถึงการชำระคืนสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อภาครัฐค่อนข้างสูง) และ SCB เป็นธนาคารที่มีการเติบโตของสินเชื่อสูงสุดที่ 0.6% MoM ทั้งนี้ในกลุ่มธนาคาร SCB มีการเติบโตของสินเชื่อ YTD สูงสุดที่ 0.9% และ BAY มีการเติบโตของสินเชื่อต่ำสุดที่ -2% เราคาดว่าการเติบโตของสินเชื่อจะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลในเดือนมิ.ย. เราเล็งเห็นความเสี่ยงขาลงต่อประมาณการการเติบโตของสินเชื่อปี 2567 ของเราที่ 3% โดยเฉพาะ BAY KKP และ KBANK เงินฝากและเงินกู้ยืมเพิ่มขึ้น เงินฝากและเงินกู้ยืมของกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้น 0.4% MoM, 1.1% YoY และ 0.7% YTD ในเดือนพ.ค. แซงหน้าการเติบโตของสินเชื่อ อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินฝากและเงินกู้ยืมของกลุ่มธนาคารลดลงสู่ 88% ในเดือนพ.ค. จาก 89% ในเดือนเม.ย. คาดกำไรเติบโตเล็กน้อย เราคาดว่ากำไรของกลุ่มธนาคารจะเติบโต 5% ในปี 2567 โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของสินเชื่อที่ 3% NIM ที่ค่อนข้างทรงตัว (ใช้สมมติฐานว่าไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย) credit cost ที่ลดลงเล็กน้อย non-NII ในระดับคงที่ และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ในระดับทรงตัว สำหรับ 2Q67 เราคาดว่ากำไรโดยรวมจะอยู่ในระดับทรงตัว YoY แต่จะลดลงเล็กน้อย QoQ ซึ่งเป็นผลมาจาก NIM ที่แคบลงจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย MRR ลง 25 bps สำหรับลูกค้ากลุ่มเปราะบาง |
|||
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก BANK240624_T
|