Keyword
บทวิเคราะห์รายอุตสาหกรรม

พลังงาน: โรงกลั่น – แนวโน้มดีขึ้นหลัง 4Q65 อ่อนแอ

6 Feb 22 12:00 AM
Content_Cover_990x740px-03-20240912030004
สรุปสาระสำคัญ

หุ้นผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันไทยส่วนใหญ่ปรับตัว outperform SET และ SETENERG ใน 1Q66TD โดยได้รับการสนับสนุนจากการเริ่มต้นปีที่ 2566 ที่ดี โดย Singapore GRM ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ US$10/bbl จาก US$6-7/bbl ใน 2H65 GRM มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากอุปสงค์ที่สูงขึ้นในตลาดภูมิภาคหลังจากจีนเปิดประเทศอีกครั้ง แม้ว่าผลการดำเนินงาน 4Q65 จะยังคงอ่อนแอ โดยมีสาเหตุมาจากขาดทุนสินค้าคงเหลือและ GRM ที่อ่อนแอ เราคาดว่าผลการดำเนินงานจะฟื้นตัว QoQ ใน 1Q66 เพราะ GRM จะปรับตัวดีขึ้น และไม่มีขาดทุนสินค้าคงเหลือจำนวนมากเกิดขึ้นอีก BCP ยังคงเป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มพลังงาน

หุ้นผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันไทยส่วนใหญ่ปรับตัว outperform SET และ SETENERG ใน 1Q66TD โดยได้รับการสนับสนุนจากการเริ่มต้นปีที่ 2566 ที่ดี โดย Singapore GRM ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ US$10/bbl จาก US$6-7/bbl ใน 2H65 GRM มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากอุปสงค์ที่สูงขึ้นในตลาดภูมิภาคหลังจากจีนเปิดประเทศอีกครั้ง แม้ว่าผลการดำเนินงาน 4Q65 จะยังคงอ่อนแอ โดยมีสาเหตุมาจากขาดทุนสินค้าคงเหลือและ GRM ที่อ่อนแอ เราคาดว่าผลการดำเนินงานจะฟื้นตัว QoQ ใน 1Q66 เพราะ GRM จะปรับตัวดีขึ้น และไม่มีขาดทุนสินค้าคงเหลือจำนวนมากเกิดขึ้นอีก BCP ยังคงเป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มพลังงาน

คาดผลการดำเนินงาน 4Q65 มีทิศทางที่คละเคล้ากัน ผลการดำเนินงาน 4Q65 ของผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันไทยคาดว่าจะมีทิศทางที่คละเคล้ากัน โดยจะได้รับผลกระทบจากค่าการกลั่นที่ลดลงและขาดทุนสินค้าคงเหลือเพราะราคาน้ำมันลดลง 15% QoQ ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ (Singapore GRM) ลดลง 11% QoQ สู่ US$6.26/bbl แต่ได้รับการชดเชยบางส่วนจาก crude premium ที่แคบลง >US$3/bbl ซึ่งส่วนใหญ่เป็นน้ำมันจากตะวันออกกลาง (~57% ของน้ำมันดิบที่ใช้ใน 4Q65) เนื่องจากซาอุดิอาระเบียได้ปรับลดราคาน้ำมันดิบส่วนใหญ่ที่ส่งไปยังเอเชียใน 4Q65 โดยมีสาเหตุมาจากปริมาณการใช้เชื้อเพลิงในจีนที่ต่ำกว่าคาด ท่ามกลางกฎคุม COVID-19 ที่เข้มงวด ทำให้อุปสงค์ในตลาดภูมิภาคชะลอตัวลง ทั้งนี้ในจำนวนผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันไทย 6 ราย เราคาดว่า BCP จะรายงานกำไรสุทธิ 4Q65 สูงที่สุด แม้ว่าจะลดลง QoQ โดยมีสาเหตุมาจากส่วนแบ่งกำไรที่ลดลงจากธุรกิจอื่นๆ

ค่าการกลั่นจะปรับตัวดีขึ้นใน 1Q66 Singapore GRM ปรับตัวดีขึ้นใน 1Q66 โดยมีค่าเฉลี่ย QTD อยู่ที่ US$10/bbl เพิ่มขึ้น 60% QoQ โดยได้รับการสนับสนุนจาก crack spread ที่สูงขึ้นของน้ำมันเบนซิน (+96% QoQ) และน้ำมันเครื่องบิน (+4% QoQ) เพราะความต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อการขนส่งเพิ่มขึ้นหลังจากจีนเปิดประเทศอีกครั้ง ซึ่งถูกลดทอนลงโดย crack spread ที่ลดลงของน้ำมันเบนซิน (-14% QoQ) เนื่องจากโรงกลั่นของจีนเพิ่มการส่งออกไปยังตลาดภูมิภาค แม้ว่า spread เฉลี่ย QTD ที่ US$33.8/bbl ยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่เพียง US$15/bbl เราคาดว่า crack spread ของน้ำมันดีเซลจะได้แรงหนุนในเวลาต่อมาจากคำสั่งห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมันจากรัสเซียของสหภาพยุโรป (EU) ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. เราคาดว่าค่าการกลั่นจะยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี (US$4/bbl) ในปี 2566 แม้ว่ามีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงจากระดับสูงผิดปกติที่ US$10.7/bbl ในปี 2565

ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ส่วนต่างราคา PX-ULG95 ปรับตัวดีขึ้นใน 4Q65 สู่ US$178/ตัน เพราะราคา ULG ลดลง แต่ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ US$231/ตัน ค่อนข้างมาก ส่วนต่างราคาลดลงมาแล้วใน 1Q66TD สู่ US$168/ตัน เนื่องจากราคา ULG ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพราะอุปสงค์สูงขึ้น เราคาดว่าส่วนต่างราคา PX จะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากอุปสงค์ ULG จะฟื้นตัวใน 1H66 นอกจากนี้กำลังการผลิต PX ใหม่ในจีนจะสร้างแรงกดดันเพิ่มมากขึ้นต่อตลาดภูมิภาคที่อยู่ในสภาวะอุปทานล้นตลาดอยู่แล้ว

ค่าการตลาดยังคงปรับตัวตามหลังราคาน้ำมันที่ลดลง ข้อมูลสถิติจากกระทรวงพลังงานแสดงให้เห็นว่าค่าการตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ 2.03 บาท/ลิตร ใน 4Q65 และปรับขึ้นอีกใน 1Q66TD สู่ 2.17 บาท/ลิตร เทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 2 บาท/ลิตร ซึ่งเราเชื่อว่าสะท้อนถึง lag time ในการปรับราคาขายปลีกน้ำมันในช่วงที่ราคาน้ำมันโลกลดลงอย่างต่อเนื่อง ราคาน้ำมันที่มีเสถียรภาพมากขึ้นใน 1Q66 คาดว่าจะช่วยพยุงค่าการตลาดไว้ที่ระดับปัจจุบัน แม้ว่าจะมีการปรับลดเพดานราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลง 0.5 บาท/ลิตร สู่ 34.5 บาท/ลิตร ตั้งแต่กลางเดือนก.พ. เป็นต้นไป ซึ่งเป็นการปรับราคาครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2565 เหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อค่าการตลาดหากราคาหน้าโรงกลั่นต่ำกว่า US$114.8/bbl เทียบกับราคาล่าสุดที่ US$107/bbl

หุ้นเด่น คือ BCP ราคาหุ้น BCP ปรับตัวเพิ่มขึ้น 14.3% YTD โดยได้แรงหนุนจากการประกาศซื้อหุ้น ESSO จากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ซึ่งเราเชื่อว่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ BCP เมื่อพิจารณาจากราคาเข้าซื้อยุติธรรม กำไรส่วนเพิ่มจาก ESSO และประโยชน์จาก synergy ในด้านการดำเนินงานและการตลาด นอกเหนือจากพัฒนาการเชิงบวกดังกล่าวและ GRM ที่แข็งแกร่งในปี 2566 แล้ว เรายังชอบที่ BCP มีธุรกิจ E&P ในนอร์เวย์ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากอุปสงค์น้ำมันและก๊าซที่แข็งแกร่งในยุโรปเพื่อทดแทนอุปทานจากรัสเซีย

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ1) ราคาน้ำมัน GRM และอัตราแลกเปลี่ยนผันผวน 2) การเปลี่ยนแปลงความชอบที่ผู้บริโภคมีต่อเชื้อเพลิงฟอสซิล และ 3) การเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านกฎระเบียบเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงภาษีคาร์บอนและคาร์บอนเครดิต

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5