พาณิชย์ – การเยี่ยมชมร้านค้าในกัมพูชาตอกย้ำศักยภาพการเติบโต

หลังจากเยี่ยมชมร้านค้า เรามองเห็นโอกาสเติบโตของผู้ประกอบการค้าปลีกไทยที่มีการลงทุนในกัมพูชาเมื่อพิจารณาจาก GDP ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง แรงงานวัยหนุ่มสาวจำนวนมาก การขยายตัวของความเป็นเมืองมากขึ้น กฎระเบียบค่อนข้างน้อยในการเข้าลงทุนในธุรกิจค้าปลีก และอัตราการเข้าถึงร้านค้าปลีกสมัยใหม่ระดับต่ำ CPALL และ MAKRO มีส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจในกัมพูชาน้อยมากในปัจจุบัน เนื่องจากจำนวนร้านค้าในกัมพูชาคิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.4% ของร้านค้าในประเทศไทยของ CPALL และ 2% ของร้านค้าในประเทศไทยของ MAKRO อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ากำไรจะเร่งตัวขึ้นในระยะกลางเมื่อพิจารณาจากความเชี่ยวชาญในธุรกิจค้าปลีก แผนขยายสาขาที่ค่อนข้างชัดเจน และการพัฒนาลูกค้าและผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะช่วยหนุนให้ยอดขายและมาร์จิ้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรายังคงคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ CPALL และ MAKRO

ข้อมูลตลาดของกัมพูชา GDP ที่แท้จริงของกัมพูชาเติบโต 5.1% ในปี 2565 มาอยู่ที่ US$2.9 หมื่นล้าน โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังโควิด National Bank of Cambodia คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของกัมพูชาจะเติบโต 5.6% ในปี 2566 โดยได้แรงหนุนจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เครื่องนุ่งห่ม การเกษตร และการก่อสร้าง โดยมีความท้าทายที่สำคัญจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นของกัมพูชาและการพึ่งพาพลังงานนำเข้า กระทรวงการท่องเที่ยวตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติ 4 ล้านคนในปี 2566 และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 7 ล้านคนต่อปี (ระดับก่อนเกิดโควิด-19) ภายในปี 2569 หรือปี 2570 โดยตั้งความคาดหวังไว้สูงถึงการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าหนึ่งในสามของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่เข้ามาในกัมพูชาในปี 2562 Euromonitor ประเมินว่า GDP ที่แท้จริงของกัมพูชาจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งโดยเฉลี่ย 6% ต่อปี ในปี 2566-2570 ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย 7% ต่อปี ในปี 2561-2562 ทั้งนี้ในปี 2565 ประชากรในกัมพูชามีจำนวน 16.8 ล้านคน โดยส่วนใหญ่เป็นประชากรวัยหนุ่มสาว เนื่องจากประชากรกว่า 52% มีอายุต่ำกว่า 25 ปี จากข้อมูลของ National Institute of Statistic มูลค่าตลาดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคในกัมพูชาอยู่ที่ 3.23 แสนลบ. โดย 90% ถูกยึดครองโดยจากร้านค้าแบบดั้งเดิม

แผนงานในกัมพูชาของ CPALL CPALL เปิดร้านสะดวกซื้อแห่งแรกในกัมพูชาในเดือนส.ค. 2564 บริษัทเป็นผู้ประกอบการร้านค้าปลีกสมัยใหม่ขนาดเล็กอันดับสองในกัมพูชา โดยอิงกับจำนวนสาขา 56 สาขาในปัจจุบัน CPALL วางแผนขยายสาขาให้ใกล้เคียงกับ 100 สาขาในปี 2566 โดยเฉพาะในกรุงพนมเปญ และ 200 สาขาในระยะกลาง บริษัทมีแผนที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างจากคู่แข่งและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และของใช้ส่วนตัว ควบคู่ไปกับการจัดหาสินค้าจากผู้ผลิตท้องถิ่นเพิ่มขึ้นผ่านทางความร่วมมือกับซัพพลายเออร์โดยใช้ความเชี่ยวชาญด้าน R&D ของบริษัท

แผนงานในกัมพูชาของ MAKRO MAKRO เปิดร้านจำหน่ายสินค้าแบบชำระเงินสดและบริการตนเอง (cash & carry) แห่งแรกในกัมพูชาในเดือนธ.ค. 2560 บริษัทเป็นผู้ประกอบการค้าส่งสมัยใหม่เพียงรายเดียวในกัมพูชา โดยมีสาขา 3 สาขาในปัจจุบัน MAKRO วางแผนเปิดสาขาใหม่ 1 สาขาในกรุงพนมเปญในปี 2566 และตั้งเป้าเปิดสาขาอย่างน้อยปีละ 1 สาขา (เน้นรูปแบบ Eco Plus เพื่อตอบสนองความต้องการอาหารสดจำนวนมาก) เพื่อให้มีสาขาเกือบ 10 สาขาในระยะกลาง บริษัทวางแผนนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างจากคู่แข่งมากขึ้น เช่น private brand (12% ของยอดขายในกัมพูชา เทียบกับ 16% ในประเทศไทย) และผลิตภัณฑ์อาหารสดที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูงมากขึ้น สำหรับ synergy MAKRO วางแผนเพิ่มยอดขายสินค้าแบรนด์ของบริษัทเองให้กับ 7-Eleven และยอดขายไส้กรอก CP Cambodia ในขนาดแพ็คร้านค้าปลีกอาหาร บริษัทได้เปิดตัวโปรแกรม M Coin ในเดือนเม.ย. โดยให้ส่วนลดแก่ลูกค้าตามยอดซื้อสะสม เพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบการมืออาชีพหันมาเป็นลูกค้าลงทะเบียน

คำแนะนำและปัจจัยเสี่ยง เราชอบ CPALL (ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 อ้างอิงวิธี DCF ที่ 78 บาท, WACC ที่ 7% และอัตราการเติบโตระยะยาวที่ 2.5%) และ MAKRO (ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 อ้างอิงวิธี DCF ที่ 46 บาท, WACC ที่ 7% และอัตราการเติบโตระยะยาวที่ 2.5%) เนื่องจากมีศักยภาพเติบโตในระยะยาวจากการลงทุนในกัมพูชา กำไรปี 2566 จะเติบโตดีที่สุดในกลุ่มพาณิชย์เพราะยอดขายและมาร์จิ้นฟื้นตัว และกำไร 1Q66 จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง YoY ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ การเปลี่ยนแปลงในด้านกำลังซื้อ ต้นทุนที่สูงขึ้นจากแรงกดดันเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม COMMERCE230427_T