ปิโตรเคมี – ราคาผลิตภัณฑ์ได้แรงหนุนจากการเติมสต็อก

การเติมสต็อกสินค้าในตลาดหลังจากที่มีการปรับลดปริมาณสินค้าคงคลังลงอย่างต่อเนื่องใน 4Q65 โดยมีสาเหตุมาจากแนวโน้มอุปสงค์ที่ไม่แน่นอน เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้ราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1-8% WoW แต่ยังปรับตัวขึ้นช้ากว่าต้นทุนแนฟทาที่สูงขึ้น (+4% WoW) ส่งผลทำให้ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะ PE และ PP ปรับตัวลดลง ในขณะที่ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์สายอะโรเมติกส์ยังคงดีกว่าผลิตภัณฑ์อื่นๆ เนื่องจากอุปสงค์ผลิตภัณฑ์ปลายน้ำปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้ว่าอาจจะเกิดขึ้นไม่นานนักเมื่อพิจารณาจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ลดลงบ่งชี้ว่าผลประกอบการของกลุ่มปิโตรเคมีจะยังไม่ฟื้นตัวใน 1Q66 เรายังคงท่าทีระมัดระวังต่อกลุ่มปิโตรเคมีต่อไปจนกว่าจะเห็นสัญญาณแนวโน้มอุปสงค์ที่เป็นบวก

ส่วนต่างราคา PE/PP โดยเฉลี่ยลดลง WoW เพราะต้นทุนแนฟทาสูงขึ้น ส่วนต่างราคา PE/PP โดยเฉลี่ยลดลง 3% WoW สู่ US$347/ตัน ทั้งๆ ที่ราคาผลิตภัณฑ์สูงขึ้นจากการเติมสต็อกสินค้า ราคาผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นยังไม่สามารถไล่ตามต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นได้ทัน สะท้อนถึงมุมมองเชิงลบของตลาดต่อผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องซึ่งจะได้รับแรงกดดันจากอุปทานใหม่ในจีน แม้ว่าจะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ COVID ไปแล้ว ICIS คาดว่าอัตราการดำเนินงานกำลังการผลิต PE ทั่วโลกจะยังอยู่ในระดับต่ำที่ 79% ในปี 2566 โดยอิงกับอัตราการเติบโตของ GDP จีนที่ 4% ซึ่งสะท้อนถึงกำลังการผลิตส่วนเกินที่ 26 ล้านตัน เทียบกับค่าเฉลี่ย 10 ล้านตันในปี 2543-2565

ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์เพิ่มขึ้น WoW เพราะอุปสงค์ดีขึ้น ส่วนต่างราคา PX และเบนซีนเทียบกับแนฟทาดีกว่าผลิตภัณฑ์อื่นๆ โดยเพิ่มขึ้น 15% และ 12% WoW ตามลำดับ ส่วนต่างราคา PX เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 11 สัปดาห์ที่ US$454/ตัน แม้ว่ายังต่ำกว่าค่า 12 เดือนที่ US$488/ตัน โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่สูงขึ้นจากผู้ผลิต PTA ซึ่งเพิ่มอัตราการดำเนินงานจาก 60% ในช่วงปลายเดือนธ.ค. 2565 สู่ ~77% ในช่วงปลายเดือนม.ค. 2566 (CCFGroup) นอกจากนี้ อุปสงค์น้ำมันเบนซินที่สูงขึ้นยังทำให้วัตถุดิบที่ใช้ผลิต PX เช่น มิกซ์ไซลีน ปรับตัวลดลงด้วย ส่วนต่างราคาเบนซีนที่ US$274/ตัน สูงกว่าค่าเฉลี่ย 12 เดือนที่ US$247/ตันแล้ว โดยราคาเบนซีนปรับขึ้นถึงระดับ US$1,000/ตัน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2565

ราคา PET ได้แรงหนุนจากการเติมสต็อกและต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น ราคา bottle-grade PET เพิ่มขึ้น 3% WoW สู่ระดับสูงสุดในรอบ 14 สัปดาห์ที่ US$990/ตัน อันเป็นผลมาจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นเพื่อเติมสต็อกสินค้าคงคลังหลังจากที่มีการปรับลดปริมาณสินค้าคงคลังลงอย่างต่อเนื่องใน 4Q65 ซึ่งบ่งชี้ว่า sentiment ตลาดปรับตัวดีขึ้นโดยได้รับการสนับสนุนจากมุมมองเชิงบวกต่อการกลับมาเปิดประเทศของจีน โรงภาพยนตร์ในจีนจำหน่ายตั๋วได้ 129 ล้านใบทั่วประเทศ สร้างรายได้เกือบ US$1 พันล้านในช่วงดังกล่าว +11.89% YoY (CCFGroup) การที่ผู้คนมารวมตัวกันเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ PET นอกจากนี้ เราเชื่อว่าราคา PET ที่สูงขึ้นยังได้รับแรงหนุนจากต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น เช่น PX PTA และ MEG เพราะอุปทานมีจำกัด ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ส่วนต่างราคา integrated PET ปรับตัวลดลง 13% WoW สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ที่ US$125/ตัน แม้ว่าดีกว่าค่าเฉลี่ยใน 4Q65 ที่ US$113/ตัน