Keyword
Mutual Fund : Short/Medium Term Top Picks

[ปิดคำแนะนำ] (เคาะซื้อ: Event Play) กองทุน KT-PRECIOUS หุ้นเหมืองทองคำ

6 Feb 25 4:58 PM
1280x720 px
Key Summary

สถานะคำแนะนำการลงทุนล่าสุด ณ วันที่ 6 ก.พ. 2025

InnovestX แนะนำขายทำกำไรการลงทุนในหุ้นเหมืองทองคำที่มีแนะนำเข้าลงทุนครั้งแรกวันที่  23 ก.ย. 2024 เนื่องจาก

1.ราคาหุ้นเหมืองทองปรับตัวขึ้นถึงจุดที่ทางทีมมีการประเมินไว้

 

2.หุ้นเหมืองทองคำปรับตัวขึ้นได้แรงในช่วงต้นปี 2025 (YTD) ซึ่งปัจจุบันราคาเข้าสู่โหมด Overbought แล้ว

 

สามารถติดตามคำแนะนำเคาะซื้อล่าสุดได้ใน Satellite Portfolio

[Event Play คือ กลยุทธ์ลงทุนตามปัจจัยสนับสนุนระยะสั้น ด้วยสัญญาณ Technical และ Market Sentiment มี Catalyst สนับสนุน]

 

หุ้นเหมืองทองคำเป็นหุ้นของบริษัทที่ทำธุรกิจเหมืองทอง ซึ่งราคาของหุ้นเหล่านี้โดยปกติจะมีการเคลื่อนไหวที่มากกว่าการลงทุนในราคาทองคำ ทำให้อาจให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนในทองคำโดยตรง เนื่องจากหุ้นเหมืองทองคำมีลักษณะการดำเนินธุรกิจที่มีต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) ในสัดส่วนที่สูง ซึ่งต้นทุนคงที่นี้จะไม่ผันผวนตามยอดขาย ดังนั้น เมื่อราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นจะทำให้ยอดขายของบริษัทเหมืองทองปรับตัวขึ้นตาม ขณะที่ต้นทุนค่อนข้างคงที่ ส่งผลให้ธุรกิจเหมืองทองคำมีกำไรปรับตัวสูงขึ้นมาก ในทางการเงินเราเรียกธุรกิจนี้ว่ามี Operating Leverage สูง ดังนั้น ราคาหุ้นเหมืองทองคำควรจะมีการปรับตัวที่มากกว่าการลงทุนบนราคาทองคำทางตรง

 

เรามองว่าราคาทองคำยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง อุปสงค์ทองคำจากธนาคารกลางทั่วโลกที่ยังคงสะสมทองคำเข้าเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ (Foreign Exchange Reserves) เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะจากธนาคารกลางในฝั่งของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา (Emerging Market) ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนเฉลี่ยของทองคำใน Reserves เพียง 6% ต่ำกว่าประเทศตลาดพัฒนาแล้ว Developed Market) ที่มีสัดส่วนเฉลี่ยถึง 12% อีกทั้ง เม็ดเงินทุนไหลเข้าจากทางฝั่ง ETF หลังอัตราผลตอบแทนที่แท้จริง (Real Yield) มีทิศทางปรับตัวลง ส่งผลเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนต่อราคาทองคำ

 

Strong Uptrend for Gold Price

  • ราคาทองคำยังอยู่คงในแนวโน้มขาขึ้น โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยธนาคารหลัก ๆ ได้เริ่มปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงแล้ว อาทิ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) เป็นต้น โดย FED ส่งสัญญาณผ่าน Dot Plot ว่าจะยังคงเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงต่ออีกจนถึงปี 2026 ซึ่งส่งผลดีต่อราคาทองคำ

  • ธนาคารกลางยังมีแนวโน้มสะสมทองคำเข้าเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ (Foreign Exchange Reserves)  อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธนาคารกลางในฝั่ง EM ที่ยังมีสัดส่วนทองคำต่อเงินทุนสำรองทั้งหมด (Gold Reserves) ที่มีสัดส่วนน้อยกว่าทางฝั่งประเทศ DM อยู่มาก จากการแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจและแยกห่วงโซ่อุปทาน (Decoupling)

  • สัญญาณเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิ (Net inflow) ของกองทุนรวมดัชนีที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (ETF) ซึ่งลงทุนในทองคำทั่วโลกมีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือน ส.ค. หลังจากเม็ดเงินของกองทุน ETF ไหลออกสุทธิ (Net outflow) มานานอย่างต่อเนื่องนับปี โดยเราคาดว่าการที่ Real Yield ปรับตัวลงจะสนับสนุนให้มีเม็ดเงินจากกองทุน ETF ไหลเข้าลงทุนสุทธิในทองคำอย่างต่อเนื่อง

  • อีกทั้ง ในช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มักมีความผันผวนต่อตลาดการเงินค่อนข้างมาก สะท้อนจากดัชนี VIX ที่มักปรับตัวสูงขึ้นก่อนการเลือกตั้ง ทำให้ทองคำทำหน้าที่ได้ดีในการรองรับความผันผวนที่จะเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้ง

  • จากปัจจัยบวกดังกล่าว ทำให้เรามีมุมมองบวกต่อหุ้นเหมืองทองคำ เนื่องจากราคาทองคำยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอย่างแข็งแกร่ง จึงคาดว่าหุ้นเหมืองทองคำจะได้รับอานิสงค์จากราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้น

ktprecious01.jpg

 

Gold Mining Stocks Lagged Behind Bullion

  • ราคาหุ้นเหมืองทองคำยังมีความ Laggard จากราคาทองคำค่อนข้างมากตั้งแต่ต้นปี 2022 ซึ่งถือว่าค่อนข้างผิดปกติ เนื่องจากราคาหุ้นเหมืองทองคำมักจะมีการเคลื่อนไหวคล้ายกับราคาทองคำแต่จะมีการปรับตัวที่มากกว่า เพราะการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำส่งผลกระทบอย่างมากต่ออัตรากำไรของบริษัทเหมืองทองคำ (High Operating Leverage)

  • สาเหตุหลักที่ราคาหุ้นเหมืองทอง Laggard จากราคาทองคำมาก คือ แรงกดดันของอัตรากำไร (Profit Margin) ที่โดนผลกระทบจากต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับรายได้ที่เพิ่มขึ้น แต่เนื่องจากแรงกดดันด้านต้นทุนเริ่มลดลงแล้ว จึงคาดว่าอัตรากำไรมีโอกาสกลับมาขยายตัวขึ้น และทำให้หุ้นเหมืองทองคำมีผลตอบแทนที่ไล่ตาม (Catch Up) ทองคำได้

 

ktprecious02.jpg

 

Strong Earnings Growth

  • คาดการณ์กำไรของหุ้นเหมืองทองคำมีแนวโน้มเติบโตในอัตราเร่งในช่วงที่เหลือของปี โดยได้รับแรงหนุนจากราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องและอยู่ในระดับสูง รวมถึงแรงกดดันด้านต้นทุนเริ่มคลี่คลาย ส่งผลให้อัตรากำไรปรับเพิ่มสูงขึ้น

  • มองกำไรที่เร่งตัวขึ้นจะเป็นปัจจัยหนุนให้กับราคาหุ้นเหมืองทองคำในระยะต่อจากนี้

ktprecious03.jpg

 

Technical analysis

ในด้านแนวโน้มราคาหุ้นเหมืองทองคำเชิงเทคนิค พิจารณาจากทิศทางของราคาหุ้นเหมืองทองคำจากดัชนี FTSE Gold Mines ส่งสัญญาณเป็นเทรนด์ขาขึ้น โดยราคาหุ้นเหมืองทองคำสามารถทะลุผ่านเส้นแนวต้าน (Resistance Trendline Breakout) ที่สำคัญมาได้ และราคายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 และ 200 วัน บ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นของราคา เรามองเป้าหมายที่ 2,800 จุด

ktprecious04.jpg

 

กองทุนแนะนำ: KT-PRECIOUS

 

จากข้อมูล Universe กองทุนหุ้นเหมืองทั้งหมดในไทยของ INVX ที่ลงทุนตรงในกองทุนหลักเพียงกองทุนเดียวมีทั้งหมด 3 กองทุน ได้แก่ กองทุน KT-PRECIOUS, กองทุน DAOL-GOLD และกองทุน KT-MINING

 

ktprecious05.jpg

 

INVX พิจารณาคัดเลือกกองทุน KT-PRECIOUS

  1. ทาง INVX คัดเลือกกองทุน KT-PRECIOUS เนื่องจากเป็นกองทุนที่ตอบโจทย์กลยุทธ์ของทางทีม INVX ในการ Trading กลุ่มเหมืองทอง หลังราคาทองคำส่งสัญญาณแนวโน้มขาขึ้นแข็งแกร่งและทำจุดสูงใหม่ต่อเนื่อง ซึ่งโดยปกติราคาหุ้นเหมืองทองคำจะปรับตัวเคลื่อนไหวมากกว่าราคาทองคำ ทำให้ราคาหุ้นเหมืองทองคำได้ประโยชน์จากราคาทองคำที่ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น

  2. สัดส่วนการลงทุนของกองทุนหลัก KT-PRECIOUS มีหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเหมืองทองคำสูงสุดโดย

    • KT-PRECIOUS เน้นหุ้นเหมืองทองคำและเกี่ยวข้องกับทองคำราว 85% และหุ้นเหมืองผสม โลหะมีค่า เงินและทองแดง รวมกันอีกราว 15%

    • DAOL-GOLD จะลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเหมืองราว 77% รวมกับ Bullion และอื่นๆ อีกราว 23%

    • KT-MINING จะลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติซึ่งจะเน้นไปทางด้านเหมืองผสมราว 41% ทองคำราว 30% ทองแดง 11% แร่และทรัพยากรอื่นๆ อีกราว 19%

  1. ดัชนีชี้วัดของกองทุนหลัก (FTSE Gold Mines Index) สอดคล้องกับกลยุทธ์นี้ ประกอบกับ Correlation 5 ปีย้อนหลังของกองทุนหลักกับดัชนีชี้วัดอยู่ในระดับ 0.91 ซึ่งใกล้เคียง 1 สะท้อนว่ามีการเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันกับดัชนีชี้วัดค่อนข้างสูง ขณะที่ดัชนีชี้วัดของกองทุนหลักอีก 2 กองทุน (DAOL-GOLD และ KT-MINING) จะไม่ได้สอดคล้องกับ FTSE Gold Mines Index โดยตรง ซึ่งสะท้อนผ่าน Correlation ที่อยู่ในระดับต่ำ

  2. ไม่มีนโยบายการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนสอดคล้องกับมุมมองกลยุทธ์ของทางทีมที่มองว่าค่าเงินบาทจะอ่อนค่าในระยะเวลาข้างหน้า

 

สรุปจุดเด่นของกองทุนและกองทุนหลัก Franklin Gold and Precious Metals Fund

  1. กองทุน KT-PRECIOUS เน้นลงทุนในหุ้นเหมืองทองผ่านกองทุน Franklin Gold and Precious Metals Fund มีประวัติการจัดตั้งตั้งแต่ปี 2010

  2. ผู้จัดการกองทุนหลักคุณ Steve Land, CFA มีประสบการณ์ด้านการลงทุนกว่า 27 ปี และอีกท่านคือคุณ Fred Fromm, CFA มีประสบการณ์ด้านการลงทุนกว่า 32 ปี

  3. ปรัชญาการลงทุนของกองทุนหลักจะเน้นลงทุนในบริษัทที่รายได้เติบโตในระยะยาวอย่างเห็นได้ชัด มีกำไรที่มั่นคง ยั่งยืน หรือมีความสามารถในการแข่งขัน

  4. กองทุนหลักมีกลยุทธ์การลงทุนแบบ Top-down โดยวิเคราะห์ปัจจัยเชิงมหภาคผ่านการกำหนดน้ำหนักกลุ่มอุตสาหกรรมในการลงทุน และดูวัฏจักรเศรษฐกิจประกอบเพื่อหากลุ่มหุ้นที่จะสามารถเอาชนะตลาดได้

  5. มีการคัดหุ้นด้วยกลยุทธ์ Bottom-up โดยวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเชิงลึกเพื่อหาหุ้นที่มีโอกาสที่ดีที่สุด และมีการติดตามและปรับปรุงโมเดลอย่างสม่ำเสมอ

  6. ปัจจุบันลงทุนอยู่ในหุ้นราว 121 ตัว

  7. กลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่มีการลงทุน ได้แก่ Long Life Gold Mines, Gold Exploration & Development และ Medium Life Gold Mines

  8. ตัวอย่างหุ้นที่มีการลงทุนอยู่ ได้แก่ Newmont บริษัทเหมืองแร่ชั้นนำระดับโลกที่, Agnico Eagle Mines บริษัทเหมืองแร่ชั้นนำที่มุ่งสำรวจและผลิตทองคำ, Alamos Gold บริษัทเหมืองแร่ที่เชี่ยวชาญในการผลิตและสำรวจทองคำ, Perseus Mining บริษัทเหมืองแร่ที่ดำเนินกิจการหลักในแอฟริกาตะวันตก และ Barrick Gold หนึ่งในบริษัทเหมืองแร่ทองคำรายใหญ่ที่สุดในโลก

  9. ผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนหลักในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์กับ FTSE Gold Mines Index อยู่ที่ 0.91 และมีค่า Beta เทียบกับ FTSE Gold Mines Index อยู่ที่ 1.62 เท่า (as of 31 Aug 2024)

  10. ผลการดำเนินงานในช่วง 5 ปี กองทุนหลักสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ 5.0% เทียบกับดัชนีชี้วัดที่สร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ 5.3%

 

กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ โกลด์ แอนด์ เพรเชียส เอคควิตี้ (KT-PRECIOUS) เป็นกองทุนรวมหมวดอุตสาหกรรมที่มุ่งลงทุนเฉพาะเจาะจงในกลุ่มอุตสาหกรรมการประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับทองคำและโลหะมีค่า โดยเน้นลงทุนในกองทุนหลัก Franklin Gold and Precious Metals Fund Class A acc SGD ซึ่งมีนโยบายที่จะสร้างผลตอบแทนระยะยาวจากการเติบโตของเงินลงทุนตามศักยภาพการลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นทองคำและโลหะมีค่า

 

ซึ่งกองทุนหลัก Franklin Gold and Precious Metals Fund บริหารงานโดย Franklin Templeton Asset Management ซึ่งมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารของ บลจ. กว่า 1.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยทีมงานด้านตราสารทุนของ Franklin Group ประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านตราสารทุนกว่า 67 ท่าน และ Sector Team Leaders ในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมเฉลี่ยกว่า 23 ปี ทั้งนี้กองทุน Franklin Gold and Precious Metals Fund มีผู้จัดการกองทุนหลัก 2 ท่าน ประกอบด้วยคุณ Steve Land, CFA ซึ่งเข้าร่วมกับ Franklin Templeton ตั้งแต่ปี 1997 และมีประสบการณ์ด้านการลงทุนกว่า 27 ปี และอีกท่านคือคุณ Fred Fromm, CFA ซึ่งเข้าร่วม Franklin Templeton ตั้งแต่ปี 1992 และมีประสบการณ์ด้านการลงทุนกว่า 32 ปี

 

ปรัชญาการลงทุนของกองทุนหลักจะเน้นลงทุนในบริษัทที่รายได้เติบโตในระยะยาวอย่างเห็นได้ชัด มีกำไรที่มั่นคง ยั่งยืน หรือมีความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งจะมีรากฐานของกระบวนการลงทุนในการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเพื่อหาโอกาสในการลงทุนที่มีสมดุลระหว่างปัจจัยพื้นฐานและเป้าหมายราคาของบริษัท โดยจะมีการติดตามพอร์ตการลงทุนอยู่ตลอดเวลา

 

กองทุนหลักมีกลยุทธ์การลงทุนแบบ Top-down โดยวิเคราะห์ปัจจัยเชิงมหภาคผ่านการกำหนดน้ำหนักกลุ่มอุตสาหกรรมในการลงทุน และดูวัฏจักรเศรษฐกิจประกอบเพื่อหากลุ่มหุ้นที่จะสามารถเอาชนะตลาดได้ และมีการคัดหุ้นด้วยกลยุทธ์ Bottom-up โดยวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเชิงลึกเพื่อหาหุ้นที่มีโอกาสที่ดีที่สุด โดยปัจจุบันลงทุนอยู่ที่ประมาณ 121 ตัว และมีการติดตามและปรับปรุงโมเดลอย่างสม่ำเสมอ

 

สัดส่วนประเทศที่ลงทุน (ณ 31 ส.ค. 2024)

  1. Canada 52.9%

  2. Australia 26.1%

  3. US 7.7%

  4. South Africa 3.7%

  5. Burkina Faso 2.8%

 

กลุ่มอุตสาหกรรม (ณ 31 ส.ค. 2024)

  1. Long Life Gold Mines 44.7%

  2. Gold Exploration & Development 28.7%

  3. Medium Life Gold Mines 12.0%

  4. Diversified Metals & Mining 6.7%

  5. Precious Metals & Minerals 3.3%

 

Top holdings (ณ 31 ส.ค. 2024)

  1. Newmont บริษัทเหมืองแร่ชั้นนำระดับโลกที่มุ่งเน้นการผลิตทองคำและโลหะมีค่าอื่น ๆ

  2. Agnico Eagle Mines บริษัทเหมืองแร่ชั้นนำที่มุ่งสำรวจและผลิตทองคำ

  3. Alamos Gold บริษัทเหมืองแร่นานาชาติที่เชี่ยวชาญในการผลิตและสำรวจทองคำ

  4. Perseus Mining บริษัทเหมืองแร่ที่ดำเนินกิจการหลักในแอฟริกาตะวันตก

  5. Barrick Gold หนึ่งในบริษัทเหมืองแร่ทองคำรายใหญ่ที่สุดในโลก

 

ผลการดำเนินงานของกองทุนหลักย้อนหลัง (ณ 31 ส.ค. 2024)

  • ผลการดำเนินงานในช่วง 1 ปี กองทุนหลักสร้างผลตอบแทน 26.6% เทียบกับดัชนีชี้วัดที่สร้างผลตอบแทน 37.6%

  • ผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปี กองทุนหลักสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ -0.2% เทียบกับดัชนีชี้วัดที่สร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ 7.4%

  • ผลการดำเนินงานในช่วง 5 ปี กองทุนหลักสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ 5.0% เทียบกับดัชนีชี้วัดที่สร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ 5.3%

  • ผลการดำเนินงานตั้งแต่มีการจัดตั้งกองทุนเมื่อ 30 เม.ย. 2010 กองทุนหลักสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ -2.7% เทียบกับดัชนีชี้วัดที่สร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ -1.0%

 

ktprecious06.jpg

 

คลิกที่นี่เพื่อดูกองทุนเคาะซื้อใน INVX Satellite Portfolio ล่าสุด

 

คำเตือน: ผลการดำเนินในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนที่ได้รับในอนาคต กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่บล.อินโนเวสท์ เอกซ์

Most Viewed Ideas
1/5
Related Ideas
Most Viewed Ideas
1/5