
ในยุคที่โลกต้องพึ่งชิปแทบทุกผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่สมาร์ตโฟน รถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงดาต้าเซ็นเตอร์ และจีนถือเป็นหนึ่งในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก แต่สัดส่วนการใช้ชิปที่ผลิตในประเทศยังอยู่เพียงราว 24% ในปี 2024 ช่องว่างนี้สะท้อนโอกาสขยายตัวของผู้ผลิตจีนอย่างชัดเจน เพราะดีมานด์ภายในประเทศยังเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ซัพพลายในประเทศยังไม่เพียงพอรองรับความต้องการขนาดใหญ่ของเศรษฐกิจดิจิทัลจีน
แรงผลักสำคัญมาจากมาตรการกีดกันของสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2018 และ US CHIPS Act ปี 2022 ทำให้ผู้ผลิตจีนเร่งลงทุนขยายกำลังการผลิตและอัปเกรดเทคโนโลยีอย่างจริงจัง เงินลงทุน (CAPEX) ในอุตสาหกรรมจึงเพิ่มสูง เพื่อลดการพึ่งพาอุปกรณ์และเทคโนโลยีจากต่างประเทศพร้อมกระจายความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ โดยสอดคล้องกับทิศทางที่จีนตั้งเป้าดันสัดส่วนการใช้ชิปผลิตในประเทศขึ้นเป็น 50% ภายในปี 2026 และ 70% ภายในปี 2027
ในเชิงวัฏจักร อุตสาหกรรมชิปจีนเพิ่งผ่านช่วงปรับฐานในปี 2023 และตั้งแต่ปี 2024 ปริมาณการผลิตวงจรรวม (IC) เริ่มฟื้นตัวต่อเนื่องและมีแนวโน้มชัดขึ้นในปี 2025 สอดรับการขับเคลื่อนจาก AI ดาต้าเซ็นเตอร์ และยานยนต์สมัยใหม่ อีกด้านหนึ่ง รัฐบาลยังเสริมแรงด้วยกองทุน CICIIF เฟส 3 ที่มีวงเงิน 344,000 ล้านหยวน และกองทุนเพิ่มเติมกว่า 160,000 ล้านหยวนในปี 2025 เพื่อเร่งการลงทุนทั้งซัพพลายเชน เพิ่มโอกาสให้บริษัทท้องถิ่นยกระดับเทคโนโลยีและกำลังผลิตเร็วขึ้น
Global X China Semiconductor ETF (CNSEMI23) จึงเป็นเครื่องมือที่ตอบโจทย์นักลงทุนไทยที่ต้องการเข้าถึงชิปจีนแบบครบวงจร ตั้งแต่บริษัทออกแบบชิปแบบไม่ถือครองโรงงานผลิต (Fabless) บริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ (Foundry) ผู้ประกอบและทดสอบ ไปจนถึงผู้ผลิตอุปกรณ์ที่เป็นหัวใจของสายการผลิต ทำให้ CNSEMI23 เกาะธีมการฟื้นตัวของวัฏจักรชิปจีนและแนวโน้มการย้ายฐานการผลิตกลับประเทศโดยตรง ทั้งยังยืนบนแรงหนุนเชิงนโยบายและภูมิรัฐศาสตร์ที่ชัดเจนในระยะยาว สำหรับผู้อ่านที่สนใจธีมเซมิคอนดักเตอร์ สามารถอ่านบทความฉบับเต็มเกี่ยวกับ DR CNSEMI23 ได้ที่ลิงก์นี้ 👈
เมื่อมองลงมาที่ระดับบริษัทหลักใน CNSEMI23 จะช่วยให้เราเห็นภาพซัพพลายเชนชิปจีนที่ชัดขึ้น ตั้งแต่ NAURA ที่เป็นผู้ผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์กระบวนการผลิตชิปซึ่งอยู่ต้นน้ำของทุกโรงงาน, GigaDevice ผู้ออกแบบหน่วยความจำและไมโครคอนโทรลเลอร์ที่เป็นสมองและความจำของอุปกรณ์ดิจิทัล, SMIC ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่สุดของจีนที่รับจ้างผลิตเวเฟอร์ให้ลูกค้าทั้งในและนอกประเทศ, BOE ผู้ผลิตจอภาพระดับโลกที่แปลงเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ให้กลายเป็นประสบการณ์หน้าจอที่ผู้บริโภคสัมผัสได้ และ Montage Technology ที่อยู่ลึกเข้าไปในโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซ็นเตอร์และ AI ผ่านชิปด้านหน่วยความจำและอินเทอร์เฟซ
ตัวอย่างบริษัทเด่นใน Global X China Semiconductor ETF (3191.HK)
NAURA เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์การผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายสำคัญของจีน โดยโฟกัสอุปกรณ์กระบวนการหลักอย่างเครื่องกัดแกะสลัก (etching) เครื่องเคลือบฟิล์มบาง (deposition) และอุปกรณ์สุญญากาศที่จำเป็นต่อการผลิตวงจรรวม รวมถึงใช้งานในอุตสาหกรรมไมโครอิเล็กทรอนิกส์และแบตเตอรี่พลังงานใหม่ด้วย รายได้ราว 90% ของบริษัทมาจากธุรกิจอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ และบริษัทถูกจัดอันดับเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่สุดของจีน และอยู่ในกลุ่มท็อประดับโลกด้านยอดขายอุปกรณ์ชิป
ในบริบทที่จีนต้องการลดการพึ่งพาอุปกรณ์จากผู้เล่นตะวันตก NAURA จึงอยู่ในจุดที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากการเร่ง CAPEX ของโรงงานผลิต (Foundry) และ OSAT (Outsourced Semiconductor Assembly and Test หรือ ผู้ให้บริการประกอบและทดสอบชิปขั้นปลาย) ภายในประเทศ ทั้งจากเม็ดเงินของเอกชนและกองทุนกึ่งรัฐ เช่น CICIIF การที่บริษัทขยายไลน์เข้าสู่อุปกรณ์ลิโธกราฟีและขยายฐานผลิต
GigaDevice เป็นผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์แบบ fabless ที่เชี่ยวชาญด้านหน่วยความจำและไมโครคอนโทรลเลอร์ โดยบริษัทนิยามตัวเองว่าเป็นผู้ให้บริการโซลูชันหน่วยความจำแฟลช, MCU 32 บิต, เซนเซอร์ และชิปอนาล็อกครบวงจร ผ่านเครือข่ายจำหน่ายในจีน เอเชีย อเมริกา และยุโรป GigaDevice เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดของโลก ด้วยยอดส่งมอบหน่วยความจำแฟลชหลายหมื่นล้านชิป และยังติดกลุ่มผู้เล่นรายใหญ่ระดับโลกด้าน MCU ซึ่งถูกใช้ในอุปกรณ์อุตสาหกรรม IoT อุปกรณ์เครือข่าย และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ผู้บริโภค
จุดเด่นของ GigaDevice คือการวางตัวเป็นสมองและความจำ สำหรับอุปกรณ์ปลายทางจำนวนมากในระบบเศรษฐกิจดิจิทัล ตั้งแต่บอร์ดควบคุมในโรงงาน อุปกรณ์ IoT ไปจนถึงอุปกรณ์คอนซูเมอร์ ผลิตภัณฑ์ MCU ของบริษัทมีทั้งสถาปัตยกรรม ARM และ RISC-V ทำให้สอดรับเทรนด์การผลักดันสถาปัตยกรรมเปิดและการใช้ชิปออกแบบโดยบริษัทจีนมากขึ้น เมื่อจีนเร่งเพิ่มสัดส่วนการใช้ชิปในประเทศ GigaDevice จึงอยู่ในตำแหน่งที่ได้ดีมานด์ทั้งจากลูกค้าในประเทศและฐานลูกค้าโลกที่ต้องการแหล่งซัพพลายใหม่
SMIC เป็นโรงงานผลิตชิป (Foundry) ที่ใหญ่ที่สุดในจีนแผ่นดินใหญ่ และติดอันดับหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ระดับโลกในกลุ่ม pure-play foundry SMIC ให้บริการผลิตเวเฟอร์และวงจรรวม ตั้งแต่โหนดกระบวนการระดับไมครอนไปจนถึงโหนด FinFET (เทคโนโลยีทรานซิสเตอร์สามมิติที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงานของชิปในกระบวนการผลิตขั้นก้าวหน้า) ทำให้ SMIC เป็นผู้ผลิตที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในจีน และติดกลุ่มท็อป 4 foundry แบบ pure-play ของโลกในแง่รายได้
ภายใต้ข้อจำกัดด้านอุปกรณ์ขั้นสูงจากสหรัฐฯ SMIC หันมาเน้นตลาดชิประดับโหนด สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคและอุตสาหกรรมเป็นหลัก ขณะเดียวกันก็เร่งลงทุน CAPEX ต่อเนื่องหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี เพื่อขยายกำลังผลิตและรองรับดีมานด์ภายในประเทศที่ต้องการแหล่งผลิตในจีนเอง รายได้ของบริษัทเติบโตแรงในปี 2024–2025 แม้กำไรผันผวนจากภาระลงทุนสูง แต่ SMIC ยังเป็นแกนกลางของยุทธศาสตร์ self-reliance ด้านชิปของจีน และจึงเป็นหนึ่งในแกนหลักด้านฟาวน์ดรีในพอร์ตของ CNSEMI23
BOE เป็นบริษัทเทคโนโลยีจากปักกิ่งที่ขึ้นชื่อในฐานะผู้ผลิตจอภาพรายใหญ่ของโลก แต่ในเชิงโครงสร้างธุรกิจ BOE นิยามตัวเองเป็นบริษัท IoT innovation ที่ให้บริการผลิตภัณฑ์และโซลูชันด้านจอแสดงผลและอินเทอร์เฟซอัจฉริยะสำหรับการรับส่งข้อมูล โดยมีโครงสร้างธุรกิจที่ให้ Semiconductor Display เป็นแกนกลาง และแตกแขนงไปยัง IoT Innovation, Sensors and Solutions, MLED และ Smart Medicine & Engineering
ในด้านจอภาพ BOE ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มผู้ผลิตจอ LCD และ OLED รายใหญ่ที่สุดของโลก และยังลงทุนต่อเนื่องในเทคโนโลยีจอรุ่นใหม่ เช่น micro-display และจอสำหรับอุปกรณ์สวมใส่และยานยนต์
Montage Technology เป็นผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์แบบ fabless ที่ออกแบบชิป (IC design) จากเซี่ยงไฮ้ ที่โฟกัสโซลูชันชิปสำหรับตลาดคลาวด์คอมพิวติ้งและดาต้าเซ็นเตอร์ บริษัทนิยามตัวเองว่าเป็นผู้ให้บริการ IC ประสิทธิภาพสูง ใช้พลังงานต่ำ สำหรับตลาดคลาวด์และดาต้าเซ็นเตอร์ โดยมีผลิตภัณฑ์หลักเป็นชิปกลุ่ม memory interface เช่น DDR5 register clock driver, data buffer, SPD hub, temperature sensor และ power management IC รวมถึงชิป PCIe retimer และคอนโทรลเลอร์ CXL memory expander สำหรับเซิร์ฟเวอร์ยุคใหม่
ผลิตภัณฑ์ DDR5 ของ Montage ถูกออกแบบมารองรับโมดูลหน่วยความจำประสิทธิภาพสูงในเซิร์ฟเวอร์ เช่น RDIMM, LRDIMM และ MRDIMM/MCRDIMM ด้วยอัตราการส่งข้อมูลระดับสูงเพื่อรองรับเวิร์กโหลดข้อมูลขนาดใหญ่และงาน AI ในดาต้าเซ็นเตอร์
ตัวอย่าง Valuation บริษัทใน Global X China Semiconductor ETF (3191.HK)
|
Name of Securities |
Market Cap (Billions, USD) |
12M Trailing FWD P/E |
FWD ROE (%) |
Profit Margin (%) |
Index Weight (%) |
|
NAURA Technology Group Co Ltd |
44.47 |
32.54 |
21.25 |
19.22 |
8.02 |
|
GigaDevice Semiconductor Inc |
19.63 |
60.35 |
11.51 |
19.34 |
7.61 |
|
Semiconductor Manufacturing International Corp |
83.63 |
124.16 |
4.53 |
9.36 |
7.18 |
|
BOE Technology Group Co Ltd |
21.20 |
14.44 |
6.80 |
4.44 |
6.75 |
|
Montage Technology Co Ltd |
19.14 |
42.99 |
20.48 |
42.67 |
6.74 |
Source: Bloomberg and Global X as of 3rd December 2025
สนใจลงทุนใน DR CNSEMI23 (Global X China Semiconductor ETF (3191.HK)) และหุ้นเติบโตอื่น ๆ เปิดประสบการณ์ลงทุนไร้ขีดจำกัดกับแอป InnovestX! เข้าถึง 23 ประเทศ 31 ตลาดทั่วโลกได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว เปิดบัญชีลงทุน
คลิกเลย! 👉 https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน