Keyword
ลงทุนก้าวแรก

รู้จักดัชนีทางเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อการเงินการลงทุน | InnovestX

18 Aug 22 12:00 AM
01_Beginner_corner_990x740px-06-20240912013549
สรุปสาระสำคัญ
รวมมาให้แล้วกับดัชนีทางเศรษฐกิจ ที่ส่งผลต่อการลงทุน รู้ไว้รับรองอ่านข่าว บทวิเคราะห์เข้าใจมากขึ้นอย่างแน่นอนครับ

มาทำความรู้จักดัชนีที่พบบ่อย ฉบับสรุปสั้นได้ใจความ สามารถอ่านบทวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจได้เข้าใจมากขึ้น เห็นแนวโน้มของตลาดในอนาคต…

หลายคนที่ติดตามข่าวเศรษฐกิจอยู่เป็นประจำ อาจเคยเห็นตัวย่อดัชนีทางเศรษฐกิจต่าง ๆ กันบ้างแล้ว และสงสัยไหมว่าจริง ๆ แล้ว ดัชนีเหล่านี้ย่อมาจากอะไร? หมายถึงอะไร? และบ่งบอกอะไรกับเรา? สามารถใช้เป็นข้อมูลในการคาดเดาการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้ไหม?

เริ่มเรียนรู้กันได้เลยครับ


6 ดัชนีทางเศรษฐกิจ ช่วยวิเคราะห์ทิศทางการลงทุนได้อย่างแม่นยำ 

ดัชนีทางเศรษฐกิจคืออะไร เกี่ยวข้องกับการลงทุนอย่างไร?

ดัชนีเศรษฐกิจ หรือ Economic Index คือตัวเลขบ่งชี้ภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งในปัจจุบันและแนวโน้มที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต มักจะใช้เป็นแนวทางในการวางแผนนโยบายทางการเงินของประเทศ และบริษัทต่าง ๆ รวมไปถึงการลงทุนของนักลงทุนอีกด้วย

ด้วยเหตุนี้ทั้งนักเศรษฐศาสตร์ นักวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน ไปจนถึงนักลงทุนเอง จึงต้องศึกษาดัชนีทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำนายแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต และมองเห็นสัญญาณเตือนต่าง ๆ ล่วงหน้า เพื่อให้สามารถวางแผนด้านการเงิน การลงทุน และเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดัชนีทางเศรษฐกิจที่สำคัญกับการลงทุนมีอะไรบ้าง?

1. BSI (Business Sentiment Index)

ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ หรือ BSI คือดัชนีทางเศรษฐกิจที่ใช้ประเมินสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีก 3 เดือนข้างหน้าในมิติของกิจกรรมทางธุรกิจ

ธนาคารแห่งประเทศไทยใช้เกณฑ์วัดนี้เป็นหนึ่งในหลาย ๆ ดัชนี เพื่อตัดสินใจดำเนินนโยบายทางการเงิน เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ ณ ช่วงเวลานั้น โดยดัชนีนี้เป็นการประเมินจาก ธุรกิจขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ ใน 6 องค์ประกอบ ได้แก่ การผลิต คำสั่งซื้อ การลงทุน ต้นทุนการผลิต ผลประกอบการ และการจ้างงาน

วิธีอ่านค่า BSI*

  • - ค่าดัชนี BSI เท่ากับ 50 : ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นทางธุรกิจทรงตัวจากเดือนก่อน
  • - ค่าดัชนี BSI มากกว่า 50 : ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นทางธุรกิจดีขึ้นกว่าเดือนก่อน
  • - ค่าดัชนี BSI น้อยกว่า 50 : ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นทางธุรกิจแย่ลงกว่าเดือนก่อน 

ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย 

2. CCI (Consumer Confidence Index)

ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค หรือ CCI เป็นดัชนีทางเศรษฐกิจที่บ่งชี้ถึงทัศนคติหรือความมั่นใจของผู้บริโภคที่มีต่อภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นด้านการจ้างงาน เงินเฟ้อ รายได้ที่ได้รับ เป็นต้น ซึ่งตัวเลขความเชื่อมั่นนี้หากอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ก็มีแนวโน้มว่าผู้บริโภคจะใช้จ่ายต่อเนื่อง ตัวเลขเศรษฐกิจก็จะได้รับผลดีตามไปด้วย ถือเป็นตัวช่วยที่ทำให้เราได้เห็นแนวโน้มภาพรวมเศรษฐกิจในอนาคต 

วิธีอ่านค่าของ BSI 

  • - ค่าดัชนี CCI เท่ากับ 50 : ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจทรงตัวจากเดือนก่อน
  • - ค่าดัชนี CCI มากกว่า 50 : ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นดีขึ้นจากเดือนที่แล้วและมีแนวโน้มจะบริโภคมากขึ้น
  • - ค่าดัชนี CCI น้อยกว่า 50 : ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจลดลงในเดือนที่ผ่านมา

 

3.  CPI (Consumer Price Index) 

ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ CPI เป็นตัวเลขทางสถิติที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการของครัวเรือน หรือที่ผู้บริโภคซื้อหามาบริโภคเป็นประจำ โดยในการอ่านค่าข้อมูลเป็นการเปรียบเทียบกับราคาในปีที่กำหนดไว้กับปีฐาน ซึ่งดัชนีนี้นำมาพิจารณากับการปรับขึ้นลงของอัตราการจ้างงาน เพื่อให้สอดคล้องกับค่าใช้ของผู้บริโภคที่สูงขึ้น หากราคาสินค้าสูงขึ้นมากเกินไป ก็อาจทำให้การบริโภคของครัวเรือนลดลงได้ในอนาคต

4. GDP (Gross Domestic Product)

ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ GDP เป็นดัชนีทางเศรษฐกิจที่มีความสำคัญ และเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยคำนวณจากมูลค่ารวมของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายทั้งหมดในประเทศ ไม่ว่าจะจากคนไทยหรือคนต่างชาติก็ตาม เป็นตัวเลขที่เอาไว้บ่งชี้ถึงอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ หากตัวเลข GDP เพิ่มขึ้นมากก็แสดงถึงอัตราการเติบโตของประเทศที่ดีขึ้น แต่ถ้าตัวเลขติดลบก็แสดงถึงภาพรวมเศรษฐกิจที่มีการชะลอตัวลง

GDP เป็นดัชนีทางเศรษฐกิจที่มักปรากฏอยู่ในข่าวเศรษฐกิจและการเงินบ่อยครั้ง มักถูกนำมาชี้วัดการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ คำนวณค่าจากการบริโภค การลงทุนเอกชน การใช้จ่ายของรัฐบาล และการส่งออกสุทธิ ซึ่งการเติบโตและถดถอยของ ค่าของ GDP ที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงมักมีความสัมพันธ์ต่อตลาดหุ้นและการลงทุนของประเทศตามไปด้วย 

5. MSCI (Morgan Stanley Capital International)

ย่อมาจากดัชนีอ้างอิงของบริษัท Morgan Stanley Capital International บริษัทสถาบันการเงินชื่อดัง ที่จัดทำดัชนีราคาหุ้นโลก โดยใช้คำว่า MSCI นำหน้าในแต่ละดัชนี โดยแบ่งออกเป็นหลายดัชนีตามตลาดทั่วโลก แต่หลัก ๆ เราขอพูดถึงดัชนี MSCI World Index ที่เป็นดัชนีที่วัดจากหุ้นขนาดกลางและขนาดใหญ่ของ 23 ประเทศพัฒนาแล้วทั่วโลก ซึ่งมักถูกนำมาใช้ประเมินสภาวะของหุ้นโดยรวมทั่วโลก ดัชนีนี้มักได้รับความนิยมในการใช้เป็นมาตรฐานการวัดผลตอบแทนการลงทุน เพื่ออ้างอิงเทียบกับผลการดำเนินงานพอร์ตลงทุนของเราในช่วงที่ผ่านมา 

6. PMI (Purchasing Manahers Index)

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ หรือ PMI เป็นดัชนีทางเศรษฐกิจชี้วัดแนวโน้มของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งรายงานทั้งภาคการผลิตและภาคบริการ โดยรายงานในรูปแบบข้อมูลรายเดือน นักลงทุนมักพิจารณาข้อมูลนี้เพื่อวัดแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า ซึ่งหากค่าสูงกว่า 50 จุด สะท้อนว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัว แต่หากค่าต่ำกว่า 50 จุด แสดงว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มหดตัว 

การดูดัชนีทางเศรษฐกิจหรือสัญญาณทางเศรษฐกิจที่สำคัญ จะช่วยให้นักลงทุนทั้งมือเก๋าและมือใหม่หัดลงทุนสามารถวิเคราะห์และพยากรณ์แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจในอนาคตได้ และนำมาซึ่งโอกาสในการลงทุน อย่างไรก็ตาม การดูตัวบ่งชี้หรือสัญญาณทางเศรษฐกิจ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งยังมีมิติการมองภาพรวมทางเศรษฐกิจลงมาสู่ระดับอุตสาหกรรม และลงมาระดับบริษัทหรือหุ้นรายตัวอีกด้วย
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5