ตอบคำถามนักลงทุนมือใหม่ อยากมีเงินเก็บมากกว่านี้ ต้องทํายังไงให้เงินงอกเงย? และควรมีเงินเท่าไรถึงจะลงทุนได้ มาเตรียมความพร้อมก่อนการลงทุนได้เลยในบทความนี้!
เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นทุกวัน การเก็บเงินให้ได้มาก ๆ คงเป็นเป้าหมายของใครหลายคน โดยเฉพาะคนที่มีเงินเย็นเก็บเอาไว้และไม่เดือดร้อนกับเรื่องค่าใช้จ่าย แต่ถึงแม้การมีเงินเก็บมากขึ้นในทุกเดือนเป็นเรื่องที่ทำให้สบายใจ แต่ในปัจจุบันปัญหาเงินเฟ้อยังมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งไม่เพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภาวะเศรษฐกิจจากทั่วโลกที่อาจสร้างผลกระทบได้มากมาย ดังนั้นการนำ 'เงินเย็น' ที่เก็บออมไว้ไปต่อยอดและสร้างผลกำไรให้งอกเงยได้ อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในการลงทุนเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ชวนคุณมาหาคำตอบกันว่า หากต้องการลงทุนเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อ ควรเอาเงินไปลงทุนทําอะไรดีเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า เพราะในการลงทุนนั้น เราต้องรู้จักเลือกช่องทางในการลงทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยง ซึ่งแม้แต่ผู้ที่มีเงินเก็บไม่มากนัก ก็สามารถศึกษาได้ว่าควรลงทุนอะไรดีเพื่อให้สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้!
เงินเย็นคือ เงินที่ไม่มีต้นทุนและไม่จำเป็นต้องนำไปใช้ทำอะไร หรือเรียกได้ว่าเป็นเงินที่ไม่มีภาระ ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีในจำนวนที่เยอะ ๆ แต่แค่อยู่ในระดับที่ทำให้รู้สึกว่าเพียงพอและอุ่นใจ หากใครสงสัยว่า คุณมีเงินเย็นอยู่หรือไม่ สามารถตรวจสอบตัวเองได้ดังนี้
● มีเงินเผื่อสำรองฉุกเฉินในการใช้จ่ายอย่างน้อย 3-6 เดือน ซึ่งเงินในส่วนนี้ จะเป็นเงินสำหรับอนาคตสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงสามารถนำไปใช้กับเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเรื่องการเจ็บป่วย หรือเมื่อมีเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องใช้เงิน โดยไม่กระทบกับเงินส่วนอื่นในอนาคต
● มีเงินเพียงพอสำหรับชำระหนี้สิน ซึ่งจะต้องเป็นเงินที่เก็บแยกไว้สำหรับการชำระหนี้โดยเฉพาะ ทั้งค่างวดบ้าน งวดรถ โดยไม่ต้องไปกระทบกับเงินส่วนอื่น ๆ
● มีเงินเหลือจากการทำรายรับรายจ่ายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งหากมีเงินเหลือจากค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน เงินในส่วนนั้นก็คือเงินเย็นนั่นเอง
แม้จะมีการแบ่งประเภทหุ้นตามผลตอบแทน ตลาดการลงทุน ไปจนถึงประเภทของธุรกิจ แต่โดยภาพรวมแล้ว หุ้นจะมีด้วยกัน 2 ประเภทหลัก คือ
1. เงินฝาก
การนำเงินไปฝากไว้ที่ธนาคาร อาจไม่ใช่คำตอบสำหรับผู้ที่คำนึงถึงผลกำไรมากนัก แต่นับได้ว่าเป็นทางเลือกแรกสำหรับการลงทุนที่ปลอดภัย ที่สามารถให้ผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอ แต่ในปัจจุบันเงินฝากในบัญชีธนาคารได้มีการปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากให้น้อยลง ด้วยอัตราที่แทบไม่ถึง 1% ในขณะที่ปี 2565 ที่ผ่านมา อัตราเงินเฟ้อในประเทศไทยได้พุ่งสูงขึ้นถึง 6.08% ซึ่งจะส่งผลทำให้อำนาจซื้อของเงินในอนาคตลดลง เท่ากับว่ายิ่งออมยิ่งจน เพราะไม่สามารถสร้างกำไรในอนาคตได้ ดังนั้นหากใครที่ต้องการลงทุนให้เงินงอกเงย การฝากเงินอาจไม่ใช่ทางเลือกที่น่าลงทุนเท่าไรนัก
2. ลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์ หรือสิ่งของ
การลงทุนกับสิ่งของที่สามารถเป็นเจ้าของทรัพย์สินได้ นับเป็นการลงทุนที่เป็นรูปธรรมที่สามารถตรวจสอบได้ เช่น การลงทุนในคอนโดมิเนียมทำเลดีที่มีแนวโน้มว่าราคาจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือการลงทุนกับทองคำ ซึ่งมีราคาสูงขึ้นทุกปี ยิ่งเก็บนานยิ่งมีสิทธิ์ได้ผลตอบแทนที่สูงมากขึ้น รวมถึงในปัจจุบันยังสามารถลงทุนกับนาฬิกาหรือกระเป๋าแบรนด์เนมที่ขึ้นราคาเป็นประจำทุกปี รวมถึงสินค้า Limited ที่จำกัดการผลิต ซึ่งหากเก็บไว้ในสภาพดี ก็มีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนเป็นกำไรได้ แต่เนื่องจากในบางครั้งเทรนด์โลก หรือความสนใจของผู้คนก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นหากเก็บทรัพย์สินไว้นานเกิน หรือปล่อยขายไม่ตรงจังหวะ ก็อาจทำให้ขาดทุนได้
3. ตราสารหนี้
ตราสารหนี้ คือการลงทุนที่ผู้ลงทุนจะได้รับสิทธิในการเป็นเจ้าหนี้ และผู้ออกมีสถานะเป็นลูกหนี้ โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยอย่างสม่ำเสมอตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ รวมถึงจะได้รับเงินต้นคืนเมื่อครบกำหนดอายุ โดยตัวอย่างตราสารหนี้ที่พบเห็นทั่วไป เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล และหุ้นกู้เอกชน ซึ่งตราสารหนี้นับได้ว่าเป็นการลงทุนที่คล้ายกับเงินฝากธนาคารแต่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงที่มากกว่าด้วยเช่นกันหากลงทุนในหุ้นกู้เอกชนที่มีฐานะหรือเครดิตไม่ค่อยดีนัก แต่ถ้าเลือกลงทุนกับตราสารหนี้ของภาครัฐก็พอเป็นหลักประกันความมั่นคงของเงินต้นได้ ดังนั้นจึงควรศึกษาข้อมูลให้ครอบคลุมก่อนการลงทุนเสมอ
4. หุ้น
การลงทุนหุ้น คือการซื้อหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากบริษัทต้องการระดมทุนจากนักลงทุนเพื่อขยายกิจการ โดยทำการขายในตลาดหลักให้กับบริษัทหลักทรัพย์ จนมาสู่การเทรดหุ้นอย่างที่เรารู้จักกัน ซึ่งราคาของหุ้นจะเปลี่ยนแปลงไปตามผลการดำเนินการของบริษัทและสภาวะที่เกิดขึ้นในตลาด โดยหากเป็นคนที่เชี่ยวชาญหรือวิเคราะห์ตลาดเก่ง ก็อาจได้ผลตอบแทนถึง 10-15% เลยทีเดียว
และในปัจจุบันการลงทุนกับหุ้นต่างประเทศก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากความสะดวกในการเข้าถึงที่ไม่ว่าใครก็สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้เอง อีกทั้งยังสามารถเปิดบัญชีลงทุนออนไลน์ได้ง่าย
แต่ถึงแม้การลงทุนหุ้นจะเป็นการลงทุนมากได้มาก แต่โอกาสที่จะเสียก็มีมากด้วยเช่นกัน (High Risk, High Return) ซึ่งการลงทุนหุ้นจะเป็นทางเลือกที่ค่อนข้างเสี่ยงในระยะสั้น แต่หากเทียบในระยะยาวแล้ว จะสามารถสร้างผลตอบแทนให้งอกเงยได้มากกว่าการลงทุนในรูปแบบอื่น ตัวอย่างเช่น หากต้องการออมเงิน 1,000,000 บาท โดยมีเงินเริ่มต้น 5,000 บาท หากนำไปฝากธนาคารที่ปัจจุบันมีดอกเบี้ยไม่ถึง 1% จะต้องใช้เวลา 16 ปีถึงจะมีครบล้าน แต่หากซื้อหุ้นที่มีผลตอบแทนเฉลี่ย 10% ต่อปี ก็จะใช้ระยะเวลาเพียง 10 ปีเท่านั้น!
5. กองทุนรวม
กองทุนรวม คือการระดมเงินลงทุนจากนักลงทุนรายย่อยมารวมเป็นเงินลงทุนก้อนใหญ่ เพื่อนำเงินไปลงทุนตามนโยบายที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน โดยผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนกับกองทุนรวมที่ตัวเองสนใจได้ โดยจะได้รับหน่วยลงทุนเป็นหลักฐานเพื่อยืนยันฐานะความเป็นเจ้าของเงินที่ลงทุนไปและมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเป็นผู้จัดตั้งและทำหน้าที่บริหารกองทุนรวมเพื่อให้ได้ผลตอบแทน
ซึ่งผู้ลงทุนสามารถเลือกระดับความเสี่ยงที่ต้องการได้ หากใครต้องการได้กำไรเร็วก็อาจเลือกกองทุนที่มีความเสี่ยงมาก แต่ถ้าอยากปล่อยให้ผลตอบแทนค่อย ๆ เติบโตอย่างปลอดภัยก็อาจเลือกกองทุนที่มีความเสี่ยง แต่ผลกำไรก็จะน้อยลงเช่นกัน
อีกทั้งยังมีกองทุนรวมที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อย่าง SSF และ RMF ซึ่งสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี ในจำนวนที่ไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับกองทุนการออมเพื่อเกษียณ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท โดยมีเงื่อนไขสำหรับกองทุน SSF ที่ต้องถือหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10 ปี นับจากวันที่ซื้อ และสำหรับกองทุน RMF คือต้องถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อครั้งแรก และจะสามารถขายได้ตอนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
และสำหรับผู้ที่มีเงินเก็บแต่ยังไม่รู้จะทํายังไงให้เงินงอกเงย เพราะไม่รู้ว่าควรเอาไปลงทุนอะไรดี ลองมาเปิดบัญชีลงทุนออนไลน์เพื่อสร้างความมั่งคั่งด้วยแพลตฟอร์มการลงทุนกับ InnovestX แอปเดียวมีครบ และมาพร้อมกับทุกตัวเลือกในจักรวาลของการลงทุน ทั้งตลาดหุ้นไทย ตลาดหุ้นต่างประเทศ กองทุนไทย กองทุนต่างประเทศ สมัครวันนี้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย
เปิดบัญชีลงทุน InnovestX วันนี้ ลงทุนได้ครบทั้งจักรวาลการลงทุน คลิกดาวน์โหลด
คำเตือน
*การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยตรงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน