[Fund Guide] EP.5 ทำความรู้จักและสิทธิพิเศษของกองทุนลดหย่อนภาษีแต่ละประเภท

ทำความรู้จักและสิทธิพิเศษของกองทุนลดหย่อนภาษีแต่ละประเภท

กองทุนรวมเพื่อการออม Super Savings Fund (SSF)

• SSF เป็นกองทุนที่เริ่มมีการก่อตั้งขึ้นมาในปี 2563 ซึ่งเน้นเรื่องการออมระยะยาวและให้สิทธิในการลดหย่อนภาษีได้ในปี 2563-2567 ซึ่งมีการนำมาใช้งานแทนที่กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่หมดอายุไปเมื่อปี 2562
• ข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ของ SSF
  • นโยบายลงทุน: ลงทุนได้หลากหลายสินทรัพย์ ทั้งตราสารทุนและตราสารหนี้ทั้งในและนอกประเทศ กองทุนรวมทองคำ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ
  • นโยบายจ่ายเงินปันผล: มีทั้งแบบจ่ายและไม่จ่ายเงินปันผล
  • เงื่อนไขการถือครอง: ไม่ต่ำกว่า 10 ปี นับจากวันที่ซื้อ
  • วงเงินลดหย่อนภาษี: สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับค่าลดหย่อนการออมเพื่อเกษียณอื่นๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
  • เงื่อนไขการซื้อ: ไม่มีขั้นต่ำในการซื้อ และไม่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี

กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ Retirement Mutual Fund (RMF)

• RMF เป็นกองทุนที่ส่งเสริมการออมเงินไว้ใช้จ่ายในยามเกษียณอายุ
• ข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ของ RMF
  • นโยบายลงทุน: ลงทุนได้หลากหลายสินทรัพย์ ทั้งตราสารทุนและตราสารหนี้ทั้งในและนอกประเทศ กองทุนรวมทองคำ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ
  • นโยบายจ่ายเงินปันผล: ไม่จ่ายเงินปันผล
  • เงื่อนไขการถือครอง: ไม่ต่ำกว่า 5 ปี นับจากวันที่ซื้อครั้งแรก และขายได้เมื่อตอนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์เป็นต้นไป
  • วงเงินลดหย่อนภาษี: สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 500,000 บาท และเมื่อรวมกับค่าลดหย่อนการออมเพื่อเกษียณอื่นๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
  • เงื่อนไขการซื้อ: ไม่มีขั้นต่ำในการซื้อ แต่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี (หรืออย่างน้อยซื้อปีเว้นปี)

กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน Thailand ESG Fund (Thai ESG)

• Thai ESG เป็นกองทุนที่เริ่มมีการก่อตั้งขึ้นมาในปี 2566 ซึ่งเน้นเรื่องการออมระยะยาวอย่างยั่งยืน
• ข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ของ Thai ESG
  • นโยบายลงทุน: ลงทุนในประเทศผ่านสินทรัพย์ที่มีการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรือความยั่งยืน และต้องได้รับการรับรอง SET ESG Ratings ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV
  • นโยบายจ่ายเงินปันผล: มีทั้งแบบจ่ายและไม่จ่ายเงินปันผล
  • เงื่อนไขการถือครอง: ไม่ต่ำกว่า 8 ปี นับจากวันที่ซื้อ
  • วงเงินลดหย่อนภาษี: สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
  • เงื่อนไขการซื้อ: ไม่มีขึ้นต่ำในการซื้อ และไม่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี

Source: setinvestnow