
กองทุน KT-BLOCKCHAIN-A เปิดโอกาสลงทุนใน “เทคโนโลยี Blockchain” หนึ่งในนวัตกรรมเปลี่ยนโลกที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย โปร่งใส และลดต้นทุนธุรกรรมผ่านระบบ “กระจายศูนย์ (Decentralized)” โดยไม่ต้องพึ่งคนกลาง เทคโนโลยีนี้ถูกนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งธนาคาร การชำระเงิน ประกันภัย และสุขภาพ ขณะเดียวกัน บริษัททั่วโลกกว่า 172 แห่งถือ Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรองรวมกว่า 118 พันล้านดอลลาร์ และเทรนด์ Tokenization of Real World Assets คาดว่าจะเติบโตแตะ 2 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030
กองทุนลงทุนผ่าน 2 ETFs หลัก ได้แก่ Amplify Blockchain Technology ETF [BLOK] (~70%) และ VanEck Digital Transformation ETF [DAPP] (~30%) ผสมผสานการลงทุนแบบเชิงรุกแลเชิงรับในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี Blockchain และ Digital Assets ชั้นนำทั่วโลก
ภาพรวมการลงทุน
เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ถือเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก (Disruptive Technology) ที่ช่วยเสริมความปลอดภัยและลดต้นทุนในการทำธุรกรรม โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยคนกลาง ข้อมูลถูกจัดเก็บแบบ “กระจายศูนย์ (Decentralized)” ทำให้ทุกคนในเครือข่ายสามารถตรวจสอบความถูกต้องร่วมกันได้ ซึ่งลดความเสี่ยงจากการปลอมแปลงข้อมูลและเพิ่มความโปร่งใสในการทำธุรกรรม
นอกจากนี้ เทคโนโลยีบล็อกเชนยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น ธนาคาร การชำระเงิน การประกันภัยกรรมสิทธิ์ และข้อมูลสุขภาพ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความรวดเร็ว และความปลอดภัยในการดำเนินงาน เช่น ระบบชำระเงินที่ใช้บล็อกเชนสามารถโอนเงินระหว่างประเทศได้แทบจะทันทีด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าระบบแบบเดิมอย่างมีนัยสำคัญ
แนวโน้มการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก
ในปัจจุบัน ภาครัฐและบริษัทจดทะเบียนทั่วโลกเริ่มให้การยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น โดยเฉพาะการถือครองคริปโทเคอร์เรนซี เช่น Bitcoin และ Ethereum เป็นสินทรัพย์สำรอง (Reserve Assets) ปัจจัยดังกล่าวสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในคุณค่าทางเศรษฐกิจระยะยาว ปัจจุบันมีบริษัทจดทะเบียนกว่า 172 แห่งทั่วโลกที่ถือ Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรอง มูลค่ารวมกว่า 118 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

Source: Amplify ETFs
อีกหนึ่งเทรนด์สำคัญคือ “การโทเคนไนซ์สินทรัพย์จริง (Tokenization of Real World Assets)” ซึ่งเป็นการแปลงสินทรัพย์ทางกายภาพ เช่น หุ้น พันธบัตร ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ หรือผลงานศิลปะ ให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลบนบล็อกเชน ทำให้สามารถซื้อขายได้ง่ายขึ้นและเพิ่มสภาพคล่อง คาดว่าตลาดสินทรัพย์โทเคนไนซ์ทั่วโลกจะเติบโตจาก 176 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 สู่ 2 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030

Source: Amplify ETFs
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ในแต่ละอุตสาหกรรม

Source: KTAM as of Aug 2025
สรุป 3 ข้อดีหลักของเทคโนโลยี Blockchain

Source: KTAM as of Aug 2025
Why KT-BLOCKCHAIN-A?
กองทุนเปิดเคแทม Blockchain Economy (KT-BLOCKCHAIN) ลงทุนผ่านกองทุนรวมต่างประเทศ (Fund of Funds) โดย มุ่งเน้นลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชนโดยตรง หรือบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวในการดำเนินธุรกิจ โดยปัจจุบันมีการกระจายการลงทุนใน 2 ETFs หลัก ได้แก่:

Source: KTAM as of Aug 2025
ลงทุนแบบเชิงรุก (Active Management) ในบริษัทที่ใช้และพัฒนาเทคโนโลยี Blockchain ทั่วโลก โดยมีกระบวนการลงทุนที่เข้มข้นในการคัดเลือกบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Blockchain โดยจะลงทุนในทั้งกลุ่มบริษัทที่มีรายได้ส่วนใหญ่มาจากเทคโนโลยี Blockchain โดยตรง หรือ บริษัทที่มีการลงทุน/ร่วมมือกับบริษัทอื่น ๆ ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยี Blockchain ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทุนจะบริหารจัดการและปรับเปลี่ยนพอร์ตโดยพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัท, มูลค่า, และความเสี่ยงทางธุรกิจ

Source: Amplify ETFs
Top 5 Holdings (ณ 30 ก.ย. 2568):
ลงทุนแบบเชิงรับ (Passive Management) โดยอ้างอิงดัชนี MVIS Global Digital Assets Equity Index ที่รวบรวมบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องสูงสุด โดยมีเกณฑ์กำหนดว่า บริษัทที่จะเข้ามาอยู่ในดัชนีจะต้องสร้างรายได้ อย่างน้อย 50% จากบริการหรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรง (เช่น แพลตฟอร์มซื้อขาย, การขุด, ซอฟต์แวร์, หรือโครงสร้างพื้นฐาน)
Top 5 Holdings (ณ 30 ก.ย. 2568):
ผลการดำเนินงานของกองทุน KT-BLOCKCHAIN-A
Source: Morningstar as of 31 Oct 2025
คำเตือน: กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่ บล.อินโนเวสท์ เอกซ์