Derivatives

"เกมชักเย่อ" ค่าเงินยูโร (ECB vs BOT) ผู้ประกอบการจะ "ล็อก" ฝั่งตัวเองยังไง?

12 Nov 25 2:49 PM
รู้จักผลิตภัณฑ์ลงทุน2
สรุปสาระสำคัญ

ค่าเงินยูโรเทียบกับเงินบาท (EUR/THB) กำลังถูกดึงไปมาเหมือน "เกมชักเย่อ" แต่ครั้งนี้ดูเหมือนฝั่งยุโรปจะดึงแรงกว่า

  • ฝั่งยุโรป (ECB): เศรษฐกิจฟื้นตัว "ดีกว่าคาด" (ดัชนี PMI พุ่งสูงสุดในรอบ 2 ปี) ทำให้ ECB "คง" ดอกเบี้ยไว้ ไม่รีบลด Š ดึงให้เงินยูโร (EUR) แข็งค่าขึ้น
  • ฝั่งไทย (BOT): เศรษฐกิจยังโตช้า Š อาจทำให้เงินบาท (THB) อ่อนค่าลง

เกมนี้อาจกำลังดึงให้เรท EUR/THB "พุ่งขึ้น" (ยูโรแข็งค่าขึ้น) นี่คือฝันร้ายของ "ผู้นำเข้า" และ "คนจะไปเที่ยวยุโรป" บทความนี้จะชี้ให้เห็นว่าในสถานการณ์เช่นนี้ EUR/THB Futures จะช่วย "ล็อกเรท" ซื้อได้อย่างไร

เกมชักเย่อที่ "ผู้นำเข้า" กำลังเสียเปรียบ

ตลาดค่าเงินยูโรตอนนี้เหมือน "เกมชักเย่อ" ที่เริ่มมีฝ่ายหนึ่งกำลังเพลี่ยงพล้ำ

  • ปลายเชือกฝั่งที่ 1 (ยุโรป) - "แข็งแกร่งกว่าคาด": ข้อมูลจาก Eurozone PMI ในเดือนตุลาคม 2568 ระบุว่าเศรษฐกิจยุโรป "โตเร็วสุดในรอบ 2 ปี" สวนทางกับที่หลายคนกลัวว่าจะแผ่ว ทำให้ ECB (ธนาคารกลางยุโรป) ตัดสินใจ "คงอัตราดอกเบี้ย" (ตามการประชุมล่าสุด 30 ต.ค. 68) เพื่อดูสถานการณ์ นี่คือปัจจัยที่ "ดึง" ให้เงินยูโร (EUR) แข็งค่าขึ้น
  • ปลายเชือกฝั่งที่ 2 (ไทย) - "ยังต้องลุ้น": ในขณะที่เศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวช้ากว่า ทำให้ตลาดมองว่า BOT (ธนาคารแห่งประเทศไทย) อาจจะยังต้องพิจารณานโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย (หรืออาจลดดอกเบี้ยในอนาคต) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่ง "ปล่อย" ให้เงินบาท (THB) มีแนวโน้มอ่อนค่า

 

เมื่อ "ยูโรแข็ง" และ "บาทอ่อน" ผลลัพธ์คืออัตราแลกเปลี่ยน EUR/THB มีแนวโน้มที่จะ "พุ่งขึ้น" นี่คือ "ฝันร้าย" ของ "ผู้นำเข้า" และ "นักท่องเที่ยว" ที่ต้นทุนกำลังจะบานปลายในไม่ช้า

 

EURTHB.png

 

พลิกกลับมาสร้างความได้เปรียบด้วย EUR/THB Futures

ใน "เกมชักเย่อ" ที่ทิศทางเริ่มชัดเจนว่าฝั่ง "ยูโร" กำลังจะชนะ (EUR แข็งค่า) "การล็อกต้นทุน" คือหัวใจของคนทำธุรกิจ โดยหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจคือ EUR/THB Futures ซึ่งเป็นสัญญาซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนบาท/ยูโรล่วงหน้าในตลาด TFEX ที่นักลงทุนสามารถนำมาใช้ "ล็อก" อัตราแลกเปลี่ยนในอนาคต ยกตัวอย่างเช่น:

  • ผู้นำเข้า (Importer): กังวลว่า EUR จะ "แข็งค่า" ขึ้นอีก (เช่น จาก 36.00 บาท/ยูโร ไป 38.00 บาท/ยูโร) ทำให้ต้นทุนสินค้า (เช่น เครื่องจักร, ไวน์, สินค้าแบรนด์เนม) แพงขึ้น
  • นักท่องเที่ยว: กังวลว่าค่าทัวร์ยุโรปปีหน้าจะแพงขึ้น
  • วิธีทำ: "Long" EUR/THB Futures (ล็อกเรท "ซื้อ" ยูโรวันนี้)

 

การ Long Futures ก็เหมือนการ "จอง" เรทซื้อยูโรในวันนี้ไว้ใช้ในอนาคต ไม่ว่าเรทตลาดจริงจะพุ่งไปไกลแค่ไหน ต้นทุนก็จะ "นิ่ง" อยู่ที่เรทที่จองไว้

 

EURTHB_2025-11-12_14-51-40.png

กราฟแสดงราคา EUR/THB ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา

 

"ล็อก" ต้นทุนผู้นำเข้า

ตารางเปรียบเทียบความเสี่ยง "ผู้นำเข้า" (ต้องจ่ายเงิน 100,000 EUR)*

(สมมติเรทตั้งต้นที่ 36.00 บาท/ยูโร / 1 สัญญา; EUR/THB Futures = 1,000 EUR)

สถานการณ์

ไม่ใช้ EUR/THB Futures

ใช้ EUR/THB Futures
(Long ที่ 36.00)

ถ้า 3 เดือนต่อมา EUR แข็งเป็น 38.00 บาท/ยูโร

(ตามคาด)

ต้นทุนจริง: 3,800,000 บาท
(ต้นทุนสูงขึ้น 200,000 บาท)

ต้นทุนจริง: 3,800,000 บาท

กำไร Futures: +200,000 บาท

ต้นทุนสุทธิ: 3,600,000 บาท

(เท่าเดิม)

ถ้า 3 เดือนต่อมา EUR อ่อนเป็น 35.00 บาท/ยูโร
(ผิดคาด)

ต้นทุนจริง: 3,500,000 บาท

(ต้นทุนต่ำลง 100,000 บาท)

ต้นทุนจริง: 3,500,000 บาท

ขาดทุน Futures: -100,000 บาท

ต้นทุนสุทธิ: 3,600,000 บาท

(เท่าเดิม)

ข้อสังเกต: การ Hedging คือการ "ล็อก" ต้นทุนให้ "นิ่ง" ที่ 3.6 ล้านบาท ไม่ใช่การเก็งกำไร

*ตารางข้างต้นเป็นการเปรียบเทียบเพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน

 

Case Study: "ผู้นำเข้า" ล็อกต้นทุนเครื่องจักร

นักลงทุนทำธุรกิจนำเข้าเครื่องจักรจากเยอรมนี เขามีบิลต้องชำระค่าสินค้า 100,000 EUR ในอีก 3 เดือนข้างหน้า

  • เรทปัจจุบัน 36.00 บาท/ยูโร (ต้นทุนที่คาดไว้คือ 3,600,000 บาท)
  • ความกังวล: เขาเพิ่งเห็นข่าวว่า "เศรษฐกิจยุโรปฟื้นตัวดี" และ "ECB คงดอกเบี้ย" เขากลัวว่าเทรนด์ "ยูโรแข็ง" เพิ่งจะเริ่มต้น และในอีก 3 เดือน เรทอาจพุ่งไปที่ 38.00 บาท/ยูโร
  • ความเสี่ยง: ถ้าเรทไป 38.00 บาท/ยูโร จริง ต้นทุนเขาจะกลายเป็น 3,800,000 บาท (แพงขึ้น 200,000 บาททันที)

 

วิธี “ล็อกเรท” (Hedging):

  1. ความต้องการ: ต้องการ "ล็อก" เรทซื้อ 00 บาท/ยูโร ไว้ก่อน
  2. เปิดสถานะ: Long EURH26 (หมดอายุเดือนมีนาคม 2569) จำนวน 100 สัญญา (100,000 EUR / 1,000 EUR ต่อสัญญา = 100 สัญญา) ที่ราคา 00 บาท/ยูโร
  3. วาง Margin: Long EURH26 ใช้เงินทั้งหมด 875 x 100 = 87,500 บาท (IM ของ EURH26 ณ วันที่ 12 พ.ย. 2568)

 

ผลลัพธ์ (สมมติ ในอีก 3 เดือน):

เงินยูโรแข็งค่าไปที่ 38.00 บาท/ยูโร จริง

  1. การจ่ายบิล (ขาดทุน): นักลงทุนต้องไปแลกเงินที่ธนาคารในเรทตลาด 00 บาท/ยูโร ทำให้เขาต้องจ่าย 3,800,000 บาท (ขาดทุนจากที่คาดไว้เดิม 200,000 บาท)
  2. พอร์ต Futures (กำไร): สัญญา Long EURH26 ของเขาได้กำไร
    • ส่วนต่าง = 00 - 36.00 = 2.00 บาท/ยูโร
    • กำไร = 00 บาท/ยูโร x 100 สัญญา x 1,000 (ตัวคูณ) = 200,000 บาท

 

สรุป: นักลงทุนขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 200,000 บาท แต่ได้กำไรจาก Futures 200,000 บาทมาชดเชย ทำให้ต้นทุนที่แท้จริงของเขา "คงที่" อยู่ที่ 3,600,000 บาท

*ตัวเลขดังกล่าวยังไม่รวมค่าคอมมิชชั่น ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ และเป็นเพียงกรณีศึกษาเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน

 

"ล็อก" ฝั่งคุณให้นิ่งในเกมชักเย่อ

"เกมชักเย่อ" ค่าเงินเกิดขึ้นจริงเสมอ แต่ทิศทางของเกมอาจ "สลับฝั่ง" ได้ตลอดเวลาตามข้อมูลเศรษฐกิจที่แท้จริง แม้จะคาดเดาอนาคตไม่ได้ แต่นักลงทุนสามารถเลือก “ล็อก” ต้นทุนได้ด้วย EUR/THB Futures ทำให้สามารถวางแผนธุรกิจได้แม่นยำแม้ยามตลาดผันผวน

 

References:

 

🚀  ลงทุน TFEX เข้าถึงโอกาสทำกำไรในตลาดอนุพันธ์ได้อย่างง่ายดายแค่ปลายนิ้ว

เพียงแค่เปิดบัญชีกับ InnovestX และ Activate บัญชี TFEX

  1. เปิดบัญชี InnovestX 👉 https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b
  2. Activate TFEX: อ่านขั้นตอนการเปิดใช้บริการ 👉 https://www.innovestx.co.th/products/derivatives/product-tfex

 

⚠️ คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนการซื้อขายฟิวเจอร์สและออปชั่น มีความเสี่ยงสูงที่อาจก่อนให้เกิดผลขาดทุนอย่างมีนัยสำคัญจังไม่เหมาะสมกับบุคคลทุกคน ก่อนตัดสินใจซื้อขายฟิวเจอร์ส และออปชั่น ท่านควรพิจารณาถึงฐานะทางการเงินวัตถุประสงค์การลงทุน ตลอดจนความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้อย่างรอบคอบเนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่ท่านอาจสุญเสียเงินลงทุนมากกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5