บทความนี้อธิบายความสำคัญของการตั้ง Stop Loss และการบริหารจัดการจำนวนสัญญา (Position Sizing) ซึ่งเป็นสองเครื่องมือหลักในการควบคุมความเสี่ยงสำหรับนักลงทุนมือใหม่ โดย Stop Loss ช่วยจำกัดการขาดทุน ปกป้องเงินทุน ลดอิทธิพลของอารมณ์ และทำให้ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา ขณะที่ Position Sizing ช่วยกำหนดขนาดการลงทุนให้เหมาะสมกับเงินทุนและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ป้องกันการเทรดเกินตัวและรักษาโอกาสแก้ตัวในอนาคต การใช้สองกลยุทธ์นี้ควบคู่กันจะช่วยให้คุณลงทุนได้อย่างมีวินัย มั่นคง และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนในระยะยาว
การกำหนดจุด Stop Loss (ตัดขาดทุน) เป็นกลยุทธ์สำคัญสำหรับนักลงทุนมือใหม่เพื่อป้องกันความเสี่ยงและจำกัดการขาดทุนให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่มีความผันผวนสูง การมี Stop Loss จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมอารมณ์ในการตัดสินใจและรักษาวินัยในการลงทุนได้ดียิ่งขึ้น
ประโยชน์ของการตั้ง Stop Loss
จำกัดการขาดทุน: การตั้ง Stop Loss จะช่วยจำกัดการขาดทุนให้อยู่ในระดับที่คุณยอมรับได้ตั้งแต่แรก แทนที่จะปล่อยให้การขาดทุนบานปลายจนไม่สามารถรับมือได้
ปกป้องเงินทุน: เป็นการป้องกันไม่ให้เงินทุนในพอร์ตลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้คุณยังคงมีเงินทุนสำรองเพื่อโอกาสในการลงทุนครั้งต่อไป
ช่วยรักษาวินัยการลงทุน: การตั้ง Stop Loss จะช่วยลดอิทธิพลของอารมณ์ (ความกลัว, ความโลภ) ในการตัดสินใจ ทำให้คุณตัดสินใจตามแผนที่วางไว้
อิสระในการใช้ชีวิต: เมื่อตั้ง Stop Loss คุณไม่จำเป็นต้องเฝ้าหน้าจอ 24 ชั่วโมง เพราะระบบจะดำเนินการตัดขาดทุนให้โดยอัตโนมัติหากราคาเป็นไปตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้
วิธีการตั้ง Stop Loss แบบง่ายๆ
การตั้ง Stop Loss สามารถทำได้หลายวิธี แต่สำหรับมือใหม่ เราขอแนะนำวิธีง่ายๆ ดังนี้
ตั้งเป็นเปอร์เซ็นต์: กำหนดจุด Stop Loss จากราคาซื้อขายเป็นเปอร์เซ็นต์ เช่น หากคุณซื้อหุ้นที่ราคา 100 บาท และตั้ง Stop Loss ที่ 5% จุดตัดขาดทุนของคุณจะอยู่ที่ 95 บาท
ตั้งตามแนวรับ: หากคุณมีความรู้ทางเทคนิคบ้าง คุณสามารถตั้ง Stop Loss ไว้ต่ำกว่าแนวรับสำคัญของกราฟราคาได้
ตั้งตามจำนวนเงิน: กำหนดจำนวนเงินที่ยอมรับการขาดทุนได้สูงสุด เช่น คุณยอมรับการขาดทุนได้ไม่เกิน 1,000 บาทต่อการเทรดหนึ่งครั้ง
ตัวอย่างการเทรด S50U25 ที่มี Stop Loss
สมมติว่าคุณต้องการ Long (เปิดสถานะซื้อ) สัญญา S50U25 จำนวน 1 สัญญา ที่ราคา 900 จุด และมีเงินในพอร์ต 20,000 บาท หากคุณยอมรับการขาดทุนได้สูงสุด 5% ของเงินในพอร์ต หรือ 1,000 บาท
จุด Stop Loss: 1,000 / 200 บาทต่อจุด = 5 จุด
ราคา Stop Loss: 900 - 5 = 895 จุด
หากราคา S50U25 ปรับตัวลงไปที่ 895 จุด นักลงทุนจะทำการกำหนดให้ระบบปิดสถานะโดยอัตโนมัติ ทำให้คุณขาดทุนเพียง 1,000 บาท และยังคงมีเงินทุนอีก 19,000 บาทเพื่อหาโอกาสใหม่ๆ แต่หากคุณไม่มีการตั้ง Stop Loss และราคาตกลงไปเรื่อยๆ การขาดทุนอาจจะมากกว่า 1,000 บาท และอาจกระทบต่อเงินทุนของคุณในระยะยาว
วิธีใช้งาน Streaming เพื่อตั้ง Stop Loss
สามารถอ่านวิธีตั้ง Stop Loss ผ่าน Streaming App | InnovestX ได้ที่ https://www.innovestx.co.th/cafeinvest/investsnack/easyfinance/tfex-to-know/tfex-ep26
การบริหารจัดการจำนวนสัญญา: หัวใจของการลงทุนอย่างมืออาชีพ
นอกจาก Stop Loss แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ "การบริหารจัดการจำนวนสัญญา" หรือ "Position Sizing"
การบริหารจัดการจำนวนสัญญา คือ การคำนวณว่าในแต่ละครั้งที่คุณเข้าเทรด คุณควรจะลงทุนด้วยจำนวนสัญญาเท่าไหร่ เพื่อให้สอดคล้องกับขนาดของเงินทุนและความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้
ทำไมต้องบริหารจัดการจำนวนสัญญา?
การใช้เครื่องมืออย่าง Stop Loss ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการจำนวนสัญญาที่ดี จะช่วยให้คุณสามารถลงทุนได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว
อ่านบทความ การใช้ Position Sizing และTrailing Stop สำหรับการเทรด TFEX เพิ่มได้ที่นี่
หัวใจสำคัญของเทรดTFEX ให้พอร์ตโตขึ้นจากการใช้ Position Sizin
TFEX
🚀 ลงทุน TFEX เข้าถึงโอกาสทำกำไรในตลาดอนุพันธ์ได้อย่างง่ายดายแค่ปลายนิ้ว
เพียงแค่เปิดบัญชีกับ InnovestX และ Activate บัญชี TFEX
1. เปิดบัญชี InnovestX 👉 https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b
2. Activate TFEX: อ่านขั้นตอนการเปิดใช้บริการ 👉 https://www.innovestx.co.th/products/derivatives/product-tfex
⚠️ คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ผลงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งที่รับประกันผลงานในอนาคต เงินลงทุนอาจสูญหาย และควรศึกษาความเสี่ยงก่อนลงทุน