![]() เราประเมินกำไรปกติ 2Q66 ของ AH ได้ที่ 321 ลบ. เพิ่มขึ้น 15% YoY แต่ลดลง 46% QoQ ทั้งนี้แม้ว่าส่วนแบ่งกำไรจะลดลงเพราะไม่มีส่วนแบ่งกำไรจากฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) แต่เราเชื่อว่า AH จะรายงานกำไรปกติเติบโต YoY โดยได้แรงหนุนจากธุรกิจ OEM ที่เติบโตเพิ่มขึ้นและอัตรากำไรขั้นต้นที่กว้างขึ้น ในขณะที่กำไรปกติจะลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล เรามองว่า valuation ที่ไม่แพงและผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีจะช่วยป้องกัน downside ของราคาหุ้น เราให้คำแนะนำ tactical call ระยะ 3 เดือนสำหรับ AH ที่ OUTPERFORM ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 44 บาท/หุ้น พรีวิว 2Q66: คาดกำไรปกติเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ หากไม่รวมกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนใน 2Q65 และ 1Q66 เราประเมินกำไรปกติ 2Q66 ของ AH ได้ที่ 321 ลบ. เพิ่มขึ้น 15% YoY แต่ลดลง 46% QoQ ทั้งนี้แม้ว่าส่วนแบ่งกำไรจะลดลงเพราะไม่มีส่วนแบ่งกำไรจากฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) แต่เราเชื่อว่า AH จะรายงานกำไรปกติเติบโต YoY โดยได้แรงหนุนจากธุรกิจ OEM ที่เติบโตเพิ่มขึ้นและอัตรากำไรขั้นต้นที่กว้างขึ้น ในขณะที่กำไรปกติจะลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล สมมติฐานสำคัญ: 1) ยอดขายของธุรกิจ OEM (75% ของยอดขายรวม) อยู่ที่ 5.3 พันลบ. เพิ่มขึ้น 18% YoY หลักๆ เกิดจากการผลิตตามคำสั่งซื้อใหม่ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง (เช่น เพลารถกระบะ battery shield และชิ้นส่วนประกอบตัวถัง) แต่ลดลง 10% QoQ 2) ยอดขายของธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ (25% ของยอดขายรวม) อยู่ที่ 1.8 พันลบ. เพิ่มขึ้น 11% YoY แต่ลดลง 17% QoQ 3) อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 11.2% เพิ่มขึ้นจาก 10.1% ใน 2Q65 แต่ลดลงจาก 12.6% ใน 1Q66 สอดคล้องกับแนวโน้มยอดขาย และ 4) ส่วนแบ่งกำไรอยู่ที่ 65 ลบ. ลดลง 47% YoY และ 47% QoQ เพราะไม่มีส่วนแบ่งกำไรจากฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) AH จะประกาศผลประกอบการวันที่ 11 ส.ค. คงประมาณการกำไร พรีวิวผลประกอบการ 2Q66 บ่งชี้ว่ากำไรปกติ 1H66 จะคิดเป็น 50% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา และเรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2566 ไว้ที่ 1.8 พันลบ. เพิ่มขึ้น 8% YoY การเข้าลงทุนในบริษัท Advanced Vehicle Engineering Global Sdn. Bhd. (Avee) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์สัญชาติมาเลเซีย ในสัดส่วน 60% และมีบริษัทย่อยของ Proton Holdings Berhad (ยี่ห้อรถยนต์แห่งชาติของมาเลเซีย) ถือหุ้นส่วนที่เหลืออีก 40% จะหนุนให้ประมาณการรายได้ปี 2566 ของเราปรับเพิ่มขึ้นได้อีกเล็กน้อย ~2% อย่างไรก็ดี ในอนาคตเรามองว่าการร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่นอย่าง Proton จะช่วยขยายฐานการดำเนินงานของ AH ในมาเลเซียซึ่งเป็นหนึ่งในฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญในอาเซียน Valuation ไม่แพง และผลตอบแทนจากเงินปันผลดี ปัจจุบันหุ้น AH เทรดที่ PE ปี 2566 ระดับ 6.6 เท่า ต่ำกว่า SAT ที่ 7.8 เท่า และ STANLY ที่ 8.1 เท่า เราประเมินเงินปันผลจากผลการดำเนินงานงวด 1H66 ของ AH ได้ที่ 0.75 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 2.2% เรามองว่า valuation ที่ไม่แพงและผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีจะช่วยป้องกัน downside ของราคาหุ้น เราชอบที่ AH มีกิจการอยู่ในฐานการผลิตที่สำคัญของโลก: ประเทศไทย โปรตุเกส และจีน และจะได้รับประโยชน์จากยอดขาย EV ที่เติบโตเพิ่มขึ้น ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ของเราอยู่ที่ 44 บาท/หุ้น อิงกับ PE 8.6 เท่า (ค่าเฉลี่ยปี 2560-2561 ซึ่งเป็นช่วงที่กำไรของ AH เติบโตตามปกติ) ปัจจัยเสี่ยง 1) ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความต้องการซื้อรถยนต์ 2) การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งส่งผลทำให้ห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมยานยนต์หยุดชะงัก และ 3) ข้อพิพาททางกฎหมาย |
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม AH230718_T