ใน 1Q67 ถึงปัจจุบัน SSS ในธุรกิจ CVS เติบโตอย่างน้อยใกล้เคียงกับ 3.6% YoY ใน 4Q66 สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มพาณิชย์ โดยได้รับการสนับสนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีมากขึ้น และยอดขายจากช่องทาง O2O ที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่การเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูร้อนจะช่วยหนุนให้ SSS เติบโตอย่างต่อเนื่องสอดรับกับยอดขายอาหารและเครื่องดื่มระดับสูง เมื่อประกอบกับการขยายสาขา มาร์จิ้นที่ดีขึ้นจากยอดขายสินค้ามาร์จิ้นสูงที่เพิ่มขึ้น และดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงหลังจากการรีไฟแนนซ์หนี้ของ CPAXT ใน 2Q66 จะช่วยสนับสนุนให้กำไร 1Q67 เติบโต YoY เรายังคงคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ CPALL โดยให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 อ้างอิงวิธี DCF (WACC ที่ 7% และการเติบโตระยะยาวที่ 2.5%) ที่ 75 บาท SSS เติบโตแข็งแกร่งใน 1Q67 ถึงปัจจุบัน ใน 1Q67 ถึงปัจจุบัน ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีมากขึ้น และยอดขายจากช่องทาง O2O ที่เพิ่มขึ้น (11% ของยอดขายปี 2566) เราจึงประเมินว่า SSS ของ CPALL จะเติบโตอย่างน้อยใกล้เคียงกับ 3.6% YoY ใน 4Q66 ทั้งนี้ ในปี 2567 CPALL วางแผนออกสินค้าใหม่เพื่อกระตุ้นการเติบโตของยอดขาย ด้วยสินค้าพรีเมียม ได้แก่: 1) All Select กาแฟสดพรีเมียมแบรนด์ใหม่ในราคาเริ่มต้น 55 บาท เพื่อยกระดับตัวเลือกกาแฟให้กับลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงในเฉพาะบางสาขา เทียบกับกาแฟสดภายใต้แบรนด์ All Café ที่มีราคาเริ่มต้น 35 บาท โดยตั้งเป้าวางจำหน่ายที่ 200 สาขาภายในสิ้นปี 2567; 2) เพิ่มสินค้าที่แตกต่าง เช่น อาหารญี่ปุ่นและเกาหลีพร้อมทาน อาหารภายใต้ความร่วมมือกับแบรนด์พรีเมียม เช่น Chef Cares และสินค้าที่วางจำหน่ายเฉพาะที่ 7-Eleven เท่านั้น ในปี 2567 CPALL ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายจากช่องทาง O2O โดยจะมุ่งเน้นลดระยะเวลาการจัดส่งสำหรับสินค้าในร้าน 7-Eleven (จัดส่งภายใน 30 นาที) และสินค้าที่ไม่มีวางจำหน่ายในร้าน 7-Eleven (จัดส่งวันเดียวถึงสำหรับสินค้าขนาดใหญ่, วันถัดไปสำหรับสินค้าประเภท hardline และ soft line) ขยายและปรับปรุงสาขาอย่างต่อเนื่อง ในปี 2567 CPALL วางแผนเปิดสาขาเพิ่ม 700 สาขาในประเทศไทย (จาก 14,545 สาขา ณ สิ้นปี 2566) บริษัทวางแผนปรับคอนเซ็ปต์ทั้งสาขาใหม่และสาขาที่มีการปรับปรุงใหม่ โดยแบ่งเป็น 3 ประเภท: 1) อาหารสะดวกซื้อ (เน้นสินค้ากลุ่ม RTE, ตั้งเป้า 80% ของสินค้าทั้งหมดในระยะกลาง) 2) ร้านสะดวกซื้อ (เน้นสินค้าแพ็คใหญ่ เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้) 3) ร้านสะดวกซื้อ Allife (เน้นสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม) โดยตั้งเป้ามีร้านคอนเซ็ปต์ใหม่เกือบ 1,000 สาขา ณ สิ้นปี 2567 ทั้งนี้เพื่อดึงดูดลูกค้าในบางพื้นที่ที่ยังไม่พัฒนา CPALL วางแผนเปิดร้าน 7-Eleven ใหม่เกือบ 1,000 สาขา ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ชุมชน” พร้อมพื้นที่เช่าสำหรับอาหารริมทาง บริการซักรีด ฯลฯ และที่จอดรถ (เทียบกับ 400 สาขา ณ สิ้นปี 2566) สำหรับต่างประเทศ บริษัทตั้งเป้าเปิดสาขา 40 สาขาในกัมพูชา และ 7 สาขาในลาวในปี 2567 (จาก 82 สาขาในกัมพูชา และ 3 สาขาในลาว ณ สิ้นปี 2566) มาร์จิ้นมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น ในปี 2567 CPALL ตั้งเป้ามาร์จิ้นการผสมผสานของสินค้าภายในร้านสะดวกซื้อของบริษัทเพิ่มขึ้น 20bps YoY ผ่านทางการจำหน่ายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงมากขึ้นและบุหรี่ที่มีมาร์จิ้นต่ำน้อยลง ในขณะที่อัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/ยอดขายจะอยู่ในระดับทรงตัวซึ่งเป็นผลมาจากต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ลดลงและการควบคุมค่าใช้จ่ายพนักงานผ่านการใช้ AI มากขึ้น CPALL จะออกหุ้นกู้ชุดใหม่มูลค่า 1.5 หมื่นลบ. ในช่วงปลายเดือนมี.ค. อายุ 5-10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.45-3.85% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยสุดท้าย รอน้ำหนักของหุ้นกู้แต่ละชุดภายหลังสิ้นสุดการจองซื้อหุ้นกู้ในวันที่ 26 มี.ค.) บริษัทจะนำเงินที่ได้ไปชำระคืนหุ้นกู้ชุดเดิมซึ่งมีอัตราดอกเบี้ย ~5% ต่อปี ด้วยเหตุนี้เราจึงประเมินกำไรส่วนเพิ่มจากดอกเบี้ยจ่าย (หลังภาษี) ที่ลดลงได้ที่ 150-200 ลบ./ปี (1% ของกำไร) ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ การเปลี่ยนแปลงในกำลังซื้อ และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ความเสี่ยง ESG ที่สำคัญ คือ การบริหารจัดการพลังงาน ผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน (E) และแนวปฏิบัติด้านการจ้างงาน (S) | |||
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก CPALL240318_T
|
ดาวน์โหลดภาพ Info CPALL - 20240318