กำไรสุทธิ 4Q66 ของ HANA อยู่ที่ 125 ลบ. ต่ำกว่าที่ INVX และ consensus คาดค่อนข้างมาก โดยมีสาเหตุมาจากการปรับลดมูลค่าสินค้าคงเหลือในธุรกิจ silicon carbine ซึ่งเป็นรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้ รวมถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอในธุรกิจ IC ผู้บริหารคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวได้บ้างใน 1Q67 เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินบาทจะช่วยสนับสนุนอัตรากำไรขั้นต้นโดยรวม และคาดว่าทุกธุรกิจจะปรับตัวดีขึ้นใน 2H67 เราปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลดลง 29% และปี 2568 ลดลง 26% เพื่อสะท้อนธุรกิจ IC ที่อ่อนแอกว่าคาด เรามองว่าราคาหุ้น HANA ที่ปรับตัวลดลง 32% YTD สะท้อนประเด็นลบไปเรียบร้อยแล้ว แนะนำ OUTPERFORM โดยให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 42 บาท (จาก 66 บาท) กำไรสุทธิ 4Q66 ลดลง QoQ เพราะรายได้ลดลง HANA รายงานกำไรสุทธิ 4Q66 ที่ 125 ลบ.ต่ำกว่าที่ INVX และ consensus คาดการณ์ไว้ที่ ~600 ลบ. ค่อนข้างมาก หลักๆ เกิดจากการปรับลดมูลค่าสินค้าคงเหลือในธุรกิจ silicon carbine (PMS) จำนวน 262 ลบ. ซึ่งเป็นรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้ใน 4Q66 และธุรกิจ IC ที่อ่อนแอกว่าคาด กำไรปกติ 4Q66 ลดลง 49.3% YoY และ 56.2% QoQ หลักๆ เกิดจากรายได้ที่ลดลง 5.1% QoQ จากธุรกิจ IC ซึ่งได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์ที่เกี่ยวข้องกับ consumer electronic ที่อ่อนแออย่างมากท่ามกลางสภาวะอัตราดอกเบี้ยสูงและเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอ และจากธุรกิจ PCBA ซึ่งเป็นผลมาจากอุปสงค์ผลิตภัณฑ์ access control ที่อ่อนแอ ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบทำให้อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมลดลงจาก 15.7% ใน 3Q66 สู่ 5.7% ใน 4Q66 ถ้าเราตัดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียวออกไป พบว่าอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 9.9% ใน 4Q66 ซึ่งยังอยู่ในระดับต่ำ โดยมีสาเหตุมาจากรายได้ที่อ่อนแอ แนวโน้มปี 2567 ผู้บริหารคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะดีขึ้นใน 1Q67 เพราะไม่มีรายการปรับลดมูลค่าสินค้าคงเหลือซึ่งเป็นรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวเหมือนไตรมาสก่อนหน้า และเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ธุรกิจ IC ยังคงได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ที่อ่อนแอ แม้ระดับสินค้าคงเหลือค่อนข้างต่ำ แต่ลูกค้ายังรอดูความชัดเจนของสถานการณ์ตลาดโลกที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากดอกเบี้ยในตลาดโลกที่ยังอยู่ระดับสูง โดยบริษัทคาดว่าอุปสงค์จะฟื้นตัวใน 2Q67 โดยเฉพาะกลุ่ม mobile ที่มักออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และจะเห็นการฟื้นตัวชัดเจนใน 2H67 กลยุทธ์ของบริษัท คือ การลดจำนวนพนักงานและจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ธุรกิจ EMS ผู้บริหารยังค่อนข้างมั่นใจว่าผลการดำเนินงานจะยังคงได้รับการสนับสนุนจากอุปสงค์ในกลุ่มยานยนต์/อุตสาหกรรม รวมถึงกลุ่มการแพทย์ (เครื่องช่วยฟัง) ที่ได้รับผลบวกจากหลักเกณฑ์ใหม่ ธุรกิจ PMS คาดว่าจะดีขึ้นจากการเพิ่มเครื่อง high energy ignition (HEI) เพื่อช่วยลดอัตราการเกิดของเสีย บริษัทวางแผนเพิ่มเครื่อง HEI จาก 1 เครื่องใน 4Q66 เป็น 5 เครื่องใน 1Q68 (+1 เครื่องต่อไตรมาส) จุดคุ้มทุนที่ระดับ EBITDA สำหรับธุรกิจ PMS ยังอยู่ภายในปี 2567 หรือที่รายได้ US$50-55 ล้าน (INVX คาดการณ์รายได้ที่ US$50 ล้านในปี 2567) ปรับประมาณการกำไรปี 2567 เราปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลดลง 29% และปี 2568 ลดลง 26% เพื่อสะท้อนธุรกิจ IC ที่อ่อนแอกว่าคาด โดยปัจจุบันเราคาดว่ารายได้จะเติบโต 5.5% ในปี 2567 สมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นที่เราปรับใหม่อยู่ที่ 13.2% ลดลงจาก 14.5% อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะมีการปรับสมมติฐานเหล่านี้ ประมาณการกำไรปี 2567 ที่เราปรับใหม่ยังคงสะท้อนถึงการเติบโต 11.4% YoY กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ เราปรับราคาเป้าหมายของ HANA ลดลงสู่ 42 บาท (จาก 66 บาท) อ้างอิง PE mean ที่ 19 เท่า เราเชื่อว่าราคาหุ้น HANA ที่ปรับตัวลดลง 32% YTD สะท้อนประเด็นลบส่วนใหญ่ไปเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันหุ้น HANA เทรดที่ระดับ -0.5SD ของ PE mean ดังนั้นเราจึงแนะนำ OUTPERFORM เนื่องจากกำไรมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นใน 2H67 ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ การเปลี่ยนแปลงในกำลังซื้อ และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ความเสี่ยง ESG ที่สำคัญ คือ การจัดการแรงงาน และซัพพลายเออร์ (S) | |||
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก HANA240306_T
|