หลังการประชุมนักวิเคราะห์ เราปรับประมาณการกำไรปี 2565 ของ MTC ลดลง 3% และปี 2566 ลดลง 5% หลักๆ เกิดจากการปรับประมาณการ credit cost เพิ่มขึ้น เราคาดว่า NPL จะเพิ่มขึ้น credit cost จะสูงขึ้น สินเชื่อจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และ NIM จะลดลงใน 4Q65 และปี 2566 เราเชื่อว่าความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพสินทรัพย์สะท้อนในราคาหุ้นไปเรียบร้อยแล้ว และสินเชื่อที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งจะเกิดขึ้นพร้อมกับ NPL และ credit cost ที่สูงขึ้นอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แม้เรายังคงเรทติ้ง OUTPERFORM สำหรับ MTC แต่เราปรับราคาเป้าหมายลดลงสู่ 45 บาท
หลังการประชุมนักวิเคราะห์ เราปรับประมาณการกำไรปี 2565 ของ MTC ลดลง 3% และปี 2566 ลดลง 5% หลักๆ เกิดจากการปรับประมาณการ credit cost เพิ่มขึ้น เราคาดว่า NPL จะเพิ่มขึ้น credit cost จะสูงขึ้น สินเชื่อจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และ NIM จะลดลงใน 4Q65 และปี 2566 เราเชื่อว่าความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพสินทรัพย์สะท้อนในราคาหุ้นไปเรียบร้อยแล้ว และสินเชื่อที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งจะเกิดขึ้นพร้อมกับ NPL และ credit cost ที่สูงขึ้นอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แม้เรายังคงเรทติ้ง OUTPERFORM สำหรับ MTC แต่เราปรับราคาเป้าหมายลดลงสู่ 45 บาท
คาด NPL จะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง MTC คาดว่า NPL จะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงใน 4Q65 และปี 2566 อันเป็นผลมาจากการใช้นโยบายปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้นตั้งแต่ 4Q64 โดยใน 3Q65 สินเชื่อ stage 2 ของบริษัทเพิ่มขึ้นเพียง 2% QoQ น้อยกว่าที่เพิ่มขึ้น 34% QoQ ใน 2Q65 และ 37% QoQ ใน 1Q65 อย่างมาก ซึ่งชี้ให้เห็นว่านโยบายปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้นได้ผลดี และส่งสัญญาณว่า NPL ไหลเข้ามีแนวโน้มที่จะลดลงอีก NPL ส่วนใหญ่เกิดจากสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ (เพิ่งเปิดให้บริการในปี 2564) ซึ่งมีอัตราส่วน NPL สูงที่ 8% บริษัทคาดว่าอัตราส่วน NPL จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ตั้งเป้าที่จะคงอัตราส่วน NPL ไว้ที่ระดับไม่เกิน 3% ภายในสิ้นปี 2566 (เทียบกับ 2.14% ณ 3Q65) บริษัทยอมให้คุณภาพสินทรัพย์ลดลงได้ในระดับหนึ่งเพื่อแลกกับสินเชื่อที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ปรับประมาณการ credit cost เพิ่มขึ้น MTC คาดว่า credit cost สำหรับ 4Q65 และ 1Q66 จะยังอยู่ในระดับสูงเท่ากับจุดสูงสุดใน 3Q65 ที่ 3.5% เราปรับประมาณการ credit cost เพิ่มขึ้น 5 bps สู่ 2.55% สำหรับปี 2565 (3.54% สำหรับ 4Q65) และ 25 bps สู่ 3.25% สำหรับปี 2566
การเติบโตของสินเชื่อจะชะลอตัวลงแต่ยังแข็งแกร่ง MTC ยังคงเป้าการเติบโตของสินเชื่อปี 2565 ไว้ที่ 30-35% สอดคล้องกับประมาณการของเราที่ 32% สำหรับปี 2566 บริษัทคาดว่าการเติบโตของสินเชื่อจะชะลอตัวลงสู่อย่างน้อย 20% (สอดคล้องกับประมาณการของเราที่ 24%) โดยมีสาเหตุมาจากฐานที่ใหญ่ขึ้น
ผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อเลื่อนทำจุดต่ำสุด MTC เชื่อว่าผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อทำจุดต่ำสุดไปแล้วใน 3Q65 ซึ่งเลื่อนมาจาก 2Q65 เราคาดว่าผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อจะเพิ่มขึ้นใน 4Q65 เพราะ MTC ปรับอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้นจาก 15% ใน 2Q65 สู่ 16% ในเดือนส.ค. เราคาดว่าต้นทุนทางการเงินจะเพิ่มขึ้น 8 bps ใน 4Q65 และ 40 bps ในปี 2566 อันเป็นผลมาจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ย เราคาดว่า NIM จะลดลง 4 bps ใน 4Q65 และ 29 bps ในปี 2566
แนวโน้ม 4Q65 และปี 2566 เราปรับประมาณการกำไรของ MTC ลดลง 3% สำหรับปี 2565 (จากการปรับประมาณการตั้งสำรองเพิ่มขึ้น) และ 5% สำหรับปี 2566 (จากการปรับประมาณการตั้งสำรองเพิ่มขึ้น) เราคาดว่ากำไร 4Q65 จะฟื้นตัว YoY (รายได้สูงขึ้น) แต่จะอยู่ในระดับทรงตัว QoQ (รายได้ที่ดีขึ้นจะถูกหักล้างโดย opex ที่สูงขึ้นและการตั้งสำรองเพิ่มขึ้น) สำหรับปี 2566 เราคาดว่ากำไรจะเติบโต 16% (เทียบกับ 5% ในปี 2565) เนื่องจากเราคาดว่าสินเชื่อที่เติบโตดีในระดับ 24% จะถูกฉุดรั้งโดย NIM ที่หดตัวลง 29 bps และ credit cost ที่เพิ่มขึ้น 70 bps
คงเรทติ้ง OUTPERFORM แต่ปรับราคาเป้าหมายลดลง เราปรับราคาเป้าหมายของ MTC ลดลงจาก 49 บาท สู่ 45 บาท (PBV 2.75 เท่า หรือ PE 15.7 เท่า สำหรับปี 2566) แต่ยังคงเรทติ้ง OUTPERFORM เนื่องจากเราเชื่อว่า valuation ที่ถูก (PBV 2.2 เท่า, PE 13 เท่า) สะท้อนความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพสินทรัพย์ไปเรียบร้อยแล้ว
ปัจจัยเสี่ยง 1) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากเงินเฟ้อสูง 2) ความเสี่ยงด้าน NIM จากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และ 3) ความเสี่ยงด้านกฎหมาย