ผลประกอบการ 4Q65 ของ TISCO ออกมาตามคาด โดยสะท้อนถึงคุณภาพสินทรัพย์ที่ทรงตัวพร้อมกับ credit cost ระดับต่ำต่อเนื่อง การเติบโตของสินเชื่อที่ฟื้นตัว NIM ในระดับทรงตัว และ non-NII ที่ลดลง YoY เราคาดการณ์ผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2565 ที่ดีในระดับ 7.55% เราปรับประมาณการกำไรปี 2566 เพิ่มขึ้น 8% (หลักๆ เกิดจากปรับประมาณการ credit cost) โดยคาดว่ากำไรจะเติบโต 5% เรายังคงเรทติ้ง NEUTRAL สำหรับ TISCO ด้วยราคาเป้าหมายที่ปรับเพิ่มขึ้นจาก 103 บาท สู่ 105 บาท
ผลประกอบการ 4Q65 ของ TISCO ออกมาตามคาด โดยสะท้อนถึงคุณภาพสินทรัพย์ที่ทรงตัวพร้อมกับ credit cost ระดับต่ำต่อเนื่อง การเติบโตของสินเชื่อที่ฟื้นตัว NIM ในระดับทรงตัว และ non-NII ที่ลดลง YoY เราคาดการณ์ผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2565 ที่ดีในระดับ 7.55% เราปรับประมาณการกำไรปี 2566 เพิ่มขึ้น 8% (หลักๆ เกิดจากปรับประมาณการ credit cost) โดยคาดว่ากำไรจะเติบโต 5% เรายังคงเรทติ้ง NEUTRAL สำหรับ TISCO ด้วยราคาเป้าหมายที่ปรับเพิ่มขึ้นจาก 103 บาท สู่ 105 บาท
4Q65: ผลประกอบการเป็นไปตามคาด TISCO รายงานกำไรสุทธิ 4Q65 จำนวน 1.81 พันลบ. (+2% QoQ, +1% YoY) และกำไรสุทธิปี 2565 จำนวน 7.22 พันลบ. (+6%) เป็นไปตามคาด โดยสรุปรายการสำคัญได้ดังนี้:
1) คุณภาพสินทรัพย์: อัตราส่วน NPL อยู่ในระดับทรงตัว QoQ credit cost เพิ่มขึ้น 47 bps QoQ สู่ 0.7% ใน 4Q65 credit cost ปี 2565 อยู่ที่ 0.34% (-62 bps) ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2540 LLR coverage เพิ่มขึ้นจาก 248% ณ 3Q65 สู่ 259% ณ 4Q65
2) การเติบโตของสินเชื่อ: เพิ่มขึ้น 3% QoQ และ 8% YoY การเติบโตของสินเชื่อใน 4Q65 ได้แรงหนุนส่วนใหญ่จากสินเชื่อธุรกิจ (+1.3% QoQ, +23.9% YoY) สินเชื่อ SME ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อเพื่อผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ (+17.4% QoQ, +68.8% YoY) และสินเชื่อ auto cash (+4.8% QoQ, +14.8% YoY) ในขณะที่สินเชื่อเช่าซื้อกลับมาเติบโตที่ 1.1% QoQ (-1.9% YoY) และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยยังคงหดตัว -3.6% QoQ (-14.3% YoY)
3) NIM: NIM ลดลง 1 bps QoQ เนื่องจากผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ที่เพิ่มขึ้น 11 bps QoQ ถูกหักล้างโดยต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น 15 bps QoQ
4) Non-NII: เพิ่มขึ้น 22% QoQ ตามฤดูกาล (รายได้ค่าธรรมเนียม กำไรจาก FVTPL และรายได้อื่น) แต่ลดลง 13% YoY (รายได้ค่าธรรมเนียม) รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิเพิ่มขึ้น 8% QoQ ตามฤดูกาล แต่ลดลง 20% YoY ใน 4Q65 ส่งผลทำให้รายได้ค่าธรรมเนียมปี 2565 ลดลง 10%
5) อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้: -201 bps QoQ (+134 bps YoY)
ปรับประมาณการกำไรปี 2566 เพิ่มขึ้น เราปรับประมาณการกำไรปี 2566 เพิ่มขึ้น 8% (หลักๆ เกิดจากปรับประมาณการ credit cost) โดยคาดว่ากำไรจะเติบโต 5% TISCO คาดว่า credit cost จะยังอยู่ในระดับต่ำในปี 2566 เนื่องจาก LLR coverage ระดับสูงที่ 259% สะท้อนความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและการขยายสินเชื่อไปเรียบร้อยแล้ว TISCO ตั้งเป้าสินเชื่อเติบโต 5-10% ในปี 2566 โดยจะเน้นกลุ่มสินเชื่อที่มีหลักประกัน โดยเฉพาะสินเชื่อจำนำทะเบียนและ auto cash ที่ให้ผลตอบแทนสูง และจะกลับมาขยายสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่ เนื่องจากการแข่งขันด้านราคาสมเหตุสมผลมากขึ้นจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น เราคาดว่าสินเชื่อเชื่อจะเติบโต 8% NIM จะลดลง 20 bps (เกิดจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและการปรับอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนฟื้นฟูฯ เพิ่มขึ้น 23 bps) credit cost จะลดลง 4 bps สู่ 0.3% และ non-NII จะเพิ่มขึ้น 4%
ผลตอบแทนจากเงินปันผลน่าสนใจ เมื่อใช้สมมติฐานอัตราการจ่ายเงินปันผล 85% เราคาดว่าเงินปันผลปี 2565 จะอยู่ที่ 7.7 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 7.55%
คงเรทติ้ง NEUTRAL ด้วยราคาเป้าหมายที่ปรับเพิ่มขึ้นสู่ 105 บาท เรายังคงเรทติ้ง NEUTRAL สำหรับ TISCO ด้วยราคาเป้าหมายที่ปรับเพิ่มขึ้นจาก 103 บาท สู่ 105 บาท (1.9 เท่าของประมาณการ BVPS ปี 2566)