เราคาดว่ากำไร 2QFY66 ของ AEONTS จะฟื้นตัว QoQ (ECL ลดลง) แต่ลดลง YoY (ECL สูงขึ้น) เราคาดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะทำให้กำไรของ AEONTS ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปด้วยแรงหนุนจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล แต่ในขณะเดียวกันก็จะได้รับแรงกดดันจากมาตรการแก้หนี้ครัวเรือนของ ธปท. และการทยอยปรับเพิ่มอัตราจ่ายขั้นต่ำสำหรับบัตรเครดิต เรายังคงเรทติ้ง NEUTRAL สำหรับ AEONTS ด้วยราคาเป้าหมายที่ปรับลดลงจาก 180 บาท สู่ 177 บาท พรีวิว 2QFY66: ผ่านจุดที่แย่ที่สุดไปแล้ว เราเชื่อว่ากำไรของ AEONTS ทำจุดต่ำสุดไปแล้วใน 1QFY66 และจะฟื้นตัว 35% QoQ ใน 2QFY66 (มิ.ย.-ส.ค.) แต่จะลดลง 8% YoY สู่ 835 ลบ. ทั้งนี้เมื่อเทียบ QoQ เราคาดว่า: 1) ECL จะลดลง ขณะที่ NPL จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 2) กำไรเล็กน้อยจากการขาย NPL 3) รายได้ดอกเบี้ยสุทธิจะอยู่ในระดับทรงตัว เพราะถูกฉุดรั้งโดย NIM ที่ลดลงอันเป็นผลมาจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น และ 4) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจะอยู่ในระดับทรงตัว ขณะที่เมื่อเทียบ YoY เราคาดว่า: 1) ECL จะเพิ่มขึ้น 2) รายได้ดอกเบี้ยสุทธิจะลดลง (NIM ลดลง) และ 3) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจะสูงขึ้น ปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อลดลง เราปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อปี FY2566 ของ AEONTS ลดลงจาก 6% สู่ 5% เพื่อสะท้อนนโยบายการให้สินเชื่อส่วนบุคคลที่เข้มงวดมากขึ้นใน 1HFY66 เพื่อรับมือกับคุณภาพสินทรัพย์ที่เสื่อมถอยลง AEONTS ได้ปรับสัดส่วนสินเชื่อ ไปยังสินเชื่อบัตรเครดิตมากขึ้น โดยมีสัดส่วนการใช้จ่ายบัตรเครดิตในลักษณะสินเชื่อหมุนเวียนลดลง (สัดส่วนผู้ชำระคืนเต็มจำนวนสูงขึ้น) เราคาดว่าสินเชื่อบัตรเครดิตจะเติบโต 5% (เท่ากับเป้าของ AEONTS) และสินเชื่อส่วนบุคคลจะเติบโต 5% (ต่ำกว่าเป้าของ AEONTS ที่ 8-10%) AEONTS วางแผนเปิดตัวบริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ใน 3QFY66 โดยตั้งเป้าขยายสินเชื่อ 1 พันลบ. ในปี FY2566 เราคาดว่าการเติบโตของสินเชื่อจะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยสู่ 6% ในปี FY2567 และปี FY2568 เพราะถูกฉุดรั้งโดยการดำเนินนโนยายการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (มีผลใช้บังคับเดือนม.ค. 2567) และการกำหนดภาระหนี้ต่อรายได้ (มีผลใช้บังคับปี 2568) ปรับประมาณการ credit cost เพิ่มขึ้น เราปรับประมาณการ credit cost ปี FY2566 เพิ่มขึ้น 20 bps สู่ 8.2% (+35 bps) เพื่อสะท้อนเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาดและคุณภาพสินทรัพย์ที่เสื่อมถอยลงอย่างต่อเนื่องใน 2QFY66 เราคาดว่า credit cost จะค่อยๆ ลดลง 5 bps ในปี FY2567 และปี FY2568 คุณภาพสินทรัพย์ของ AEONTS จะได้รับผลกระทบจากการทยอยปรับเพิ่มอัตราจ่ายขั้นต่ำสำหรับบัตรเครดิตจาก 5% ในปี 2566 สู่ 8% ในปี 2567 และ 10% ในปี 2568 แต่น่าจะได้รับประโยชน์จากนโยบายขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำของรัฐบาล NIM เผชิญแรงกดดัน เราคาดว่าต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น 40 bps จะทำให้ NIM หดตัวลง 84 bos ในปี FY2566 สำหรับปี FY2567 เราคาดว่า NIM จะได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากนโยบายแก้ปัญหาหนี้เรื้อรัง (จ่ายดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้นนาน 5 ปี) สำหรับลูกหนี้ที่มีรายได้น้อย (รายได้ไม่เกิน 10,000 บาทต่อเดือนสำหรับนอนแบงก์) โดยตั้งแต่เดือนเม.ย. 2567 เป็นต้นไป ลูกหนี้ที่เข้าร่วมมาตรการแก้หนี้เรื้อรังจะได้รับทางเลือกในการเปลี่ยนสินเชื่อหมุนเวียนมาเป็นแบบมีระยะเวลา (term loan) และคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 15% ต่อปี (เทียบกับอัตราเพดาน 25%) โดยกำหนดให้การผ่อนชำระปิดจบภายใน 5 ปี AEONTS มีสัดส่วนสินเชื่อส่วนบุคคลอยู่ที่ 47% ณ 1QFY66 และกล่าวว่าบริษัทมีสินเชื่อที่ปล่อยให้กับลูกหนี้ที่มีรายได้ไม่เกิน 10,000 บาทต่อเดือนในสัดส่วน ~5% คงเรทติ้ง NEUTRAL แต่ปรับประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายลดลง เราปรับประมาณการกำไรปี FY2566 และปี FY2567 ของ AEONTS ลดลงปีละ 8% หลักๆ เกิดจากการปรับประมาณการ credit cost เพิ่มขึ้น ดังนั้นเราจึงปรับราคาเป้าหมายลดลงจาก 180 บาท สู่ 177 บาท (PBV 1.65 เท่า และ PE 13.1 เท่า สำหรับปี FY2567) ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: 1) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ไม่ทั่วถึง 2) ความเสี่ยงด้าน NIM จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และ 3) ความเสี่ยงด้านกฎหมายจากมาตรการลดหนี้ครัวเรือนของ ธปท.
|
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม AEONTS230915_T
PDF Click AEONTS230915_E