Company Update

AH – 2Q67: กำไรต่ำกว่าคาดจากยอดขายและมาร์จิ้นที่อ่อนแอ – NEUTRAL (ราคาเป้าหมาย 18.50 บาท)

14 Aug 24 9:00 AM
Slide21b1012744-958c-4e5f-b8d2-02fe460604c5-20240912051208

AH รายงานกำไรสุทธิอ่อนแอที่ 103 ลบ. ใน 2Q67 ลดลง 75% YoY และ 68% QoQ ต่ำกว่า INVX และตลาดคาด 46% จากยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่อ่อนแอ ส่งผลทำให้เราปรับประมาณการกำไรปกติลดลง 9% ในปี 2567 และ 9% ในปี 2568 ในขณะที่ราคาหุ้นที่ลดลงและ valuation ระดับต่ำสะท้อนถึงความคาดหวังค่อนข้างต่ำของตลาด แต่เราเชื่อว่าการที่อุตสาหกรรมยานยนต์ยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจนจะทำให้โอกาสในการ re-rating สำหรับ AH มีจำกัด เราคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ AH โดยปรับราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ใหม่เป็น 18.5 บาท/หุ้น (ลดลงจาก 20 บาท/หุ้น หลังจากปรับประมาณการกำไรลง)

2Q67: กำไรต่ำกว่าคาด AH รายงานกำไรสุทธิอ่อนแอที่ 103 ลบ. ใน 2Q67 ลดลง 75% YoY และ 68% QoQ ต่ำกว่า INVX และตลาดคาด 46% จากยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่อ่อนแอ หากไม่รวมรายการพิเศษ (กำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน) พบว่ากำไรปกติอยู่ที่ 100 ลบ. ลดลง 67% YoY และ 67% QoQ

ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.30 บาท/หุ้น จากผลการดำเนินงาน 1H67 คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 2% ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 27 ส.ค. 2567 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 11 ก.ย. 2567

รายการที่สำคัญ:

·       ยอดขายจากธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ OEM (68% ของยอดขาย) ลดลง 15% YoY และ 14% QoQ สู่ 4.4 พันลบ. เพราะถูกฉุดรั้งโดยการดำเนินงานในประเทศไทยที่อ่อนแอลง (-24% YoY และ -21% QoQ) จากการผลิตรถยนต์ที่ลดลงจากยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ซบเซา ในขณะที่การดำเนินงานในประเทศโปรตุเกสและประเทศจีนแข็งแกร่งกว่า

·       ยอดขายจากธุรกิจตัวแทนจำหน่านรถยนต์ (32% ของยอดขาย) เติบโต 3% YoY แต่ลดลง 13% QoQ สู่ 2.0 พันลบ. การดำเนินงานในประเทศมาเลเซียแข็งแกร่ง (+26% YoY แต่ -8% QoQ) ในขณะที่การดำเนินงานในประเทศไทยอ่อนแอ (-24% YoY และ -19% QoQ) จากแนวโน้มยอดขายรถยนต์ในประทศไทยที่อ่อนแอ AH ได้หยุดการดำเนินงานสำหรับการเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ฉาง อาน (Changan) ในเดือนเม.ย. 2567 และจะหยุดการดำเนินงานสำหรับตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ฟอร์ดทั้งหมดในเดือนต.ค. 2567

·       อัตรากำไรขั้นต้นอ่อนแอที่ 8.6% ใน 2Q67 ลดลงจาก 10.8% ใน 2Q66 และ 9.5% ใน 1Q67

ปรับประมาณการกำไรลดลง เราปรับประมาณการกำไรปกติของ AH ลดลง 9% ในปี 2567 และ 9% ในปี 2568 เพื่อสะท้อนผลประกอบการ 2Q67 ที่อ่อนแอ โดยหลังจากปรับประมาณการกำไร เราคาดว่ากำไรปกติจะลดลง 41% YoY สู่ 1.0 พันลบ. ในปี 2567 ราคาหุ้น AH ปรับตัวลดลง 47% YTD โดยปัจจุบันซื้อขายที่ PE ปี 2567 ระดับ 5.1 เท่า ในขณะที่ราคาหุ้นที่ลดลงและ valuation ระดับต่ำสะท้อนถึงความคาดหวังค่อนข้างต่ำของตลาด แต่เราเชื่อว่าการที่อุตสาหกรรมยานยนต์ยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจนจะทำให้โอกาสในการ re-rating สำหรับ AH มีจำกัด ปัจจัยกระตุ้นคือภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้นซึ่งจะช่วยหนุนความต้องการซื้อรถยนต์ในประเทศและเพิ่มคุณภาพสินเชื่อของผู้ซื้อรถยนต์ซึ่งจะทำให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น เรามองว่านี่จะเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยและผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัว เราคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ AH โดยปรับราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ใหม่เป็น 18.5 บาท/หุ้น (ลดลงจาก 20 บาท/หุ้น หลังจากปรับประมาณการกำไร) อ้างอิง PE 6.3 เท่า หรือ -1SD ของ PE เฉลี่ยย้อนหลังตั้งแต่ปี 2556

ปัจจัยเสี่ยง 1) ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความต้องการซื้อรถยนต์ 2) การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งส่งผลทำให้ห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมยานยนต์หยุดชะงัก และ 3) ข้อพิพาททางกฎหมาย เรามองว่าความเสี่ยง ESG ที่สำคัญ คือ ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม (E) แต่ AH มุ่งมั่นขับเคลื่อนองค์กรสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยกำหนดเป้าหมายไว้อย่างชัดเจน

 

ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก  AH240814_T

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5