Keyword
Company Update

BCH – จะบันทึกรายได้ SC จากค่า RW>2 ตามหลักความระมัดระวัง – OUTPERFORM (ราคาเป้าหมาย 21 บาท)

29 Aug 24 9:00 AM
BCH
สรุปสาระสำคัญ
  • BCH บันทึกรายได้ SC สำหรับค่ารักษาพยาบาลโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง (RW>2) ในอัตราที่ลดลงใน 4Q67 ตามหลักความระมัดระวังในกรณีที่งบประมาณอาจไม่เพียงพอในปี 2567 ซึ่งจะส่งผลทำให้กำไร 4Q67 อ่อนแอ
  • ราคาหุ้น BCH ปรับตัวลดลงมาแล้ว 21% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา และปัจจุบันซื้อขายที่ PE ปี 2568 ระดับ 21 เท่า หรือระดับ -2SD ของ PE เฉลี่ยในอดีต สะท้อนประเด็นลบไปเรียบร้อยแล้ว
  • คงคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ BCH โดยปรับราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี DCF ใหม่เป็น 21 บาท/หุ้น (ลดลงจาก 23 บาท/หุ้น หลังจากปรับประมาณการกำไรลดลง)

BCH จะบันทึกรายได้ SC สำหรับค่ารักษาพยาบาลโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง (RW>2) ในอัตราที่ลดลงใน 4Q67 ตามหลักความระมัดระวังในกรณีที่งบประมาณอาจไม่เพียงพอในปี 2567 ซึ่งจะส่งผลทำให้กำไร 4Q67 อ่อนแอ แต่ถึงแม้ว่าเราจะใช้สมมติฐานว่ามีการจ่ายค่ารักษาพยาบาลโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงลดลง เรายังคงมุมมองว่ากำไรของ BCH มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นในปี 2568 ด้วยอัตราการเติบโต 19% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการขยาย/ปรับปรุงโรงพยาบาล การอัพเกรดโรงพยาบาล และการเพิ่มบริการใหม่ๆ ราคาหุ้น BCH ปรับตัวลดลงมาแล้ว 21% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา และปัจจุบันซื้อขายที่ PE ปี 2568 ระดับ 21 เท่า หรือระดับ -2SD ของ PE เฉลี่ยในอดีต สะท้อนประเด็นลบไปเรียบร้อยแล้ว เรายังคงคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ BCH โดยปรับราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี DCF ใหม่เป็น 21 บาท/หุ้น (ลดลงจาก 23 บาท/หุ้น หลังจากปรับประมาณการกำไรลดลง)


BCH จะบันทึกรายได้ SC สำหรับค่ารักษาพยาบาลโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง (RW>2) ตามหลักความระมัดระวังใน 4Q67 การที่งบประมาณไม่เพียงพอซึ่งส่งผลทำให้มีการปรับลดการจ่ายเงินประกันสังคม (SC) สำหรับค่ารักษาพยาบาลโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง (RW>2) สำหรับการให้บริการในเดือนธ.ค. 2565 และพ.ย.-ธ.ค. 2566 ส่งผลกระทบตามมาต่อการดำเนินงานของ BCH ทำให้บริษัทต้องปรับลดรายได้ออกใน 4Q66 และ 2Q67 ตามลำดับ สำหรับการให้บริการในปี 2567 BCH ได้รับเงินตามอัตราที่กำหนดที่ 12,000 บาท/RW จนถึงเดือนเม.ย. 2567 BCH เผยว่าบริษัทจะบันทึกรายได้ค่า RW>2 ที่ 12,000 บาท/RW สำหรับ 1Q-3Q67 แต่จะบันทึกรายได้ค่า RW>2 ตามหลักความระมัดระวังที่ 7,200 บาท/RW ใน 4Q67 (ซึ่งเป็นอัตราการจ่ายจริงสำหรับเดือนพ.ย.-ธ.ค. 2566) ตามหลักความระมัดระวังในกรณีที่งบประมาณอาจไม่เพียงพออีกครั้งในปี 2567 ซึ่งเรามองว่าจะทำให้กำไรปกติใน 4Q67 ของ BCH ลดลงทั้ง YoY และ QoQ เราปรับประมาณการกำไรปกติของ BCH ลดลง 6% ทั้งปี 2567 และปี 2568 เพื่อสะท้อนการปรับเปลี่ยนการรับรู้รายได้ดังกล่าว เมื่อพิจารณาเป็นรายปี เราใช้สมมติฐานว่าการจ่ายค่ารักษาพยาบาลโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงโดยเฉลี่ยจะปรับลดลงมาอยู่ที่ 10,800 บาท/RW ตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป


แนวทางการลดผลกระทบจากความเสี่ยงดังกล่าว งบประมาณสำหรับค่ารักษาพยาบาลโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงที่ไม่เพียงพอนั้นเกิดจากความต้องการใช้บริการทางการแพทย์ที่สูงกว่าคาด ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหานี้ BCH กล่าวว่าโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการประกันสังคมและสำนักงานประกันสังคมจะร่วมมือกันหาทางออก เช่น การรับประกันอัตราการจ่ายเงินให้เหมาะสมกับความต้องการใช้บริการที่เพิ่มขึ้น โดยโรงพยาบาลเอกชนมีความสำคัญอย่างมากในการดูแลรักษาผู้ประกันตนภายใต้ระบบ SC โดย BCH คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปีนี้ ก่อนที่โรงพยาบาลเอกชนจะเซ็นสัญญาสำหรับการให้บริการ SC ในปี 2568


แม้ปรับประมาณการกำไรลดลง แต่เราคาดว่ากำไรปกติของ BCH จะเติบโต 19% YoY ในปี 2568 เรายังคงมุมมองว่ากำไรของ BCH มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นในปี 2568 โดยได้รับปัจจัยหนุนจาก: 1) การขยาย/ปรับปรุงโรงพยาบาลในปี 2567-2568 2) การอัพเกรดโรงพยาบาลใน 1Q68: โรงพยาบาลการุญเวช ปทุมธานี เป็น โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ปทุมธานี 3) การเพิ่มบริการใหม่ๆ: เปิด ศูนย์มะเร็งรังสีรักษา เกษมราษฎร์อารี (3Q67, BCH ถือหุ้น 51%) และบริการทันตกรรมเคลื่อนที่ (3Q67, BCH ถือหุ้น 60%) และ 4) การดำเนินงานที่เติบโตมากขึ้นที่โรงพยาบาลใหม่ 3 แห่ง: โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล อรัญประเทศ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ปราจีนบุรี และ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เวียงจันทน์  


Valuation ที่ลงมาลึกสะท้อนประเด็นลบแล้ว เรามองว่าราคาหุ้น BCH ปรับตัวลดลงมาแล้ว 21% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา และปัจจุบันซื้อขายที่ PE ปี 2568 ระดับ 21 เท่า หรือระดับ -2SD ของ PE เฉลี่ยในอดีต สะท้อนประเด็นลบแล้ว ปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นจะมาจากข้อสรุปเกี่ยวกับการจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งจะช่วยปลดล็อก overhang ของ BCH จากการปรับเปลี่ยนอัตราการจ่ายเงินของสำนักงานประกันสังคม เรายังคงคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ BCH โดยปรับราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 อ้างอิงวิธี DCF ใหม่เป็น 21 บาท/หุ้น (ลดลงจาก 23 บาท/หุ้น) อิงกับ WACC ที่ 7% และการเติบโตระยะยาวที่ 3%


ปัจจัยเสี่ยง การปรับอัตราการเบิกจ่ายสำหรับโครงการประกันสังคม จำนวนผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการชะลอตัวลง และภาระต้นทุนที่โรงพยาบาลใหม่ เรามองว่าปัจจัยเสี่ยงด้าน ESG คือ ความปลอดภัยของผู้ป่วย (S) ซึ่ง BCH ได้นำเอาระบบบริหารคุณภาพต่างๆ มาใช้สำหรับกระบวนการดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง

 

ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก BCH240829_T

 

In view of a possible budget shortfall in 2024, BCH will conservatively lower its 4Q24 rate for SC revenue record for high-cost care (RW>2), thereby weakening earnings in 4Q24. Even assuming a lower payment for high-cost care, we continue to expect BCH’s earnings to trend up in 2025 with 19% growth backed by capacity expansion and renovations, a hospital upgrade and new services. BCH share price has fallen 21% over the past three months to now trade at 21x 2025PE or -2SD of its historical average, pricing in the negatives. We rate Outperform with a new DCF TP of Bt21/share (down from Bt23/share after the earnings cut).


To proactively lower SC revenue record for high-cost care (RW>2) in 4Q24. The budget shortfall that reduced social security (SC) payments for high-cost care (RW>2) in December 2022 and November-December 2023 hurt operations, leading it to write off revenue in 4Q23 and 2Q24. For services provided this year, BCH received payments at the predetermined rate of Bt12,000/RW through April. It will thus use Bt12,000/RW for 1Q-3Q24 but will slash this to 7,200/RW in 4Q24, the actual payment for November-December 2023, to counter a potential budget shortfall in 2024. In our view, this will pull core earnings down both YoY and QoQ in 4Q24. We have revised down our 2024F and 2025F core earnings by 6% each year to factor in this change. On an annual basis, we assume a lower average payment for high-cost care at Bt10,800/RW from 2024 onward.


How to mitigate this risk? The budget shortfall for the high-cost care is due to higher demand than anticipated for medical care. To address this, BCH says the private hospitals participating in SC services and the Social Security Office will collaborate to find a solution, perhaps guaranteeing payments to match the increase in demand. As private hospitals play a crucial role in handling the care for insured individuals under the SC system, BCH expects a resolution this year before private hospitals sign contracts for 2025 SC services.


Despite the earnings cut, we forecast core earnings growth of 19% YoY in 2025. We maintain our expectation of an earnings uptrend in 2025 backed by: 1) capacity expansion and renovations in 2024-25, 2) upgrade of a hospital in 1Q25, Karunvej Hospital Pathumthani to Kasemrad Hospital Pathumthani, 3) new services: Kasemrad Ari Radiation Oncology Center (3Q24, 51% held by BCH) and a mobile dental service (3Q24, 60% held by BCH) and 4) growing operations at three new hospitals: Kasemrad International Hospital Aranyaprathet, Kasemrad Hospital Prachinburi and Kasemrad International Hospital Vientiane.


Discounted valuation prices in negatives. BCH share price has fallen 21% over the past three months to trade at 21x 2025PE or -2SD of its historical average, pricing in the negatives. A share price catalyst will be resolution of the high-cost care payment that will lift the overhang from changes in SC payment. We keep our Outperform rating on BCH with a new end-2024 DCF TP of Bt21/share (down from Bt23/share), based on WACC at 7% and LT growth at 3%.
Risks. Change in SC reimbursement, slower patient traffic and cost burden at new facilities. We see ESG risk as patient safety (S): BCH has adopted a variety of quality assurance systems to provide continuous patient care.

Click here to read and/or download BCH240829_E

 

Stocks Mentioned
BCH.BK
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5