เราคาดว่า CBG จะรายงานกำไรสุทธิอ่อนแอที่สุดในรอบ 17 ไตรมาส ที่ 365 ลบ. ใน 1Q66 (-44.7% YoY และ -10.4% QoQ) เพราะได้รับแรงกดดันจากรายได้ที่อ่อนตัวลงและอัตรากำไรขั้นต้นที่ทำจุดต่ำสุดใหม่อันเป็นผลมาจากต้นทุนวัตถุดิบและต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น เราปรับประมาณการกำไรปี 2566 ลดลง 24% และปี 2567 ลดลง 23% โดยคาดว่ากำไร 1H66 จะยังคงอ่อนแอ เรายังคงคำแนะนำ tactical call สำหรับ CBG ไว้ที่ NEUTRAL ด้วยราคาเป้าหมายที่ปรับลดลงสู่ 80 บาท/หุ้น
คาดกำไรสุทธิ 1Q66 ลดลง YoY และ QoQ สู่ 365 ลบ. (-44.7% YoY และ -10.4% QoQ) เราคาดการณ์รายได้ 1Q66 ที่ 4.25 พันลบ. (-11% YoY และ -5.2% QoQ) โดยเกิดจากรายได้จากการขายและปริมาณการขายที่ลดลงทั้ง YoY และ QoQ จาก: 1) รายได้จากการขายเครื่องดื่มบำรุงกำลังภายใต้เครื่องหมายการค้าของตนเอง 2) รายได้ต่างประเทศ และ 3) รายได้จากการรับจ้างจัดจำหน่ายให้แก่บุคคลภายนอก ทั้งนี้แม้ว่า CBG ยังคงราคาขายเครื่องดื่มบำรุงกำลังเรือธง คาราบาวแดง ของบริษัทไว้ที่ขวดละ 10 บาท เพื่อเพิ่มปริมาณการขายและส่วนแบ่งการตลาด แต่ยังไม่เห็นผลใน 1Q66 อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ 26% โดยมีสาเหตุมาจากต้นทุนน้ำตาลที่สูงขึ้น (ทั้งในประเทศและส่งออก) โดยปรับขึ้นอย่างน้อย 10% รวมถึงต้นทุนก๊าซธรรมชาติและค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น กำไร 1Q66 มีแนวโน้มที่จะออกมาต่ำสุดในรอบ 17 ไตรมาส และต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ซึ่งใช้สมมติฐานว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้น QoQ
ปรับประมาณการกำไรปี 2566 และปี 2567 ลดลง ตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาดและตลาดส่งออกที่ซบเซา โดยเฉพาะตลาด CLMV ทำให้เราปรับประมาณการรายได้รวมในปี 2566 ลดลง 6% และปี 2567 ลดลง 12% นอกจากนี้เรายังปรับประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นปี 2566 ลดลงจาก 32% สู่ 29% เพราะได้รับแรงกดดันจากต้นทุนน้ำตาล ก๊าซธรรมชาติ และค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น ในขณะที่ต้นทุนอลูมิเนียมจะไม่สูงเท่าปี 2565 ดังนั้นเราจึงปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 ลดลง 24% สู่ 2.34 พันลบ. (+2.5%) และปี 2567 ลดลง 23% สู่ 2.68 พันลบ. (+14%) สำหรับ 2Q66 เราคาดว่าจะเห็นรายได้จากการขายและปริมาณการขายปรับตัวดีขึ้นจากปัจจัยฤดูกาลและแคมเปญการตลาดที่เข้มข้น อย่างไรก็ตาม ต้นทุนและค่าใช้จ่าย SG&A ระดับสูงจะยังคงส่งผลกระทบเชิงลบ รายได้ต่างประเทศน่าจะปรับตัวดีขึ้นจากการเปิดโรงงานแห่งใหม่ในเมียนมา
ปัจจัยเสี่ยงและความกังวล เรามองว่านโยบายด้านราคาสำหรับเครื่องดื่มบำรุงกำลังของ CBG จะส่งผลกระทบเชิงลบ เนื่องจากผู้เล่นอีกสองรายปรับราคาขายขึ้นมาเป็นขวดละ 12 บาทแล้วและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากกว่า การเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดด้วยการเพิ่มปริมาณการท่ามกลางการแข่งขันสูงจะทำให้มีค่าใช้จ่าย SG&A เพิ่มขึ้น ผลกระทบด้านลบทั้งหมดต่อ P&L จะเกิดขึ้นในระยะสั้น-กลาง นอกจากนี้เรายังต้องจับตาดูเศรษฐกิจและนโยบายของกลุ่มประเทศ CLMV ด้วย ต้นทุนวัตถุดิบหลักยังคงผันผวน
Tactical call NEUTRAL ด้วยราคาเป้าหมาย 80 บาท/หุ้น เรายังคงคำแนะนำ tactical call สำหรับ CBG ไว้ที่ NEUTRAL ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 80 บาท/หุ้น (ลดลงจาก 101 บาท/หุ้น) อ้างอิง PE เฉลี่ยที่ 34 เท่า แม้ราคาหุ้นสะท้อนกำไรที่คาดว่าจะอ่อนแอใน 1Q66 และ 1H66 ไปเรียบร้อยแล้ว แต่เราแนะนำให้ wait and see สัญญาณฟื้นตัว เช่น ส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้น และแรงกดดันจากต้นทุนวัตถุดิบหลักๆ ที่ลดน้อยลง
|
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม CBG230424_T