ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น CENTEL ปรับตัวลดลง 8% (เทียบกับ SET ที่ลดลง 2%) เพราะถูกฉุดรั้งโดยผลประกอบการ 3Q66 ที่ออกมาแย่กว่าคาดอีกครั้งตามมาด้วยการปรับประมาณการกำไรลดลง ในขณะที่เราเชื่อว่ากำไรของ CENTEL จะปรับตัวดีขึ้นใน 4Q66-ปี 2567 แต่เรายังคงเรทติ้ง NEUTRAL สำหรับ CENTEL เนื่องจาก risk/reward ยังไม่น่าสนใจ หุ้น CENTEL เทรดที่ PE ปี 2567 ระดับ 34 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต (31 เท่า) และหุ้นกลุ่มเดียวกันอย่าง ERW (31 เท่า) ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ของเราอยู่ที่ 47 บาท/หุ้น (ลดลงจาก 50 บาท/หุ้น หลังจากปรับกำไรลดลง) ปรับประมาณการกำไรลดลงหลังผลประกอบการ 3Q66 แย่กว่าคาด เราปรับประมาณการกำไรปกติของ CENTEL ลดลง 12% ในปี 2566 และ 10% ในปี 2567 หลังจาก CENTEL รายงานผลประกอบการ 3Q66 ที่แย่กว่าคาดอีกครั้ง (Figure 1) ทั้งนี้หลังจากปรับประมาณการกำไรลดลง เราคาดการณ์กำไรปกติของ CENTEL ที่ 1.2 พันลบ. ในปี 2566 ซึ่งบ่งชี้ว่ากำไรปกติ 4Q66 จะอยู่ที่ 414 ลบ. (+YoY, +QoQ) เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของภาคการท่องเที่ยวไทย และ 1.7 พันลบ. ในปี 2567 (+37% YoY) โดยได้แรงหนุนจากธุรกิจโรงแรมที่แข็งแกร่งขึ้น สำหรับปี 2567 การเติบโต YoY จะเกิดขึ้นใน 2Q-4Q67 จากฐานกำไรระดับต่ำใน 2Q-3Q66 ซึ่งเป็นผลมาจากภาระต้นทุนเริ่มแรก (ค่าใช้จ่ายก่อนเปิดดำเนินงานของโรงแรมในโอซาก้า ดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้น และผลกระทบจากมาตรฐานบัญชีเกี่ยวกับสัญญาเช่าของโรงแรมในโอซาก้าและโรงแรมในหัวหิน) และห้องพักที่ปรับปรุงใหม่ส่วนใหญ่จะพร้อมให้บริการใน 3Q67 เราปรับราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ลดลงสู่ 47 บาท/หุ้น (จาก 50 บาท/หุ้น) อ้างอิงวิธี SOTP ธุรกิจโรงแรม: เดือนต.ค. ชะลอตัว คาดเดือนพ.ย.-ธ.ค. ดีขึ้น เดือนต.ค. เป็นเดือนที่ธุรกิจโรงแรมของ CENTEL ชะลอตัวลง เนื่องจาก RevPar (โรงแรมที่บริษัทเป็นเจ้าของ) เติบโต 7% YoY แต่ลดลง 9% จาก 3Q66 หลักๆ ถูกฉุดรั้งโดยเหตุกราดยิงฯ ที่ส่งผลทำให้ RevPar ของโรงแรมในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดลดลง 13% และ 11% จาก 3Q66 ตามลำดับ อย่างไรก็ดี sentiment ที่ดีขึ้นและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น CENTEL จึงคาดว่า RevPar ในเดือนพ.ย.-ธ.ค. จะแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้การดำเนินงานใน 4Q66 ปรับตัวดีขึ้น YoY และ QoQ โรงแรมในโอซาก้า (JV) มีการดำเนินงานที่ดีขึ้น เนื่องจากอัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้นจาก 67% ใน 3Q66 (เปิดเดือนก.ค.) สู่ 77% ในเดือนต.ค. CENTEL คาดว่าโรงแรมแห่งนี้จะรายงานกำไรในปี 2567 โดยอิงกับระดับคุ้มทุนที่อัตราการเข้าพัก 75-80% ห้องพักที่ปรับปรุงใหม่ส่วนใหญ่จะพร้อมให้บริการใน 3Q67 CENTEL เริ่มดำเนินการปรับปรุงใหญ่ที่ Centara Grand Mirage Beach Resort Pattaya (7% ของรายได้, 553 ห้อง) แล้วในเดือนส.ค. 2566 โดยจะทยอยปิดปรับปรุงไปจนถึง 4Q66 เมื่อใช้สมมติฐานว่าการปรับปรุงโรงแรมดังกล่าวแบ่งเป็น 3 เฟส และแต่ละเฟสจะใช้เวลา 6 เดือน ห้องพักที่ปรับปรุงใหม่ 67% จะพร้อมให้บริการใน 3Q67 CENTEL ตั้งเป้า ARR เพิ่มขึ้น 15% สำหรับห้องพักที่ปรับปรุงใหม่ ขณะที่ Centara Karon Resort Phuket (น้อยกว่า 1% ของรายได้) ซึ่งปิดปรับปรุงใหม่ทั้งหมด บริษัทวางแผนกลับมาเปิดให้บริการใน 4Q67 ปรับเป้าธุรกิจอาหารในปี 2566 ลดลง CENTEL ปรับเป้าอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSS) ลดลงสู่ 3-5% (จาก 5-7%) และอัตราการเติบโตของรายได้รวมลดลงสู่ 8-10% (จาก 10-12%) โดยมีสาเหตุมาจากรายได้จากบริการจัดส่งอาการที่ชะลอตัวลงและการขยายสาขาสุทธิที่ลดลงสู่ 50-60 สาขา (จาก 110-130 สาขา) หลังจากปิดสาขาที่ไม่ทำกำไร CENTEL คาดว่าการดำเนินงานร้านอาหารจะดีขึ้นใน 4Q66 โดยได้แรงหนุนจาก SSS ที่เติบโต 4% ในเดือนต.ค. และ EBITDA margin ที่กว้างขึ้นจากแรงกดดันด้านต้นทุนวัตถุดิบและค่าสาธารณูปโภคที่ลดลง และภาระต้นทุนที่ลดลงหลังจากปิดสาขาที่ไม่ทำกำไร ปัจจัยเสี่ยง คือ 1) ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการเดินทาง และ 2) ต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหาร | |||
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก CENTEL231204_T
|