กำไรปกติ 2Q67 ของ CRC ที่อยู่ 1.57 พันลบ. -9% YoY และ -38% QoQ ต่ำกว่าที่เราและตลาดประเมินไว้ เนื่องจากดอกเบี้ยจ่ายสูงกว่าคาด โดยในปี 2567 CRC ปรับเป้าการเติบโตของยอดขายจากธุรกิจค้าปลีกลดลงสู่ 7-9% YoY (จาก 9-11% YoY) และปรับเป้าการเติบโตของ EBITDA ลดลงสู่ 11-13% (จาก 15-17%) แต่คงเป้า EBIT margin ไว้ไม่เปลี่ยนแปลง เราปรับประมาณการกำไรปกติปี 2567 ของ CRC ลดลง 5% เพื่อสะท้อนสมมติฐานยอดขายที่ยึดหลักความระมัดระวังมากกว่าเป้าของบริษัทเพื่อสะท้อน SSS ที่อ่อนแอใน 1H67 และ 3Q67TD ทั้งนี้ด้วยยอดขายที่เติบโตในระดับปานกลาง EBITDA margin ที่ค่อนข้างทรงตัว ดอกเบี้ยจ่ายที่สูง และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนระดับต่ำ เราจึงคาดว่ากำไรปกติ 3Q67 จะเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ โดยจะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว YoY แต่จะลดลงเล็กน้อย QoQ ตามฤดูกาล เรายังคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ CRC โดยปรับราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 อ้างอิงวิธี DCF (WACC 7.1% และอัตราการเติบโตระยะยาวที่ 2.5%) ใหม่เป็น 31 บาท (จาก 40 บาท) กำไรสุทธิ 2Q67 อยู่ที่ 1.66 พันลบ. +6% YoY แต่ -24% QoQ เป็นไปตามคาด แต่หากหักกำไรจากรายการพิเศษจำนวน 93 ลบ. ออก พบว่ากำไรปกติ 2Q67 อยู่ที่ 1.57 พันลบ. -9% YoY และ -38% QoQ ต่ำกว่าที่เราและตลาดประเมินไว้ 6-9% เนื่องจากดอกเบี้ยจ่ายสูง (ต้นทุนทางการเงินและระดับหนี้สูงขึ้น) โดยกำไรที่ลดลง YoY เกิดจากดอกเบี้ยจ่ายและค่าใช้จ่ายภาษีที่สูงขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนที่ลดลง ซึ่งไปหักล้างยอดขายที่เพิ่มขึ้นและ EBIT margin ที่กว้างขึ้นเล็กน้อย กำไรที่ลดลง QoQ เกิดจากปัจจัยฤดูกาล ปรับเป้าการเติบโตของยอดขายปี 2567 ลดลง CRC ปรับเป้าการเติบโตของยอดขายจากธุรกิจค้าปลีกในปี 2567 ลดลงสู่ 7-9% YoY (จาก 9-11% YoY) SSS ใน 3Q67TD เราเชื่อว่า SSS (ค่าเฉลี่ยอย่างง่ายแยกตามกลุ่มธุรกิจ) ปรับตัวลดลง 2% YoY (เทียบกับ -2% YoY ใน 2Q67 และ +0.3% YoY ใน 1Q67) เมื่อแยกตามประเทศ เราคาดว่า SSS จะลดลง 1-2% YoY ในประเทศไทย (กลุ่มฮาร์ดไลน์ที่อ่อนแอหักล้างการปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในกลุ่มแฟชั่นและกลุ่มฟู้ด) และประเทศอิตาลี (จากฐานที่เป็นปกติของปีก่อน และนักท่องเที่ยวชะลอการใช้จ่าย) แต่จะอยู่ในระดับทรงตัว YoY ในประเทศเวียดนาม (การปรับตัวเพิ่มขึ้น 1-2% YoY ในกลุ่มฟู้ดจะถูกหักล้างโดยการปรับตัวลดลง 10-15% YoY ในกลุ่มฮาร์ดไลน์) เมื่อแยกตามกลุ่ม เราคาดว่า SSS จะเติบโต 1-2% YoY ในกลุ่มแฟชั่นและกลุ่มฟู้ด แต่จะลดลง 8% YoY ในกลุ่มฮาร์ดไลน์ การปรับปรุงสาขา CRC ประเมินว่าการปรับปรุงสาขาจะส่งผลลบต่อ SSS ราว 1% YoY ในกลุ่มแฟชั่นในประเทศไทย (เซ็นทรัล ชิดลม ใน 1H67) และอีก 1% YoY ในร้านไทวัสดุ (สาขาบางนา และสาขาบางบัวทอง ใน 1H67) CRC คาดว่ายอดขายในธุรกิจเหล่านี้จะปรับตัวดีขึ้นหลังจากการปรับปรุงภายใน เซ็นทรัล ชิดลม แล้วเสร็จใน 3Q67 (เสร็จบางส่วน) และ 4Q67 (เสร็จสมบูรณ์) และผลกระทบต่อ SSS ที่น้อยลง จากการปรับปรุงร้านไทวัสดุอีก 2 สาขา (สาขาสุรินทร์ และอุบลราชธานี) ใน 2H67 ทั้งนี้ CRC ได้ดำเนินการปรับปรุงร้านและปิดร้าน LV ที่ห้างสรรพสินค้า Rinascente Flagship ในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เป็นการชั่วคราว เริ่มตั้งแต่เดือนมิ.ย. ถึง ก.ย. และการปรับปรุงมอลล์ flagship ที่ GO! ในกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ใน 2H67 โดย CRC มองว่าผลกระทบต่อยอดขายจะอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้ การขยายสาขา CRC ปรับเป้าขยายสาขาร้านขนาดใหญ่ในปี 2567 ลดลงเล็กน้อย โดยตั้งเป้าเปิดร้านไทวัสดุใหม่ 8 สาขา (เทียบกับ 9 สาขา) และร้าน Go Wholesale 6 สาขา (เทียบกับ 7 สาขา) ในประเทศไทย และคงเป้าเปิดห้างสรรพสินค้าใหม่ไว้ที่ 2 สาขา ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต 10 สาขา ในประเทศไทย และ GO! Mall และ hypermarket 3 สาขา ในประเทศเวียดนาม บริษัทคงงบลงทุนปี 2567 ไว้ที่ 2.2-2.4 หมื่นลบ. คงเป้า EBIT margin ปี 2567 ไว้ไม่เปลี่ยนแปลง CRC ยังคงเป้าอัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจค้าปลีกไว้ในระดับทรงตัว YoY หรือ -10 bps YoY ในปี 2567 โดยสัดส่วนยอดขายสินค้ามาร์จิ้นสูงที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มฟู้ด และกลุ่มฮาร์ดไลน์จะถูกหักล้างโดยสัดส่วนยอดขายสินค้ามาร์จิ้นต่ำที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มแฟชั่น (ลูกค้าปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้จ่ายให้สอดรับกับ sentiment ตลาดที่อ่อนแอ) ในขณะที่บริษัทยังคงเป้าลดอัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/ยอดขายที่ 27.5% (ลดลง 50 bps YoY) ด้วยการควบคุมค่าใช้จ่ายมากขึ้น ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ การเปลี่ยนแปลงในกำลังซื้อและนักท่องเที่ยว และนโยบายรัฐบาลใหม่ ความเสี่ยง ESG ที่สำคัญ คือ การบริหารจัดการพลังงาน ผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนและมีคุณภาพ (E) แนวปฏิบัติด้านการจ้างงาน และความปลอดภัยของข้อมูล (S) | ||
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก CRC240816_T
|