Company Earnings

DCC – 2Q67: กำไรลดลง YoY และ QoQ เพราะปริมาณขายลดลง – NEUTRAL (ราคาเป้าหมาย 1.80 บาท)

7 Aug 24 9:00 AM
Slide23-20240911170655

กำไรสุทธิ 2Q67 อยู่ที่ 270 ลบ. ลดลง 2.7% YoY และ 20.7% QoQ เนื่องจากปริมาณขายลดลงเพราะได้รับแรงกดดันจากการแข่งขันที่สูงขึ้นจากกระเบื้องนำเข้า โดยเฉพาะจากจีนและอินเดีย ประกอบกับความต้องการในประเทศลดลงจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาและหนี้ครัวเรือนสูง แนวโน้มยังคงอ่อนแอจากความต้องการกระเบื้องเซรามิคระดับต่ำทั้ง YoY และ QoQ ในช่วงที่เหลือของปีนี้ เรายังคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ DCC โดยให้ราคาเป้าหมาย 1.80 บาท อ้างอิง -0.5SD ของ PE mean ที่ 12.8 เท่า

กำไรสุทธิ 2Q67 อยู่ที่ 270 ลบ. ลดลง 2.7% YoY และ 20.7% QoQ โดยได้รับแรงกดดันจากรายได้ที่ยังคงลดลงต่อเนื่อง 9.6% YoY และ 12.6% QoQ โดยหลักๆ เป็นผลมาจากปริมาณขายกระเบื้องที่ลดลง 14% YoY และ 13% QoQ ปริมาณขายที่ลดลงเกิดจากการแข่งขันที่สูงขึ้นจากกระเบื้องนำเข้า โดยเฉพาะจากจีนและอินเดีย ประกอบกับความต้องการในประเทศลดลงจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาและหนี้ครัวเรือนสูง อย่างไรก็ตาม DCC ได้ดำเนินกลยุทธ์เพื่อบรรเทาผลกระทบดังกล่าว ได้แก่ ปรับราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.0% QoQ และ 4.9% YoY มาอยู่ที่ 169 บาทต่อตารางเมตร และเน้นขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง เช่น กระเบื้องขนาดใหญ่ และกระเบื้องพอร์ซเลน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นสู่ 39.7% ใน 2Q67 จาก 38.9% ใน 1Q67 และ 37.2% ใน 2Q66 ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับมาขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง ต้นทุนราคาก๊าซที่ลดลง และการติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าลดลง

แนวโน้มยังคงท้าทาย กำไรสุทธิ 1H67 คิดเป็น 47.1% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ของเรา เราคาดว่าประมาณการกำไรปี 2567 ของเราจะมี downside เล็กน้อย เนื่องจากคาดว่าปริมาณขายจะลดลงตามฤดูกาลใน 3Q27 ที่เป็นช่วงหน้าฝน และ 4Q24 ที่มีวันหยุดยาว นอกจากนี้เรายังคาดว่าราคา LNG ที่เพิ่มขึ้น 48% ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาจะส่งผลทำให้ต้นทุนก๊าซของ DCC เพิ่มขึ้นใน 2H67 เราคาดว่า DCC จะคงอัตราการใช้กำลังการผลิตไว้ที่ระดับ 70-75% ตลอดทั้งปี 2567 โดยกลยุทธ์ในปัจจุบันยังคงมุ่งเน้นการลดต้นทุนการผลิต และเน้นขายกระเบื้องพอร์ซเลน โดยเฉพาะกระเบื้องพรี เมียมขนาดใหญ่ซึ่งมีมาร์จิ้นสูงกว่ากระเบื้องขนาดปกติ อย่างไรก็ตาม ตลาดระดับล่างยังคงเป็นเป้าหมายหลัก แต่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและหนี้ครัวเรือนสูง

DCC ประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน วงเงิน 500 ลบ. โดยจะซื้อหุ้นคืนจำนวน 250 ล้านหุ้น (2.74% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด) โดยกำหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืนจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค. 2567 ถึงวันที่ 12 ก.พ. 2568 ซึ่งหากคำนวณแล้ว ราคาซื้อเฉลี่ยจะอยู่ที่ระดับ 2.0 บาทต่อหุ้น เราประเมินอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน (D/E) ของ DCC ได้ว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 0.13 เท่า ในปี 2568 มาอยู่ที่ 0.20 เท่า หากใช้วงเงินซื้อหุ้นคืนเต็มจำนวน

อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย 4.1% ต่อปี, XD 19 ส.ค.  คณะกรรมการบริษัทของ DCC มีมติอนุมัติให้บริษัทจ่ายเงินปันผลรายไตรมาสที่ 0.02 บาท/หุ้น (อัตราการจ่ายเงินปันผล 67% จากผลการดำเนินงาน 2Q67 หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย 4.1% ต่อปี)

Valuation และคำแนะนำ เราคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ DCC เนื่องจากเราไม่คิดว่าผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 1.80 บาท อ้างอิง   -0.5SD ของ PE mean 5 ปี ที่ 12.8 เท่า

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ การเปลี่ยนแปลงในกำลังซื้อ และต้นทุนที่สูงขึ้นจากแรงกดดันเงินเฟ้อ ความเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญ คือ การบริหารจัดการพลังงาน ผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับสูง

 

ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก  DCC240807_T

2Q24 net profit was Bt270mn, down 2.7% YoY and 20.7% QoQ on low sales volume, pressured by increased competition from imported tiles, particularly from China and India, coupled with a domestic demand slowdown due to the sluggish real estate market and high household debt. Outlook remains weak, with demand low both YoY and QoQ for the rest of the year. We maintain our NEUTRAL rating with a TP of Bt1.80, based on -0.5 SD of its PE mean of 12.8X.

2Q24 net profit of Bt270mn, down 2.7% YoY and 20.7% QoQ, eroded by a continued fall in revenue at 9.6% YoY and 12.6% QoQ on a 14% YoY and 13% QoQ drop in tile sales volume. Behind the fall in sales volume is higher competition from imported tiles, particularly from China and India, coupled with a domestic demand slowdown due to the sluggish real estate market and high household debt. DCC is working to mitigate the impact, including a 1.0% QoQ and 4.9% YoY increase in average selling price to Bt169/sqm, with an emphasis on higher-margin products - large-format and porcelain tiles – and this plus lower gas cost and more solar rooftops that cut electricity expenses led to a widening in gross margin to 39.7% in 2Q24 from 38.9% in 1Q24 and 37.2% in 2Q23.

Outlook remains challenging. 1H24 net profit accounted for 47.1% of our full-year estimate and we see a small downside to our 2024F on seasonal factors - the rainy season in 3Q24 and holidays in 4Q24. At the same time, the 48% jump in LNG price over the past five months will raise gas cost in 2H24. DCC is maintaining its production capacity at 70-75% throughout 2024, centering its strategy on cutting production costs and focusing on porcelain tile sales, particularly the larger, higher-margin premium tiles. However, the low-end segment remains its primary target as that market is hit by the economic slowdown and high household debt.

DCC announced a share buyback program with a budget of Bt500mn, involving the repurchase of 250mn shares (2.74% of total issued shares). The program is set to run from August 13, 2024 to February 12, 2025, with an estimated average purchase price of Bt2.0 per share. By our estimates, its net debt-to-equity (D/E) ratio will increase to 0.20x from 0.13x in 2025 if the full repurchase amount is used.

Dividend yield 4.1% annualized, XD Aug 19. DCC’s board has approved a quarterly dividend of Bt0.02/share, 67% dividend payout on 2Q24 or 4.1% annualized yield.

Valuation & Recommendation. We maintain our Neutral rating as we do not foresee a significant recovery in performance for the remainder of the year, with a TP of Bt1.80 based on -0.5 SD of its five-year PE mean of 12.8X.

Key risks. Changes in purchasing power, higher costs from inflationary pressure. Key ESG risks are energy management, sustainability products, and high greenhouse gas emission.

Click here to read and/or download file   DCC240807_E
Most Read
Related Articles
Most Read