กำไรสุทธิ 2Q66 อยู่ที่ 1.6 พันลบ. +7% YoY จากยอดขายและรายได้ค่าเช่าและรายได้อื่นที่ดีขึ้น และ +1% QoQ จากปัจจัยฤดูกาล เป็นไปตามตลาดคาด เราคาดว่ากำไร 3Q66 จะเติบโต YoY จากยอดขายและมาร์จิ้นที่ปรับตัวดีขึ้น และ QoQ จากปัจจัยฤดูกาล เรายังคงเรทติ้ง OUTPERFORM สำหรับ HMPRO ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 อ้างอิงวิธี DCF (WACC ที่ 7% และอัตราการเติบโตระระยาวที่ 2.5%) ที่ 17 บาท
กำไรสุทธิ 2Q66 อยู่ที่ 1.6 พันลบ. +7% YoY และ +1% QoQ เป็นไปตามตลาดคาด กำไรที่เพิ่มขึ้น YoY สะท้อนถึงยอดขายและรายได้ค่าเช่าและรายได้อื่นที่ดีขึ้น ซึ่งมากเกินพอชดเชย EBIT margin ที่อ่อนตัวลง ในขณะที่กำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ เกิดจากปัจจัยฤดูกาล
รายได้ 2Q66 แข็งแกร่ง รายได้เติบโต 9% YoY สู่ 1.8 หมื่นลบ. ซึ่งเป็นผลมาจาก SSS ที่เพิ่มขึ้นและการขยายสาขา เราประเมินได้ว่า SSS ที่ร้านโฮมโปรเติบโต 5% YoY (เทียบกับ -1.1% YoY ใน 2Q65 และ 6.0% YoY ใน 1Q66) โดยได้แรงหนุนจาก: 1) การบริโภคในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นในบางภูมิภาคจากการกลับมาดำเนินการได้เป็นปกติของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว 2) ยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในกลุ่มเครื่องทำความเย็น (เครื่องปรับอากาศ พัดลม และ พัดลมไอน้ำ) ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งจากอุณหภูมิที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย และ 3) การจัดแคมเปญ “เก่ามีค่า นำมาแลกใหม่” หรือ “Trade-in” โดยลูกค้าสามารถนำสินค้าชิ้นเก่า อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องปั๊มน้ำ เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ มาแลกรับส่วนลดในการซื้อสินค้าชิ้นใหม่ในประเภทเดียวกันได้ ทั้งนี้ใน 2Q66 HMPRO มีการเปิดสาขาเมกาโฮมใหม่ 3 สาขา ที่นครปฐม เชียงใหม่ และบางแสน รวมถึงมีการปิดโฮมโปร สาขาโลตัส บางแค เพื่อเตรียมเปิดสาขาใหม่ในพื้นที่ใกล้เคียงกันใน 3Q66 บริษัทมีสาขารวมทั้งหมด 122 สาขา ณ สิ้น 2Q66 (+7% YoY และ +2% QoQ) ซึ่งประกอบด้วยโฮมโปร 86 สาขา โฮมโปรเอส 5 สาขา เมกาโฮม 24 สาขา และโฮมโปรในประเทศมาเลเซีย 7 สาขา
EBIT margin 2Q66 อ่อนตัวลงเล็กน้อย YoYอัตรากำไรขั้นต้น กว้างขึ้น 60bps YoY สู่ 26.3% ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงส่วนผสมของกลุ่มสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง และการได้รับส่วนลดจากคู่ค้าที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มสินค้าที่มียอดขายสูงขึ้นตามฤดูกาล ซึ่งช่วยชดเชยการมียอดขายที่ให้มาร์จิ้นต่ำจากร้านเมกาโฮมมากขึ้น อัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/ยอดขาย เพิ่มขึ้น 90bps YoY สู่ 19.5% โดยเกิดจากค่าใช้จ่ายในการเปิดสาขาใหม่ของเมกาโฮม ค่าไฟฟ้าและสาธารณูปโภคที่สูงขึ้น และค่าเสื่อมราคาที่สูงขึ้น รายได้ค่าเช่าและรายได้อื่น เติบโต 14% YoY สู่ 1.1 พันลบ. รายได้ค่าเช่าและบริการเติบโต 15% YoY สู่ 464 ลบ. เป็นผลมาจากการจัดเก็บรายได้ค่าเช่าพื้นที่เช่าในสาขาของโฮมโปรและศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจได้มากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยว รายได้อื่นเพิ่มขึ้น 11% YoY สู่ 650 ลบ. โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับคู่ค้า EBIT margin ลดลง 10bps YoY สู่ 12% เนื่องจากอัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/ยอดขายที่สูงขึ้นไปหักล้างอัตรากำไรขั้นต้นและรายได้ค่าเช่าและรายได้อื่นที่ดีขึ้น
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ การเปลี่ยนแปลงในด้านกำลังซื้อ ต้นทุนที่สูงขึ้นจากแรงกดดันเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และนโยบายรัฐบาลใหม่
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม HMPRO230726_T