
ก่อนไปคิดอะไร
- KCE ประกาศกำไรสุทธิ 2Q23 ที่ 376 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.1% QoQ เนื่องจากการควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายที่ผันแปรตามยอดขายที่ลดลง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการส่งออกที่ลูกค้าจ่ายค่าระวางสินค้าเอง ขณะที่ค่าใช้จ่าย Admin ก็ลดลงเช่นกัน ทำให้ SG&A/sale ในไตรมาสนี้ลดลงเหลือ 10.7% ใน 2Q66 จาก 11.9% ใน 1Q66 ทั้งนี้ตัวเลขยอดขาย และ Gross margin ของบริษัทยังคงอ่อนแออยู่ในไตรมาสนี้ โดยมียอดขายที่ลดลง 2% QoQ หลักๆ เกิดจากยอดขายในรูปสกุลเงินดอลล่าร์ที่ลดลง หลังจากลูกค้ายังมีการ Destocking สินค้าคงเหลือ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง และเป็นช่วง Low season ของธุรกิจ (วันหยุดยาวเยอะ) โดยกำลังการผลิตจริงโดยรวมของ 2Q66 อยู่ที่ 77% จาก 79% ใน 1Q66 โดยยอดขายในไทย (-15% QoQ) ยุโรป (-12% QoQ) และ Asia (-10% QoQ) ขณะที่ยอดขายใน US ยังทรงตัว QoQ และจีนที่เพิ่มขึ้น 2.9% QoQ และเป็นสาเหตุที่เห็น Gross margin ลดลงเหลือ 19.1% ใน ใน 2Q66 จาก 19.6% ใน 1Q66 แม้ว่าต้นทุนวัตถุดิบ และต้นทุนพลังงานเริ่มเห็นการลดลงบ้างแล้ว
หลังไปได้อะไร
- ผู้บริหาร KCE ยังคงมองว่ายอดขายรวมจะดีขึ้นใน 3Q66 หลังเห็นสัญญาณการกลับมา restocking กลับมาระดับปกติ โดย u-rate กลับขึ้นมา Run ที่ 83-85% (US$126-127 ล้านเหรียญฯ) ใน 3Q66 Qtd จาก 6 ล้านเหรียญฯ ใน 2Q66 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง QoQ เล็กน้อยใน 4Q66 (แต่ยังไม่ถึงระดับ 1H65 ที่มี order strong มากที่ระดับ 136 ล้านเหรียญฯ) เช่นเดียวกับ Gross margin ที่ดีขึ้นตามการผลิตที่เพิ่มขึ้น และแนวโน้มราคาวัตถุดิบที่ลดลง โดยคาดว่า Gross margin จะเพิ่มขึ้นเป็น 22-23% ใน 3Q66 จากแค่ 19.4% ใน 1H66 โดยคาดว่าปีนี้จะมียอดขายที่ลดลงประมาณ 4-5% ขณะที่คาดว่าปีหน้าคาดว่าจะกลับมาเติบโตประมาณ 5-10% YoY จากแนวโน้มความต้องการแผงวงจรสำหรับรถยนต์ที่กลับมา นอกจากนี้ยังคาดว่า Gross margin ของบริษัทจะฟื้นตัวแรงมาอยู่ที่ 26-27% ในปี 2567
ความเห็นและกลยุทธ์การลงทุน
- เรายังมองบวกกับ KCE จากผลการดำเนินงานของ KCE จะผ่านจุดต่ำสุดของปีไปแล้วในช่วง 1Q66 โดยคาดการณ์แนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H66 จะเติบโตจากการขยายกำลังการผลิตของผลิตภัณฑ์ Special grade PCB (HDI, 30% ของยอดขายรวม) ที่มี Margin สูงมากขึ้นขึ้น ซึ่ง HDI เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในพวก Break system ในรถยนต์ EV และผลิตภัณฑ์ Radar/Lidar เป็นต้น โดยปัจจุบันมี เครื่อง Laser drill สำหรับใช้กับการผลิต HDI อยู่ 11 เครื่อง ซึ่งผลิตเต็มกำลังอยู่ และยังมี Demand ที่ค่อนข้างสูง โดยปัจจุบันมีการเพิ่มเครื่อง Laser Drill เข้าไปอีก 2 เครื่อง เรียบร้อยแล้ว ขณะที่เครื่อง Laser Drill อีก 2 เครื่องจะมาถึงในปลายเดือนส.ค. 66 ซึ่งโดยรวมจะสามารถเพิ่ม Capacity ของ HDI ได้เป็นทั้งหมด 750,000 ตารางฟุตต่อเดือน หากติดตั้งทั้งหมด 4 เครื่อง ซึ่งจะช่วยทำให้ overall sale และ Gross margin เพิ่มขึ้นได้ใน 2H66 และต้นทุนที่คาดว่าจะลดลง โดยเฉพาะราคาทองแดงในตลาดโลก และค่าไฟฟ้าที่มีแนวโน้มลดลง (สัดส่วน 9% ของต้นทุนรวม ใน 1H66 จาก 7% ใน 4Q65) ขณะที่ราคาหุ้นของคู่แข่งในอุตสาหกรรม อย่าง Chin-poon Industrial, TTM Technologies, CMK Crop และ Meiko ต่างก็เห็นสัญญาณการฟื้นตัวแล้วเช่นกัน
- ความเสี่ยง เศรษฐกิจโลกหากถดถอยรุนแรงมากกว่าคาดจะกระทบต่อปริมาณความต้องการแผงวงจร PCB โดยรวม ความผันผวนของต้นทุนวัตถุดิบตามราคาน้ำมันในตลาดโลก และค่าเงินบาทจะกระทบอัตราทำกำไรได้
- เรามีปรับลดประมาณการปีนี้ลง 30% เพื่อ fine-tune รายได้ และ Gross margin ตาม guidance ใหม่ของทางบริษัท แต่เรายังคงประมาณการปี 2567 โดยเรามีการ roll-over target price ไปเป็นปี 2567 ได้ราคาเป้าหมายเท่าเดิมที่ 61 บาท อิง 29X หรือ 5 ปี PE mean โดยรวมยังแนะนำให้ทยอยสะสม จากแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นใน 2H66 ต่อเนื่องถึง 2567
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม KCE_Stock Note 230810_T