Keyword
Company Update

บทวิเคราะห์รายบริษัท : MAKRO

21 Feb 23 9:00 AM
makro5b6d440a-26f0-47c8-9f0e-a81006660126-20240912042621

กำไรปกติ 4Q65 ออกมาตามคาดที่ 2.7 พันลบ. +5% YoY และ +68% QoQ เราคาดว่ากำไรปกติ 1Q66 จะเติบโต YoY เพราะยอดขายจากการค้าปลีก (SSS เติบโตในระดับ low teen YoY สำหรับธุรกิจ B2B และเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวระดับต่ำสำหรับธุรกิจ B2C ใน 1Q66TD) และรายได้ค่าเช่าจะปรับตัวดีขึ้น แต่จะลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล การรีไฟแนนซ์หนี้สกุลดอลลาร์สหรัฐเสร็จใน 1H66 เพื่อขจัดความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่สูงขึ้นจะเป็นปัจจัยกระตุ้นในระยะถัดไป คงเรทติ้ง OUTPERFORM ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 อ้างอิงวิธี DCF ที่ 46 บาท

กำไรสุทธิ 4Q65 อยู่ที่ 2.5 พันลบ. -72% YoY แต่ +54% QoQ เป็นไปตามคาด หากตัดขาดทุนพิเศษจากค่าใช้จ่ายในการชำระหนี้คืนก่อนกำหนดจำนวน 225 ลบ. ในธุรกิจ B2C ออกไป พบว่ากำไรปกติ 4Q65 อยู่ที่ 2.7 พันลบ. +5% YoY และ +68% QoQ กำไรปกติที่เติบโต YoY เกิดจากธุรกิจ B2B ที่ดีขึ้น ขณะที่กำไรปกติที่เติบโต QoQ เกิดจากธุรกิจ B2B และธุรกิจ B2C ที่ปรับตัวดีขึ้นตามฤดูกาล ทั้งนี้หลังจากจ่ายเงินปันผลงวด 1H65 ในอัตรา 0.18 บาท/หุ้น MAKRO ก็ประกาศจ่ายเงินปันผลงวด 2H65 ในอัตรา 0.33 บาท/หุ้น (XD วันที่ 27 เม.ย.)

ธุรกิจ B2B (ธุรกิจค้าส่ง; MAKRO) ใน 4Q65 กำไรปกติจากธุรกิจ B2B อยู่ที่ 2.4 พันลบ. +21% YoY จากยอดขายที่สูงขึ้น และ +53% QoQ จากปัจจัยฤดูกาล รายได้จากการขายเติบโต 12% YoY โดยได้รับการสนับสนุนจากการขยายสาขาและ SSS ที่เติบโต 9.6% YoY (เทียบกับ 4.1% YoY ใน 4Q64 และ 8.9% YoY ใน 3Q65) MAKRO เปิดสาขาใหม่ 8 สาขา ใน 4Q65 ส่งผลทำให้บริษัทมีสาขารวมทั้งหมด 162 สาขา โดยมีพื้นที่ขายสุทธิ (NSA) อยู่ที่ 0.85 ล้านตร.ม. (+4% YoY และ +3% QoQ) ณ สิ้น 4Q65 อัตรากำไรขั้นต้นและอัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/ยอดขาย ไม่เปลี่ยนแปลง YoY โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการปรับปรุงร้านเพื่อขายออนไลน์ B2B Marketplace และการขยายสาขา รวมถึงค่าไฟฟ้าสูงขึ้น

ธุรกิจ B2C (ธุรกิจค้าปลีก; Lotus’s) ใน 4Q65 กำไรปกติจากธุรกิจ B2C อยู่ที่ 293 ลบ. -31% YoY (รับรู้ผลการดำเนินงานเป็นเวลา 68 วัน) เพราะถูกฉุดรั้งโดยค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่สูงขึ้น (+29% YoY) อันเป็นผลมาจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและและเงินบาทที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐสำหรับเงินกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐ แต่ดีกว่า 29 ลบ. ใน 3Q65 จากปัจจัยฤดูกาล สำหรับธุรกิจค้าปลีก SSS เติบโต 2.4% YoY ในประเทศไทย (เทียบกับ -6.1% YoY ใน 4Q64) และ -2.4% YoY ในมาเลเซีย (เทียบกับ +2.2% YoY ใน 4Q64) บริษัทปิดสาขาไป 1 สาขา ใน 4Q65 ส่งผลทำให้มีสาขารวมทั้งหมด 2,643 สาขา โดย NSA อยู่ที่ 1.8 ล้านตร.ม. (ทรงตัว YoY) ณ สิ้น 4Q65 สำหรับธุรกิจให้เช่า พื้นที่ให้เช่าสุทธิถาวร (NLA) อยู่ที่ 1.06 ล้านตร.ม. (+4% YoY) โดยอัตราการเช่าพื้นที่อยู่ที่ 90% ในประเทศไทย และ 93% ในมาเลเซีย และส่วนลดค่าเช่าลดลง อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 18.1% (-170bps QoQ) สำหรับธุรกิจค้าปลีก และ 60% (+640bps QoQ) สำหรับธุรกิจให้เช่า อัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/ยอดขาย ลดลง 20bps YoY

ความคืบหน้าในการรีไฟแนนซ์หนี้ ในเดือนต.ค. 2565 MAKRO ได้รีไฟแนนซ์เงินกู้จำนวน US$449 ล้าน (1.7 หมื่นลบ.) และเงินกู้สกุลบาทจำนวน 6.9 พันลบ. ด้วยการออกหุ้นกู้สกุลบาทจำนวน 2.3 หมื่นลบ. ในเดือนม.ค. 2566 บริษัทได้รีไฟแนนซ์เงินกู้จำนวน US$760 ล้าน (2.5 หมื่นลบ.) และเงินกู้สกุลบาทจำนวน 1.6 พันลบ. ด้วยเงินกู้สกุลบาทใหม่จำนวน 1.0 หมื่นลบ. และกระแสเงินสดภายในกิจการ บริษัทตั้งเป้ารีไฟแนนซ์เงินกู้ส่วนที่เหลืออีก US$490 ล้าน (1.6 หมื่นลบ.) และเงินกู้สกุลบาท 1.75 หมื่นลบ. ภายใน 1H66

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ การเปลี่ยนแปลงในด้านกำลังซื้อและต้นทุนที่สูงขึ้นจากแรงกดดันเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และการอ่อนค่าของเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ 

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5