Keyword
Company Update

OR – พรีวิว 2Q66: คาดกำไรลดลงเล็กน้อย QoQ – OUTPERFORM (ราคาเป้าหมาย 27 บาท)

2 Aug 23 10:05 AM
03082023-11-20240911155653
or

กำไรสุทธิ 2Q66 ของ OR (ประกาศ 9 ส.ค.) คาดว่าจะลดลง 5% QoQ สู่ 2.8 พันลบ. (-56.9% YoY) โดยมีสาเหตุมาจากปริมาณการขายที่ลดลงตามฤดูกาลและค่าการตลาด (กำไรขั้นต้น/ลิตร) ที่แคบลงของกลุ่มธุรกิจ Mobility (ธุรกิจน้ำมัน) แม้เราคาดว่า EBITDA margin ของกลุ่มธุรกิจ Lifestyle (ธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน) จะปรับตัวดีขึ้น QoQ จากการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น ผลกระทบของฐานสูงใน 1H65 จะทำให้กำไร 1H66 ของ OR ปรับตัวลดลง 44% YoY แต่เราคาดว่ากำไร 2H66 จะฟื้นตัวอย่างโดดเด่น YoY เรายังคงคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิจะเติบโต 31% สู่ 1.36 หมื่นลบ. ในปี 2566 โดยอิงกับกำไรขั้นต้นตามหลักความระมัดระวังที่ 1 บาท/ลิตร เทียบกับ 0.98 บาทในปี 2565 และค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 0.97 บาท เรายืนยันเรทติ้ง OUTPERFORM สำหรับ OR ด้วยราคาเป้าหมายที่ 27 บาท อ้างอิง EV/EBITDA ที่ 14 เท่า

กลุ่มธุรกิจ Mobility: ปริมาณการขายลดลงตามฤดูกาล ปริมาณการขายน้ำมันดีเซลให้กับโรงไฟฟ้าที่ลดลงคาดว่าจะฉุดรั้งให้ปริมาณการขายโดยรวมของ OR ปรับตัวลดลง 1.5% QoQ สู่ 6.9 พันล้านลิตรใน 2Q66 ทรงตัว YoY ปริมาณการขายน้ำมันดีเซลให้กับโรงไฟฟ้าคิดเป็น 5% ของปริมาณการขายโดยรวมใน 1Q66 และคาดว่าจะลดลงสู่ <1% ใน 2Q66 เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติกลับสู่ระดับปกติ นอกจากนี้เรายังคาดว่ากำไรขั้นต้น/ลิตรจะลดลงจาก 1.01 บาท สู่ 0.8 บาท/ลิตร โดยมีสาเหตุมาจาก lag time ในการปรับราคาขายน้ำมันอากาศยาน ในขณะที่ค่าการตลาดของธุรกิจค้าปลีกยังคงแข็งแกร่ง เราประเมินว่า EBITDA ของกลุ่มธุรกิจนี้จะลดลง 37% QoQ

กลุ่มธุรกิจ Lifestyle: คาด EBITDA margin เพิ่มขึ้นเล็กน้อย EBITDA จากกลุ่มธุรกิจ Lifestyle คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยใน 2Q66 (+5.4% QoQ) โดยเกิดจาก EBITDA margin ที่ดีขึ้นและปริมาณการขายที่สูงขึ้นของร้านคาเฟ่ อเมซอน (+2% QoQ) ซึ่งเป็นผลมาจากการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น ในขณะที่บริษัทสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันไว้ได้จากการทำสัญญาระยะยาวกับซัพพลายเออร์ เราประเมินว่า EBITDA margin ของกลุ่มธุรกิจ Lifestyle จะเพิ่มขึ้นจาก 24.2% ใน 1Q66 สู่ 25% ใน 2Q66

กลุ่มธุรกิจ Global: ปริมาณการขายในฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้น ธุรกิจในฟิลิปปินส์ของ OR จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนกำไรของกลุ่มธุรกิจ Global ใน 2Q66 เนื่องจากบริษัทชนะประมูลการจัดหาเชื้อเพลิงการบินในตลาดภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าส่วนแบ่งกำไรจากกลุ่มธุรกิจ Global จะยังคงอยู่ในระดับที่น้อยมาก

ยังคงคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต 31% ในปี 2566 แม้กำไรสุทธิ 1H66 จะลดลง YoY จากฐานสูง แต่ค่าการตลาดที่ดีขึ้นและค่าใช้จ่ายด้านการตลาดที่ลดลงในปี 2566 จะช่วยหนุนให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 31% สู่ 1.36 หมื่นลบ. หลังจากสะดุดลงในปี 2565 โดยใช้สมมติฐานกำไรขั้นต้นของกลุ่มธุรกิจ Mobility ที่ 1 บาท/ลิตร และ EBITDA margin ของกลุ่มธุรกิจ Lifestyle ที่ 24.5% ต่ำกว่า 24.8% ในปี 2565 เล็กน้อย เพื่อสะท้อนต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น

ราคาเป้าหมาย 27 บาท อ้างอิง EV/EBITDA ที่ 14 เท่า เราประเมินมูลค่า OR โดยอิงกับ EV/EBITDA (ปี 2566) ที่ 14 เท่า ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของธุรกิจค้าปลีกในตลาดไทย หรือเทียบเท่ากับ P/E (ปี 2566) ที่ 23.6 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปี 2564-2565 ที่ 29 เท่าเล็กน้อย และ PBV 2.9 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยปี 2564-2565 ที่ 3.2 เท่า ทั้งนี้เราให้ EV/EBITDA เป้าหมายสำหรับ OR สูงกว่าบริษัทอื่นๆ ในธุรกิจการตลาดน้ำมัน เพื่อสะท้อนความเป็นผู้นำในตลาดของบริษัท

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจะส่งผลกระทบต่อความต้องการผลิตภัณฑ์น้ำมันและผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่น้ำมันของ OR ในขณะที่ความผันผวนของราคาน้ำมันอาจทำให้มีขาดทุนสต๊อกมากขึ้น ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ คือ การแทรกแซงของรัฐบาลในการกำหนดเพดานราคาขายปลีกน้ำมัน (โดยเฉพาะน้ำมันดีเซล) การแข่งขันที่สูงขึ้น และต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นซึ่งไม่สามารถส่งผ่านได้

PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม  OR230802_T
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5