SAT รายงานกำไรสุทธิ 2Q67 ที่ 140 ลบ. ลดลง 37% YoY และ 25% QoQ ต่ำกว่าที่ INVX และ consensus คาดการณ์ไว้ 12% หลักๆ เกิดจากยอดขายที่อ่อนแอ กำไรที่ลดลง YoY และ QoQ ถูกฉุดรั้งโดยยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่อ่อนแอลงจากการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยที่ชะลอตัวลง การที่อุตสาหกรรมยานยนต์ยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจนทำให้โอกาส re-rating ของหุ้นมีจำกัด เราจึงคงคำแนะนำ UNDERPERFORM สำหรับ SAT โดยให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ที่ 13 บาท/หุ้น 2Q67: กำไรต่ำกว่าคาด SAT รายงานกำไรสุทธิ 2Q67 ที่ 140 ลบ. ลดลง 37% YoY และ 25% QoQ ต่ำกว่าที่ INVX และ consensus คาดการณ์ไว้ 12% หลักๆ เกิดจากยอดขายที่อ่อนแอ กำไรที่ลดลง YoY และ QoQ ถูกฉุดรั้งโดยยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่อ่อนแอลงจากการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยที่ชะลอตัวลง SAT ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.25 บาท/หุ้น จากผลการดำเนินงาน 1H67 คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 2% ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 21 ส.ค. 2567 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 6 ก.ย. 2567 รายการที่สำคัญ · ยอดขายอ่อนแอที่ 1.7 พันลบ. ใน 2Q67 ลดลง 20% YoY และ 6% QoQ โดยใน 2Q67 ชิ้นส่วน OEM สำหรับรถยนต์เพื่อการพาณิชย์คิดเป็น 70% ของยอดขาย รองลงมา คือ รถแทรกเตอร์ที่ 19% และรถยนต์นั่งที่ 11% ยอดขายชิ้นส่วน OEM ถูกฉุดรั้งโดยอุตสาหกรรมยานยนต์ที่อ่อนแอ โดยยอดผลิตรถยนต์ของประเทศไทยลดลง 16% YoY และ 16% QoQ จากยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ซบเซาที่ลดลง 24% YoY และ 12% QoQ ยอดผลิตรถแทรกเตอร์ลดลง 15% YoY และ 18% QoQ ทั้งนี้ยอดขายใน 2Q67 เป็นการดำเนินงานรายไตรมาสที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2555 ไม่รวมช่วงที่เกิดสถานการณ์ COVID-19 ในปี 2563 · อัตรากำไรขั้นต้นอ่อนแอที่ 15.6% ใน 2Q67 ลดลงจาก 18.0% ใน 2Q66 และ 16.3% ใน 1Q67 จากยอดขายที่อ่อนแอ · SAT มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง บริษัทมีสถานะปลอดหนี้ โดยมีเงินสดในมือ 1.4 พันลบ. ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2567 คงคำแนะนำ UNDERPERFORM สำหรับ YTD ราคาหุ้น SAT ปรับตัวลดลงมาแล้ว 35% underperform SET ที่ลดลง 8% เรามีมุมมองระมัดระวังต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และคาดการณ์ยอดผลิตรถยนต์ที่ 1.66 ล้านคัน หรือลดลง 10% ในปี 2567 การที่อุตสาหกรรมยานยนต์ยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจนทำให้โอกาส re-rating ของหุ้นมีจำกัด ดังนั้นเราจึงคงคำแนะนำ UNDERPERFORM สำหรับ SAT โดยให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ที่ 13 บาท/หุ้น อ้างอิง PE 7.8 เท่า หรือ -1SD ของ PE เฉลี่ยย้อนหลังตั้งแต่ปี 2553 ปัจจัยกระตุ้นคือภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้นซึ่งจะช่วยหนุนความต้องการซื้อรถยนต์ในประเทศและเพิ่มคุณภาพสินเชื่อของผู้ซื้อรถยนต์ซึ่งจะทำให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น เรามองว่านี่จะเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยและผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัว ปัจจัยเสี่ยง ปัจจัยเสี่ยง คือ ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการซื้อรถยนต์ ยอดผลิตรถแทรกเตอร์ที่อ่อนแอ และราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น เรามองว่าความเสี่ยง ESG ที่สำคัญ คือ ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม (E) แต่ SAT มุ่งมั่นขับเคลื่อนองค์กรสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยกำหนดเป้าหมายไว้อย่างชัดเจน | ||
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก SAT240809_T
|