เราปรับประมาณการกำไรปี 2567 ของ SAWAD ลดลง 7% (หลักๆ เกิดจากการปรับประมาณการ credit cost เพิ่มขึ้น) เราคาดว่ากำไรจะเติบโตในอัตราชะลอตัวลงจาก 13% ในปี 2566 สู่ 8% ในปี 2567 ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของสินเชื่อที่ชะลอตัวลง NIM ที่ลดลง และ credit cost ที่สูงขึ้น แม้ valuation อยู่ในระดับต่ำที่ PE 10 เท่า หลังจากราคาหุ้นปรับตัวลดลง 35% ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา แต่เรายังคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ SAWAD และปรับราคาเป้าหมายลดลงจาก 50 บาท สู่ 47 บาท เพราะมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับคุณภาพสินทรัพย์ ปรับประมาณการ credit cost เพิ่มขึ้น เราปรับประมาณการ credit cost ปี 2567 เพิ่มขึ้นจาก 2.5% สู่ 2.75% เพื่อสะท้อนราคารถมือสองที่ลดลง (-21% QoQ) มากกว่าคาดใน 4Q66 การยึดรถที่เร่งตัวขึ้นมาก และสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ที่สูงขึ้น ประมาณการของเรายึดหลักความระมัดระวังมากกว่า SAWAD ที่ตั้งเป้าไว้ว่า credit cost จะกลับคืนสู่ระดับปกติที่ 1.5-1.8% ในปี 2567 ซึ่งเรามองว่าต่ำเกินไป เนื่องจากสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ที่มีความเสี่ยงสูงเพิ่มขึ้นพร้อมกับ NPL ที่สูงขึ้น credit cost ปี 2567 ที่เราคาดการณ์ไว้ที่ 2.75% ประกอบด้วย 4% สำหรับสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ (สัดส่วน 31%), 2% สำหรับสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ (สัดส่วน 24%), 0.5% สำหรับสินเชื่อโฉนดที่ดิน (สัดส่วน 23%), 3% สำหรับสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ (สัดส่วน 17%) และ 8% สำหรับสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน (สัดส่วน 5%) ซึ่งสอดคล้องกับอุตสาหกรรม บริษัทคาดว่าอัตราส่วน NPL ของสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์จะเพิ่มขึ้นจาก 2.6-2.7% ใน 3Q66 สู่ 3% ใน 4Q66 และ 4% ในปี 2567 SAWAD ได้เร่งยึดรถจักรยานยนต์ใน 2H66 และคาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลงในปี 2567 หลังจากบริษัทลด LTV ลงจาก 100% สู่ 70-90% สำหรับสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ บริษัทก็ปรับ LTV ลดลงจาก 50% สู่ ~40% การเติบโตของสินเชื่อจะชะลอตัวลงแต่ยังแข็งแกร่ง เราคาดว่า SAWAD จะมีการเติบโตของสินเชื่อปี 2567 ที่ดีที่ 20% ชะลอตัวลงจาก 77% ในปี 2566 (เทียบกับ 46% ไม่รวมบริษัทเงินสดทันใจ) NIM จะลดลงมาก เราคาดว่า NIM จะลดลง 108 bps ในปี 2567 โดยมีสาเหตุมาจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น ไม่มีดอกเบี้ยรับที่เกิดขึ้นครั้งเดียวจำนวน 250 ลบ. (จากการเลื่อนชั้นสินเชื่อจาก stage 3 เป็น stage 2) เกิดขึ้นอีก และการปรับอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์จาก 32% เป็น 23% หลังจากมีการบังคับใช้เพดานอัตราดอกเบี้ยในเดือนม.ค. 2566 บริษัทปรับอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้นจาก 15% สู่ 18% ในเดือนก.ค. เพื่อเพิ่ม NIM ปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลดลง เราปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลดลง 7% เพื่อสะท้อน credit cost ที่สูงขึ้น เราคาดว่า SAWAD จะรายงานกำไรเติบโต 8 % ในปี 2567 ซึ่งเป็นผลมาจากสินเชื่อที่เติบโต 20% credit cost ที่เพิ่มขึ้น 75 bps สู่ 2.75% (เนื่องจากสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้นและราคารถมือสองลดลง) และ NIM ที่ลดลง 108 bps (ไม่มีรายได้พิเศษ 250 ลบ. เกิดขึ้นอีก และผลตอบแทนจากสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ลดลงหลังจากมีการบังคับใช้เพดานอัตราดอกเบี้ย 23% สำหรับสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ตั้งแต่เดือนม.ค. 2566) พรีวิวผลประกอบการ 4Q66 เราคาดว่ากำไรจะลดลง 3% QoQ แต่จะเพิ่มขึ้น 11% YoY (จากการเข้าซื้อ FM เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2566) สู่ 1.38 พันลบ. ใน 4Q66 ซึ่งจะส่งผลทำให้กำไรปี 2566 เติบโต 14% เราคาดว่าสินเชื่อจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องที่ 6% QoQ และ 77% YoY ใน 4Q66 โดยได้แรงหนุนจากสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ขณะที่คาดว่า NIM จะลดลง 54 bps QoQ โดยมีสาเหตุมาจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นและผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อที่ลดลง (สินเชื่อรถจักรยานยนต์) และไม่มีรายได้พิเศษเกิดขึ้นอีก เราคาดว่า credit cost จะเพิ่มขึ้น 40 bps QoQ (+65 bps YoY) สู่ 1.8% ใน 4Q66 ซึ่งจะส่งผลทำให้ credit cost ปี 2566 อยู่ที่ 2% (+182 bps) เราคาดว่าอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้จะเพิ่มขึ้น QoQ จากการมีขาดทุนจากรถยึดมากขึ้น คงเรทติ้ง NEUTRAL และปรับราคาเป้าหมายลดลงจาก 50 บาท สู่ 47 บาท (อ้างอิง PBV 1.95 เท่า หรือ PE 12 เท่า สำหรับปี 2567) เพื่อสะท้อนการปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลดลง และ ESG discount จากกรณีคดีฟ้องร้องเกี่ยวกับ market conduct ปัจจัยเสี่ยง 1) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวไม่ทั่วถึงและราคารถมือสองที่ลดลง 2) ความเสี่ยงด้าน NIM จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่สูงขึ้น 3) การแข่งขันที่สูงขึ้นจากธนาคาร 4) ความเสี่ยงด้านกฎหมาย และ 5) ความเสี่ยง ESG จากคดีฟ้องร้องศาล | |||
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก SAWAD240209_T
|