หลังจากราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น >30% ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา เราจึงปรับเรทติ้งสำหรับ SAWAD ลดลงจาก NEUTRAL สู่ UNDERPERFORM โดยคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 48 บาท เรายังคงมุมมองว่า SAWAD จะเห็นการเติบโตของสินเชื่อที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง NIM ลดลง (ได้รับผลกระทบจาการคุมเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น) การตั้งสำรองเพิ่มขึ้น และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ลดลง (จากการลด opex เพื่อรับมือกับการคุมเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อ) ในปี 2566
หลังจากราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น >30% ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา เราจึงปรับเรทติ้งสำหรับ SAWAD ลดลงจาก NEUTRAL สู่ UNDERPERFORM โดยคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 48 บาท เรายังคงมุมมองว่า SAWAD จะเห็นการเติบโตของสินเชื่อที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง NIM ลดลง (ได้รับผลกระทบจาการคุมเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น) การตั้งสำรองเพิ่มขึ้น และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ลดลง (จากการลด opex เพื่อรับมือกับการคุมเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อ) ในปี 2566
พรีวิว 4Q65 เราคาดว่ากำไร 4Q65 ของ SAWAD จะเพิ่มขึ้น 6% YoY และ 2% QoQ สู่ 1.2 พันลบ. โดยบริษัทจะกลับมาตั้งสำรองใน 4Q65 หลังจากโอนกลับสำรองใน 3Q65 และ 4Q64 เราคาดว่าสินเชื่อจะยังคงเติบโตแข็งแกร่งอย่างมากที่ 13% QoQ และ 60% YoY ใน 4Q65 หลักๆ ได้แรงหนุนจากสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ ทั้งนี้แม้ต้นทุนทางการเงินจะสูงขึ้น แต่เราคาดว่า NIM จะขยายตัวใน 4Q65 โดยมีสาเหตุมาจากการมีสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ที่ให้ผลตอบแทนสูงเพิ่มมากขึ้น เราคาดว่า opex ใน 4Q65 จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ QoQ เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายครั้งเดียวจำนวน 273 ลบ. เหมือนในไตรมาสก่อนหน้า
ยังคงตั้งเป้าขยายสินเชื่อเชิงรุก SAWAD ตั้งเป้าสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์เติบโต >40% และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถเติบโต 20-25% ในปี 2566 เราคาดว่าสินเชื่อจะเติบโต 27% ในปี 2566 (20% สำหรับสินเชื่อจำนำทะเบียนรถและสินเชื่อส่วนบุคคล และ 40% สำหรับสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์) เทียบกับ 60% (18% สำหรับสินเชื่อจำนำทะเบียนรถและสินเชื่อส่วนบุคคล และ 300% สำหรับสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์) ในปี 2565 บริษัทคาดว่าการบังคับใช้เพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ที่ 23% (มีผลวันที่ 10 ม.ค. 2566) จะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการรายเล็ก ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ SAWAD เพิ่มส่วนแบ่งตลาด
NIM จะได้รับผลกระทบจากการคุมเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อและต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น เราคาดว่า NIM จะลดลง 78 bps ในปี 2566 อันเป็นผลมาจากการบังคับใช้เพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ที่ 23% และต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น เนื่องจากสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์คิดเป็นสัดส่วน 29% ของสินเชื่อรวม ณ 3Q65 และโดยปกติแล้ว SAWAD คิดอัตราดอกเบี้ย >30% เราคาดว่าต้นทุนทางการเงินของบริษัทจะเพิ่มขึ้น 45 bps ในปี 2566
อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้มีแนวโน้มปรับตัวลดลง ทั้งนี้เพื่อลดผลกระทบจากการคุมเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ SAWAD จึงวางแผนลดอัตราค่าคอมมิชชั่นสำหรับดีลเลอร์ลงราว 50-70% จากระดับปัจจุบันที่ 10-12% การไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษจำนวน 273 ลบ. และการประหยัดต่อขนาดมากขึ้นจะทำให้อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญใน 4Q65 และปี 2566
กลับมาตั้งสำรอง SAWAD คาดว่าจะกลับมาตั้งสำรองใน 4Q65 หลังจากโอนกลับสำรองจำนวน 121 ลบ. ใน 3Q65 (หลักๆ เกิดจาก BFIT) เราคาดว่า credit cost จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วสู่ 1.42% ใน 4Q65 (หมายความว่า credit cost ในปี 2565 จะอยู่ที่ 0.25% เทียบกับ -1.24% ในปี 2564) และ 3% ในปี 2566 เนื่องจากบริษัทมี LLR coverage ระดับต่ำที่ 50% ของ NPL และ 1.3% ของสินเชื่อรวม ประกอบกับ NPL มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการขยายสินเชื่อเชิงรุก
ปรับเรทติ้งลดลงสู่ UNDERPERFORM โดยคงราคาเป้าหมายไว้ไม่เปลี่ยนแปลง ราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น >30% ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เราปรับเรทติ้งสำหรับ SAWAD ลดลงจาก NEUTRAL สู่ UNDERPERFORM โดยคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 48 บาท (PBV 2.3 เท่า)
ปัจจัยเสี่ยง 1) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากเงินเฟ้อสูง 2) ความเสี่ยงด้าน NIM จากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และ 3) ความเสี่ยงด้านกฎหมาย