เราคาดว่ากำไรสุทธิ 4Q66 ของ SCGP จะปรับตัวดีขึ้น QoQ โดยได้แรงหนุนจากผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นของสายธุรกิจเยื่อและกระดาษจากกลับมาผลิตเต็มกำลังของโรงงานผลิตเยื่อกระดาษหลังจากหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ใน 3Q66 รวมถึงราคาเยื่อใยสั้นที่ปรับตัวขึ้นแรง เราคาดว่าโมเมนตัมเชิงบวกจะยังคงดำเนินต่อไปใน 1Q67 เพราะธุรกิจบรรจุภัณฑ์กระดาษมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นโดยได้แรงหนุนจากความต้องการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นของจีนและราคาบรรจุภัณฑ์กระดาษที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เรายังคงเรทติ้ง OUTPERFORM สำหรับ SCGP โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 51 บาท อ้างอิง -0.5SD PE คาด SCGP รายงานกำไรสุทธิ 4Q66 ที่ 1.44 พันลบ. +8.3% QoQ และ +219.0% YoY โดยได้แรงหนุนจากผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นของสายธุรกิจเยื่อและกระดาษจากกลับมาผลิตเต็มกำลังของโรงงานผลิตเยื่อกระดาษหลังจากหยุดซ่อมบำรุงใหญ่เป็นเวลา 2 สัปดาห์ใน 3Q66 ประกอบกับราคาเยื่อใยสั้นที่สูงขึ้นจาก US$524/ตัน ใน 3Q66 สู่ US$628/ตัน ใน 4Q66 รวมถึงไม่มีค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงที่บันทึกใน 3Q66 ~100 ลบ. ด้วย ประมาณการ 4Q66 เราประเมินรายได้ที่ 3.20 หมื่นลบ. +1.5% QoQ โดยเกิดจากรายได้จากสายธุรกิจเยื่อและกระดาษที่ดีขึ้นอันเป็นผลมาจากปริมาณการผลิตและ ASP ที่ปรับตัวดีขึ้น ในขณะที่คาดว่ารายได้จากสายธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรจะอยู่ในระดับทรงตัว QoQ เพราะช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจในประเทศไทย (45% ของรายได้) และฟิลิปปินส์ จะถูกชดเชยโดยธุรกิจในอินโดนีเซีย (14% ของรายได้) ที่ปรับตัวดีขึ้นด้วยแรงหนุนอุปสงค์จากจีน ทั้งนี้จีนนำเข้ากระดาษบรรจุภัณฑ์สูงถึง 850,000 ตันในเดือนพ.ย. 2566 สูงกว่าระดับเฉลี่ยก่อนเกิดโควิดที่ 800,000 ตันต่อเดือน ธุรกิจในเวียดนาม (14% ของรายได้) ยังแข็งแกร่งต่อเนื่องซึ่งเป็นผลมาจากอุปสงค์ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าคงทนที่แข็งแกร่ง ดังเห็นได้จากผู้ผลิตรองเท้า (ลูกค้ารายใหญ่ของ SCGP) ที่เพิ่มสายการผลิตเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายของผู้บริโภคโดยรวมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นสู่ 18.0% (+24bps QoQ และ +343bps YoY) จาก ASP โดยรวมที่สูงขึ้น อัตราการใช้กำลังการผลิตที่ดีขึ้น และการควบคุมต้นทุนถ่านหินได้ดี ทั้งนี้ SCGP ได้ทำการล็อกราคาและปริมาณถ่านหินสำหรับ 4Q66 ไว้ในช่วงที่ราคาถ่านหิน (ดัชนี ICI) อยู่ในระดับต่ำที่ US$70-75/ตัน (เทียบกับ US$80/ตันใน 4Q66 และ US$72/ตันใน 3Q66) พัฒนาการเชิงบวกใน 1Q67 ผู้บริหารคาดว่าราคาและปริมาณการขายกระดาษบรรจุภัณฑ์จะฟื้นตัวต่อเนื่องใน 1Q67 เนื่องจากราคากระดาษบรรจุภัณฑ์ภายในประเทศจีนจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามการนำเข้ากระดาษบรรจุภัณฑ์ พัฒนาการเหล่านี้น่าจะส่งผลบวกต่อธุรกิจในอินโดนีเซีย โดยผู้บริหารคาดว่าธุรกิจในอินโดนีเซีย (Fajar Paper) จะถึงจุดคุ้มทุนในปี 2567 กลยุทธ์และคำแนะนำ เราเชื่อว่าราคาหุ้น SCGP ที่ปรับตัวลดลงสะท้อนปัจจัยลบไปเรียบร้อยแล้ว เราคาดว่ากำไรปกติจะปรับตัวดีขึ้นใน 1Q67 ซึ่งจะช่วยจำกัด downside risk เรายังคงเรทติ้ง OUTPERFORM สำหรับ SCGP โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 51 บาท อ้างอิงระดับ -0.5SD historical PE mean ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวช้าหลังเปิดประเทศ และผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว | |||
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก SCGP240110_T
|